วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ และวัด (น.ส.พ.ดีโพลมาข่าวสายกลางเสนอข่าว เฉพาะคลิปแรกคลิปต่อไปไม่ใช่ของเรา)

หนังสือพิมพ์
ดีโพลมานิวส์
ฉบับข่าว
สายกลาง
ฉบับวันที่
ก.พ.2561
ผู้อำนวยการ
เกรียงไกร
(พรเทพ)
ไตรสัมฤทธิ์ผล
บรรณาธิการ
ผู้พิมพ์
มีทนายช่วย
เหลือคนจน
เป็นองค์กรที่ไม่แสวง
หาผลกำไร
0992612588

ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ และวัด (๑)
                                                                                                                 นายอุดมศักดิ์ ชูโตชนะ
                                                                                                                 นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ
                                                                                                                  สถาบันพระสังฆาธิการ
          ชาวพุทธโดยทั่วไปมักได้ยินและคุ้นเคยคำว่า ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ และวัด โดยส่วนใหญ่เข้าใจความหมายที่ไม่ตรงกับกฏหมาย และผลที่จะเกิดในทางกฎหมาย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕  มาตรา ๓๑ กำหนดให้วัดมี ๒ อย่างคือ วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาอย่างหนึ่ง และสำนักสงฆ์ อีกอย่างหนึ่ง  สำหรับสำนักสงฆ์นั้นไม่ปรากฎว่าพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้บัญญัติความหมายไว้ว่าหมายถึงอะไร แต่ย้อนกลับไปดูพระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์ฉบับแรก ได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๕ กำหนดว่า วัดมี ๓ อย่าง คือ พระอารามหลวง อารามราษฎร์ และ ที่สำนักสงฆ์ และกำหนดให้ความหมายของคำว่า “ที่สำนักสงฆ์” คือวัดซึ่งยังไม่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
          ต่อมาเมื่อมีการยกเลิกพระราชบัญญัติลักษณปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ และตราพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ ขึ้นใช้บังคับแทน มาตรา ๓๘ กำหนดให้วัดมี ๒ อย่าง คือ วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา อย่างหนึ่ง และสำนักสงฆ์ อีกอย่างหนึ่ง ต่อมาได้มีการยกเลิกพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔ และตราพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันขึ้นใช้บังคับแทน โดยมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ กำหนดให้วัดมี ๒ อย่าง คือ วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาอย่างหนึ่ง และสำนักสงฆ์ อีกอย่างหนึ่ง โดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ที่ตราขึ้นในภายหลังมิได้มีบทบัญญัติให้เห็นว่ามีความประสงค์จะให้ลักษณะของสำนักสงฆ์มีความหมายเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติลักษณปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑  จึงต้องถือว่าสำนักสงฆ์ หมายถึง วัดที่ยังไม่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
          
จากที่อ้างถึงพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จึงพอสรุปได้ว่า ที่พักสงฆ์ หมายถึงสถานที่พำนักพักพิงชั่วคราวของพระภิกษุสามเณร ซึ่งยังมิได้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย        ที่พักสงฆ์ จึงไม่มีสิทธิใช้คำว่า สำนักสงฆ์ หรือ วัด นำหน้าชื่อสถานที่ แต่หากดำเนินการขอสร้างวัด และตั้งวัดตามระเบียบของทางราชการ เมื่อได้รับอนุญาตให้สร้างวัด และตั้งวัดโดยถูกต้องตามกฎหมาย จึงจะถือว่าเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ และวัด(๒)
                                                                                         นายอุดมศักดิ์ ชูโตชนะ
                                                                                         นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ
                                                                                        
