วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หนุ่มร้องสื่อถูกตำรวจเมืองเพชรบุรีล่อซื้อยาบ้า1เม็ด(ดีโพลมา1238)

หนุ่มร้องสื่อถูกตำรวจเมืองเพชรบุรีล่อซื้อยาบ้า1เม็ด(ดีโพลมา1238) 

หนุ่มร้องสื่อถูกตำรวจเมืองเพชรบุรีล่อซื้อยาบ้า1เม็ด(ดีโพลมา1238)
 
จับมัดมือใส่กุญแจ
 
 
http://www.posttoday.com/media/content/2013/06/11/94C5FD69FA884B68A5FC0B553404CCD3.jpg
 
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่อ
อาชญากรรม ได้พา นางสมลักษณ์ เนียมใหม่ อายุ 28 ปี นายสมเกียรติ เนียมใหม่ อายุ 19 ปี น้อง
ชายนางสมลักษณ์ ซึ่งตกเป็นจำเลยคดีครอบครองยาบ้า 1 เม็ด และนายพิเชษฐ์ พุ่มนาค อายุ 40
ปี เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน กรณีที่นายเลิศศักดิ์ จันทร์จวง อายุ 28 ปี สามีนาง
สมลักษณ์ ถูกตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ล่อซื้อและจับกุมคดียาบ้า พร้อมกับนายสมเกียรติ น้องเขย
โดยมิชอบ และพาดพิงว่า นายพิเชษฐ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็น เหตุเกิดที่
ลานจอดรถศิรสิทธิ์แมนชั่น หมู่ 1 ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี ต่อเนื่องที่บ้านพัก และ ที่ สภ.เมือง
เพชรบุรี เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะที่กำลังช่วยนายเลิศศักดิ์ พี่เขย ทำเคาท์เตอร์ อยู่ที่ลานจอดรถของศิร
สิทธิ์แมนชั่นอยู่นั้น ก็มีตำรวจกลุ่มหนึ่งประมาณ 7-8 คน เดินเข้ามาหาและจับคอเสื้อตนจากด้าน
หลัง จากนั้นก็ซักถามตนกับพี่เขยว่าเอาของไปเก็บไว้ไหนซึ่งตนก็ตอบกลับไปว่าของอะไรไม่รู้เรื่อง
ตำรวจก็ถามอีกว่าเสพยาหรือไม่ตนก็ตอบว่าไม่ได้เสพ แต่พี่เขยตนบอกว่าเคยเสพนานมาแล้วตอน
นี้เลิกแล้ว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ตำรวจจับตนใส่กุญแจมือ และนำตัวไปพร้อมกับพี่เขย เพื่อไปตรวจค้นที่
บ้านพักห่างจากจุดที่จับกุมกว่าสิบกิโลเมตร แต่ทั้งจุดที่จับกุมและบ้านพักก็ไม่พบยาเสพติดแต่
อย่างใด แต่เมื่อไปถึงสถานีตำรวจก็ถูกนำตัวไปที่ห้องฝ่ายสืบสวนซึ่งตำรวจได้ข่มขู่ให้ตนรับ
สารภาพในคดีครอบครองยาบ้า 1 เม็ด หากไม่รับข้อหานี้ก็ถูกข้อหาจำหน่ายยาบ้าร่วมกับพี่เขย
ส่วนตัวพี่เขยก็ถูกตำรวจข่มขู่และบังคับให้รับว่าจำหน่ายยาบ้า 1 เม็ดเช่นกันทั้งๆ ที่ไม่ได้ก่อคดีดัง
กล่าว ทั้งนี้ระหว่างที่ถูกจับกุมตำรวจก็ไม่ได้มีการนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแต่อย่างใด
หลังจากนั้นก็มีการส่งสำนวนคดีเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาลขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน
ขณะที่ นางสมลักษณ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางวันของวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์หา
นายเลิศศักดิ์ สามีทำให้ทราบว่าสามี และนายสมเกียรติ น้องชายที่ไปช่วยสามีทำเคาท์เตอร์อยู่ที่
ศิรสิทธิ์แมนชั่นกำลังถูกตำรวจจับกุมในคดียาเสพคติดจึงรีบเดินทางไปหาก็พบตำรวจกลุ่มหนึ่ง
กำลังรื้นค้นรถของสามีอยู่ ส่วนสามีและน้องชายก็ถูกควบคุมตัวไว้จึงสอบถามตำรวจไปว่ามาจับกุม
ในคดีอะไร มีหมายจับหรือไม่ แต่ตำรวจคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มนั้นก็บอกว่า อย่างเขาไม่ต้องใช้หมาย
ถ้ามีปัญหาให้ไปฟ้องร้องเอาเอง จากนั้นตำรวจก็บอกให้ตนไปรอที่สถานีตำรวจ
นางสมลักษณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2554 สามีเคยถูกจับกุมข้อหารับของโจรโดยไปเก็บของที่มีคน
ทิ้งไว้ข้างทางมาโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นของขโมยมา คดีดังกล่าวถูกตัดสินจำคุกปีกว่าๆ เพิ่งพ้นโทษมา
เมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ช่วงที่อยู่เรือนจำก็เลยทำให้ทราบว่าสามีเสพยาเสพติดเพราะตรวจ
ปัสสาวะพบ แต่หลังจากพ้นโทษสามีก็ไปเป็นลูกจ้างทำเฟอร์นิเจอร์ ก่อนออกมารับงานเองและมี
น้องชายตนมาช่วยงาน
“หลังจากเกิดเรื่องดิฉันได้ไปร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และหน่วยงานที่
เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าจึงมาขอความช่วยเหลือจากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
เนื่องจากคดีนี้สามีไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกดำเนินคดีทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด” นางสมลักษณ์
กล่าวและว่า ช่วงที่ไปเยี่ยมสามี ที่ เรือนจำ เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำ และเพิ่งมาทราบว่าเขาป่วยหนัก
อยู่ในเรือนจำได้รับแต่ยาแก้ปวด ส่วนลูกสาวตอนนี้ก็ต้องให้พักการเรียนไว้ก่อนเพราะเราต้องเดิน
ทางไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ไม่มีเวลาดูแล อย่างไรก็ดี หากถึงที่สุดพบว่าตำรวจกระทำผิด
จริง ก็ขอให้มีการดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา
ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแล้วพบว่า ในช่วงเวลาที่
อยู่ในบันทึกการจับกุมนั้นไม่ตรงกับเวลาที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ส่วนเหตุการณ์ที่ตำรวจกล่าวอ้าง
ว่าเป็นการล่อซื้อจับกุมยาบ้านั้นเมื่อตรวจสอบจากภาพวงจรปิดแล้วก็พบว่า ไม่ได้เป็นการล่อซื้อแต่
เป็นการเข้าไปจับกุมทันที ซึ่งในช่วงจับกุมและตรวจค้นบ้านพักก็ไม่พบของกลางยาเสพติด แต่ต่อ
มากลับมีการแจ้งข้อกล่าวหานายเลิศศักดิ์ ว่า จำหน่ายยาบ้า 1 เม็ด ส่วนนายสมเกีบรตินั้นถูกแจ้ง
ข้อหาครอบครองโดบกล่าวหาว่าซื้อยาบ้ามาจากพี่เขยตัวเอง
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าว/ภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
 http://www.posttoday.com
รายงานข่าวโดย.....ทีมงาน (ดีโพลมา1238) ดังมีรายนามดังนี้....   

