คปท.อัดตำรวจขึ้นป้าย (ดีโพลมา1565)
เขตพื้นที่ใช้แก๊สน้ำตา จงใจยั่วยุ
วันที่ 10 พ.ย.2556 เมื่อเวลา 14.00 น. นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงานเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) แถลงว่า ในวันพรุ่งนี้(11พ.ย.) เวลา 10.00 น. จะยื่นไปหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้ตรวจสอบว่ามีกลุ่มชายชุดดำและพลเมืองต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศไทยบริเวณ จ.สุรินทร์ จ.สระแก้ว และจ.ปราจีนบุรี นอกจากนี้ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดป้ายขนาดใหญ่บนแท่งแบริเออเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ฝั่งทำเนียบรัฐบาล ระบุข้อความ "เขตพื้นที่ใช้แก๊สน้ำตา ห้ามฝ่าฝืนบุกรุกเข้ามาโดยเด็ดขาด" อยากฝากบอกไปยัง พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง อย่างสงบ สันติ อหิงสา ไม่มีการใช้อาวุธ และไม่ได้ก่อความวุ่นวาย มีการ์ดอาสาคอยดูแลป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดอารมณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อถามว่า จะมีการประสานให้เจ้าหน้าที่ปลดป้ายดังกล่าวหรือไม่ นายอุทัย กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ร้องขอ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะการติดป้ายเป็นการจุดชนวนให้พี่น้องที่อยู่แนวหน้าเกิดอารมณ์ แต่เราเห็นแล้วเป็นเรื่องอารมณ์ขัน อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาการชุมนุม สามารถควบคุมมวลชนได้ ส่วนกรณีผู้ชุมนุมใช้กระจกสะท้อนแสงไปยังฝั่งเจ้าหน้าที่ หรือกรณีที่พล.ต.ต.อดุลย์ ออกมาระบุว่า ผู้ชุมนุมใช้หนังสติ๊กยิงหัวน็อตมาป่วนนั้น ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ แต่ขอให้ไปตรวจสอบจากกล้องซีซีทีวี ถ้าพบผู้กระทำผิดจริงจะยินยอมให้เข้ามาจับแน่นอน นอกจากนี้ ในวันที่ 11 พ.ย. เวลา 10.00 น. ทางเครือข่ายฯจะมีเพื่อนทุกสถาบัน และเครือข่ายธุรกิจ มาร่วมชุมนุม ส่วนกิจกรรมในวันนั้นยังไม่ขอเปิดเผย
ด้านบรรยากาศการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 32 ของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด ที่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวัน (วันที่ 10 พ.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วม คปท.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่อยู่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์คนละสองฝั่งคลองผดุงกรุงเกษม มีการยั่วยุโดยฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมมีการพับจรวดกระดาษร่อนใส่เข้าแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เพื่อตอบโต้กรณีที่เมื่อวันที่ 9 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเครื่องเสียงรบกวนยั่วยุตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ได้มีมวลชนนำธงชาติประเทศกัมพูชามาปักไว้บนแท่งแบริเออร์ โดยติดข้อความ "เขตเขมรห้ามเข้า"
ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นป้ายแจ้งเตือนผู้ชุมนุมไม่ให้รุกล้ำเข้ามาฝั่งทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า "เขตพื้นที่ใช้แก๊สน้ำตา ห้ามฝ่าฝืนบุกรุกเข้ามาโดยเด็ดขาด" อย่างไรก็ตามมีผู้ชุมนุมบางรายพยายามใช้กระจกเงาสะท้อนแสงแดดใส่ตาเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่อยู่ฝั่งทำเนียบรัฐบาล จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายทนไม่ไหวยกนิ้วกลางให้ผู้ชุมนุมเป็นการตอบโต้ ขณะที่บริเวณเวทียังคงเป็นการปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศที่ผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาลสนับกับการแสดงดนตรีเพื่อชีวิต ท่ามกลางอากาศร้อน