สถาบันพระสังฆาธิการ
          ตอนที่ผ่านมาได้อธิบายความหมายของคำว่าที่พักสงฆ์ คือสถานที่พำนักพักพิงชั่วคราวของพระภิกษุสามเณรซึ่งยังมิได้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วการจะเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายมีขั้นตอนอย่างไรนั้น ก็ต้องเข้าใจก่อนว่า ตามมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ นั้น วัดมี ๒ อย่างคือ วัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาอย่างหนึ่ง และสำนักสงฆ์ อีกอย่างหนึ่ง ให้วัดมีฐานะเป็นนิติบุคคล เจ้าอาวาสเป็นผู้แทนของวัดในกิจการทั่วไป  ส่วนการสร้างวัดและตั้งวัดนั้นให้เป็นไปตามวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง  โดยที่ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๗) ซึ่งออกตามความในมาตรา ๖ และ มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕  บัญญัติว่า
      ข้อ ๑ บุคคลใดประสงค์จะสร้างวัด ให้ยื่นคำขออนุญาตต่อนายอำเภอท้องที่ที่จะสร้างวัดนั้น พร้อมด้วยรายการและเอกสาร ดังต่อไปนี้
          (๑) หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดินที่จะยกให้สร้างวัดและที่ดินนั้นต้องมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า ๖ ไร่
          (๒) หนังสือสัญญา ซึ่งเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรือผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามกฎหมายทำกับนายอำเภอ และเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอ แสดงความจำนงจะให้ที่ดินดังกล่าวใน (๑) เพื่อสร้างวัด
          (๓) จำนวนเงินและสัมภาระที่จะใช้ในการสร้างวัดในระยะเริ่มแรก ต้องมีราคารวมกันไม่น้อยกว่า    ห้าหมื่นบาท
          (๔) แผนที่แสดงเขตที่ตั้งวัด ประกอบด้วยเขตติดต่อข้างเคียง และระยะทางระหว่างวัดที่จะสร้างขึ้นกับวัดอื่นโดยรอบ และให้แสดงแผนผังสิ่งก่อสร้างของวัดตามความเหมาะสมของสภาพที่ดินโดยอาศัยแผนผังตามแบบ ก. แบบ ข. หรือแบบ ค. ท้ายกฎกระทรวงนี้เป็นหลักเท่าที่จะทำได้
          (๕) กำหนดเวลาที่จะสร้างวัดให้แล้วเสร็จตามแผนผังนั้น
   ข้อ ๒ วัดที่จะสร้างขึ้นต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ดังนี้
          (๑) สมควรเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์
         (๒) เป็นประโยชน์แก่ประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในรัศมี ๒ กิโลเมตร โดยเฉลี่ยวัดละไม่ต่ำกว่า  ๑,๐๐๐ คน เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็น
         (๓) มีเหตุผลเชื่อได้ว่า เมื่อตั้งขึ้นแล้วจะได้รับการบำรุงส่งเสริมจากประชาชน
         (๔) ตั้งอยู่ห่างจากวัดอื่นไม่น้อยกว่า ๒ กิโลเมตร เว้นแต่จะมีเหตุจำเป็น
          เมื่อได้มีการพิจารณาการปรึกษาและการรายงานการขอสร้างวัดโดยหน่วยราชการต่างๆตามลำดับจนถึงมหาเถรสมาคมแล้วให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติออกหนังสือให้สร้างวัดได้ โดยอาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหาร อำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และ        มติมหาเถรสมาคมครั้งที่ ๓๐/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๕
          สำหรับการขอตั้งวัดตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๗) ข้อ ๔ เมื่อได้สร้างเสนาสนะขึ้นเป็นหลักฐาน พร้อมที่จะเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ได้แล้ว ให้ผู้ได้รับอนุญาตสร้างวัด ทายาท หรือผู้แทน เสนอรายงานการก่อสร้างวัดและจำนวนพระภิกษุที่จะอยู่ประจำไม่น้อยกว่า ๔ รูป พร้อมทั้งเสนอนามวัดพระภิกษุซึ่งสมควรเป็นเจ้าอาวาสเพื่อขอตั้งเป็นวัดต่อนายอำเภอและเมื่อมีการพิจารณา  การปรึกษาและการรายงานการขอตั้งวัดโดยหน่วยงานราชการต่างๆตามลำดับ จนถึงมหาเถรสมาคมพิจารณาเห็นชอบด้วย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะได้ประกาศตั้งวัดในราชกิจจานุเบกษาตามแบบ ว.๑ ท้ายกฎกระทรวง  จากบทบัญญัติของกฎหมายและกฎกระทรวงดังกล่าว
          จะเห็นได้ว่า วัดที่จะมีฐานะเป็นนิติบุคคลซึ่งหมายความรวมถึงวัดประเภทสำนักสงฆ์ด้วยนั้น หลังจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติออกหนังสืออนุญาตให้สร้างวัดแล้ว ยังจะต้องมีการดำเนินการเพื่อขอตั้งเป็นวัดต่อนายอำเภอและผ่านขั้นตอนการพิจารณา การปรึกษาและการรายงานการขอตั้งวัด โดยหน่วยงานราชการต่างๆ ตามลำดับ จนเมื่อมหาเถรสมาคมพิจารณาเห็นชอบด้วยแล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะจัดทำประกาศตั้งวัดเพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายลงนามประกาศแล้วจึงจะประกาศตั้งเป็นวัดในราชกิจจานุเบกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินำขึ้นทะเบียนวัดต่อไป
          ดังนั้นวัดประเภทสำนักสงฆ์ ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลและมีเจ้าอาวาสเป็นผู้แทนในกิจการทั่วไปนั้นจะต้องมีการดำเนินการตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจนกระทั่งมีการประกาศตั้งเป็นวัดในราชกิจจานุเบกษาแล้ว หากอยู่ระหว่างการดำเนินการขอตั้งวัดก็จะเรียกว่า ที่พักสงฆ์ ซึ่งวัดประเภทสำนักสงฆ์และวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมานั้น เมื่อเป็นนิติบุคคลแล้วย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือกฎหมายอื่น และมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดาตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๖ และมาตรา ๖๗ บัญญัติไว้  เช่นมีอำนาจในการทำ     นิติกรรมกับบุคคลภายนอกโดยผ่านทางเจ้าอาวาส สิทธิในการมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ป้องกันรักษาทรัพย์สิน และติดตามทรัพย์สินกลับคืน สิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองมิให้ใครมาละเมิด เป็นต้น ซึ่งจะได้นำเสนอรายละเอียดในตอนต่อๆไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
   