บ.ก.เกรียงไกร   พรเทพ (สื่อมวลชนหลายสถาบัน)

บรรณาธิการ (ควบคุมคอลัมน์) โทร.081 – 7713997

ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ 

อภินันทร์(นามปากกา “อัจฉริยะ”) ดูแลข่าว “รอบเมืองไทย ”                  

ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง") ดูแลข่าวช่วยสังคม

จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) ดูแลข่าวเศรษฐกิจ

กิตกวี (นามปากกา  “clover gens”) ดูแลงานแถลงข่าว

Sujittra  (หญิงเหล็ก) ดูแลข่าวบันเทิงและข่าวท่องเที่ยว

ฐิติยารัตน์ (นามปากกา "อำไพ")ดูแลข่าวเกี่ยวกับวัดและพระสงฆ์

ปัทมา (นามปากกา “จันทร์ฉาย”)ดูแลข่าวเกี่ยวกับศาสนา

ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้


น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์  และ dpmnews - dmnnews - diplomanews

และชมรมนักข่าว2000, และ ศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก

ชมรมนักข่าวช่วยสังคม-facebook-twitterและ plus.google.com

ชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบัน

ติดต่อ..... อีเมล์...diplomanews@gmail.com , dpm2554@gmail.com 

นอกจากข่าวนี้แล้วยังมีข่าวอื่นๆย้อนหลังให้ดูอีกมากมาย

ขอให้คลิกไล่ดูอาจจะอยู่ทางขวามือหรืออาจจะอยู่ทางซ้ายมือ

เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือและพันธมิตรอีกนับสิบๆแว๊บไซ้ท์

เรายังมีคอลัมน์ในสื่อต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า

“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือพิมพ์ค้นหาคำว่า  “diplomanews”

และเรายังมีพันธมิตรที่เป็นสื่อมวลชนอีกหลายร้อยคน

รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น