เมื่อถามว่า จะมีการประสานให้เจ้าหน้าที่ปลดป้ายดังกล่าวหรือไม่ นายอุทัย กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ร้องขอ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะการติดป้ายเป็นการจุดชนวนให้พี่น้องที่อยู่แนวหน้าเกิดอารมณ์ แต่เราเห็นแล้วเป็นเรื่องอารมณ์ขัน อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาการชุมนุม สามารถควบคุมมวลชนได้ ส่วนกรณีผู้ชุมนุมใช้กระจกสะท้อนแสงไปยังฝั่งเจ้าหน้าที่ หรือกรณีที่พล.ต.ต.อดุลย์ ออกมาระบุว่า ผู้ชุมนุมใช้หนังสติ๊กยิงหัวน็อตมาป่วนนั้น ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ แต่ขอให้ไปตรวจสอบจากกล้องซีซีทีวี ถ้าพบผู้กระทำผิดจริงจะยินยอมให้เข้ามาจับแน่นอน นอกจากนี้ ในวันที่ 11 พ.ย. เวลา 10.00 น. ทางเครือข่ายฯจะมีเพื่อนทุกสถาบัน และเครือข่ายธุรกิจ มาร่วมชุมนุม ส่วนกิจกรรมในวันนั้นยังไม่ขอเปิดเผย
ด้านบรรยากาศการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 32 ของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด ที่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวัน (วันที่ 10 พ.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วม คปท.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่อยู่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์คนละสองฝั่งคลองผดุงกรุงเกษม มีการยั่วยุโดยฝ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมมีการพับจรวดกระดาษร่อนใส่เข้าแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน เพื่อตอบโต้กรณีที่เมื่อวันที่ 9 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเครื่องเสียงรบกวนยั่วยุตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ได้มีมวลชนนำธงชาติประเทศกัมพูชามาปักไว้บนแท่งแบริเออร์ โดยติดข้อความ "เขตเขมรห้ามเข้า"
ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นป้ายแจ้งเตือนผู้ชุมนุมไม่ให้รุกล้ำเข้ามาฝั่งทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า "เขตพื้นที่ใช้แก๊สน้ำตา ห้ามฝ่าฝืนบุกรุกเข้ามาโดยเด็ดขาด" อย่างไรก็ตามมีผู้ชุมนุมบางรายพยายามใช้กระจกเงาสะท้อนแสงแดดใส่ตาเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนที่อยู่ฝั่งทำเนียบรัฐบาล จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายทนไม่ไหวยกนิ้วกลางให้ผู้ชุมนุมเป็นการตอบโต้ ขณะที่บริเวณเวทียังคงเป็นการปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศที่ผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาลสนับกับการแสดงดนตรีเพื่อชีวิต ท่ามกลางอากาศร้อน
ขอขอบคุณที่มาของข่าว/ภาพจากผู้ที่มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=701509
ถ่ายทอดโดย......
http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=701509
ถ่ายทอดโดย......
ทีมงาน น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา1565) มีรายนามดังนี้....
บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ ( บรรณาธิการ )โทร.081
– 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ
และรักษาการผู้ช่วยบรรณาธิการฝ่ายข่าวการเมือง
อภินันทร์(นามปากกา “อัจฉริยะ”)ปฐมภพ(นามว่า "คนสายกลาง")
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) สุจิตรา (นามปากกา “หญิงเหล็ก”)
กิตกวี (นามปากกา “clover
gens”) (ยังมีต่ออีกมาก)
ตรวจสอบรายชื่อที่เหลือได้ที่โทร.081 - 7713997
ผู้ที่ไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่ผู้สื่อข่าวของเรา
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews - dmnnews - diplomanews
และข่าวชมรมนักข่าว2000, และ ข่าวศูนย์วิทยุ
(ทาง)ช้างเผือก และ
ข่าวชมรมนักข่าวช่วยสังคม..อีเมล์...diplomanews@gmail.com
ติดตามผลงาน“ชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบันได้ใน
FACEBOOK
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือนับสิบๆแว๊บไซ้ท์และพันธมิตรสื่อฯอีกนับร้อย
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อดังๆต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก
โดยพิมพ์หาคำว่า
“ดีโพลมา” หรือคำว่า “diplomanews”ในสื่อนั้นๆ
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น