โปรดคลิกที่ภาษาอังกฤษหรือรูปสามเหลี่ยมตรงกลางเพื่อดูคลิปที่เคลื่อนไหวได้(ถ้ามี)บางข่าวอาจจะไม่มีคลิปภาพเคลื่อนไหว
นี่คือตัวอย่างข่าวบางส่วนบางหน้าเท่านั้นที่เราได้นำไปลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ของเรามาแล้วครั้งหนึ่งตามวันที่ซึ่งระบุไว้คำว่า(ประจำวันที่.....)
สื่อสิ่งพิมพ์น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ข่าวสายกลางจะเคียงคู่ไปด้วยกันกับสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือเสมอ
Diplomanews Online/Saiglang Press Newspaper
Grianggrai Trai  (chern){ Director }
...( Chern)...威武)名前マイティ( 姓陳chern
 (เครดิต)ขอให้เครดิตชื่อด้านล่างนี้เท่านั้น(credit)


………………………..

(เครดิต)ขอให้เครดิตชื่อด้านบนนี้เท่านั้น)(credit)  

(เครดิต)(ดีโพลมานิวส์ข่าวสายกลางนำเสนอเฉพาะคลิปที่มีชื่อซึ่งเราให้เครดิตเท่านั้น)

คลิปอื่นไม่เกี่ยวกับเราๆไม่ขอนำเสนอ
*****************
ทีมงานน.ส.พ.)ดีโพลมานิวส์ข่าวสายกลาง)มีผู้บริหารดังนี้)
บ.ก.เกรียงไกร(พรเทพ)ไตรฯ(พี่เทพ) (บรรณาธิการและ)
หัวหน้ากองบรรณาธิการ)/อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และ)
ห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม)/อดีตคอลัมนิสต์)น.ส.พ.เดลิมิเร่อร์)
ปัจจุบันผู้อำนวยการ)น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ข่าวสายกลาง)
ปัจจุบันเป็นผู้ทำข่าวคลิปแรกส่งยูทูบในฐานะPartner-youtube)
ยินดีลงข่าวให้กับทุกท่านในยูทูบ)เพราะเราคือผู้ทำข่าวส่งให้ยูทูบ)ในฐานะPartner-youtube)
และเป็นหัวหน้าสำนักงานขมรม)สื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ)
(มี้...เสริมศิริ   )บรรณาธิการบริหาร)/วิลาสินี เจริญสุข(ที่ปรึกษา)-ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ
EIAM  SAETANG(นามจีนผ.อ.)(ฝ่ายเท็คนิคและทำข่าวส่งยูทูบ)
รองฯ กรรณชัย)รองบรรณาธิการ(นามปากกาผู้กองแอ๊ด”)
ปฐมภพ หิรัญสัจจาเลิศ(ประธานที่ปรึกษาผ.อ.)(นามปากกา “คนสายกลาง”)
วิทยา ลิขิตบรรณศักดิ์/ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ
สมชัย นามปากกา ราชพฤกษ์/ที่ปรึกษา ผู้อำนวยการ
จตุพล(นามปากกาอัพเดท)/สุพรรณษา แซ่อั๊ง)นามปากกา"ผักบุ้ง)
ทีมงานจังหวัดขอนแก่น(ดอกคูณเมืองขอนแก่น)/สุนันทา  ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ
บุญรุ่ง(ที่ปรึกษาผ.อ.)/นามปากกา(คนเดลิมิเร่อร์)
วิลาสินี เจริญสุข(ที่ปรึกษา)-/ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ชมรมสื่อมวลชน)และเพื่อนทนายความ)....ที่ปรึกษากฎหมาย)เรามีทนายความ)ช่วยเหลือคนจน)
เสริมสุข ขวัญปัญญา)(ฝ่ายข่าวกฎหมาย)/นงลักษณ์ สุขจิรัง)(ฝ่ายข่าวกฎหมาย)
ชาติชายฯ(ที่ปรึกษากฎหมาย)
099-2612588(มีไลน์)รวมสื่อต่างๆแล้วเรามี)ผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน)
dpm2554@gmail.com)(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก)
Apinunsanggaew(ที่ปรึกษาผ.อ.)นามปากกาคนพิเศษ”)
ผู้ควบคุมคอลัมน์apinunpress.tumblr.com
โฆษณาเราไม่ได้นำมาลงเอง/
ทุกๆตำแหน่งและทุกๆกิจกรรมของเราไม่หวังผลกำไรใดๆทั้งสิ้นฟรีทุกอย่าง
(ข่าวของเราจะต้องมีคำว่า(ดีโพลมา)เท่านั้น)                                               
คลิปอื่นที่ไม่มีชื่อ(ดีโพลมา)เราไม่เกี่ยวและไม่ขอนำเสนอ        
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น