สุเทพเย้ย “เหลิม” ตั้ง ศรส.ไร้น้ำยา(ดีโพลมา1767)
“สุเทพ” เย้ย “เหลิม” ตั้ง ศรส.ไร้น้ำยา ซัดรัฐป้อง “โกตี๋” ฝ่าฝืน พ.ร.ก.-ใช้ ฮ.หลวงขน “ขวัญชัย”
เลขาธิการ กปปส. โวตัวเลขโนโหวต 35 ล้านสะท้อนไม่เอายิ่งลักษณ์-ระบอบทักษิณ ซัดตำรวจไม่จับโกตี๋ กลับปกป้อง ทั้งที่ชุมนุมเกิน 5 คน ใช้เส้นทางต้องหาม แถมใช้วิทยุชุมชนปลุกระดม กังขาตำรวจเอา ฮ.ภาษีประชาชน รับ “ขวัญชัย” เข้ากรุงเทพฯ ยันต้องปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ เย้ย “เฉลิม” ขี้ข้ากระจอกๆ ตั้ง ศรส. ยังจับใครไม่ได้ ลั่นไป ศรส. ตามคำท้าแน่ ฝากชาวนาอีกครั้ง ชนะวันไหนยึดทรัพย์ตระกูลชินใช้หนี้จำนำข้าว
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่แยกปทุมวัน เมื่อเวลา 19.25 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวบนเวทีปราศรัย ระบุว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา มีผู้ไปใช้สิทธิ์ 19.6 ล้านคน ถือว่าน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ถ้าดูคะแนนจริงๆ พบว่าบัตรเสีย ที่หนึ่งในนั้นจงใจเขียนด่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ มีมากถึง 2.3 ล้านคน และโหวตโน 3.3 ล้านคน สรุปว่ามี 5.6 ล้านคนเปิดเผยชัดเจนว่าต่อต้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ และมี 35 ล้านคน ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าไม่เอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ สอดคล้องกับความเห็นของนางยินดี วัชรพงษ์ ต่อสุวรรณ อดีตผู้พิพากษาที่กล่าวไปเมื่อคืนวานนี้
ทั้งนี้ ตนได้ทำหนังสือตามคำแนะนำของนางยินดีถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และกล่าวว่า กปปส. จึงแจ้งมาเพื่อให้ทราบว่า ครม. ต้องหยุดปฏิบัติการ ไม่จำเป็นต้องลาออก การดำเนินการต่อไปนี้ผิดรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญา ที่ผ่านมาพยายามใช้อำนาจที่ไม่มีอำนาจ อย่างวันนี้ออกมหายจับแกนนำ 19 คน ตนไมาสะเทือนเพราะก่อนหน้านี้ออกหมายจับข้อหากบฎอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดแล้วแต่ก็ยังจับตนไม่ได้ ตนไม่ได้หนีไปไหน ไม่ต้องตกใจกับการออกประกาศหมายจับ 19 คน แม้จะจับได้ก็ไม่ได้มีโทษรุนแรงอะไร ยังมีมวลชนอีกล้านคนสู้ต่อไปได้ ไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม เมื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าเหตุการณ์รุนแรงที่หลักสี่ นายโกตี๋ใช้สถานีวิทยุแดงปลุกระดมเอามวลชน 400 คนพร้อมอาวุธ ออกมาที่ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นถนนสายหนึ่งที่ห้ามใช้ ตนถามว่าทำไมตำรวจไม่จับ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. ไม่ออกหมายจับ ถามว่ากฎหมายประเทศนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้กับใคร หรือไม่ใช้กับใครใช่หรือไม่ การที่ไม่จับโกตี๋เข้าใจได้เพราะเป็นพวกเดียวกัน ที่น่าเจ็บใจคือ คนที่ก่อเหตุไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายใคร แต่ตำรวจรีบสรุปว่าเป็นฝ่าย กปปส. รวมทั้งเหตุขว้างระเบิดที่บรรทัดทอง ยิงที่วัดศรีเอี่ยม ขว้างระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังจับไม่ได้ และการที่เอาตำรวจไปยิงผู้ชุมนุมที่สโมสรทหารบก
ส่วนกรณีที่ชายชุดดำที่แยกหลักสี่นั้น แม้จะหวังดีแต่ยืนยันว่าไม่ใช่ฝ่าย กปปส. เพราะไม่มีอาวุธ ส่วนที่โกตี๋กล่าวหาว่าทหารอยู่เบื้องหลัง ตนประทับใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เตือนว่าให้ระวังปาก ซึ่งประทับใจมาก ตามสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ประชาชนมีสิทธิที่จะลุกขึ้นต่อสู้ ต่อต้านรัฐบาลที่ประชาชนเห็นว่าทรราช เมื่อไหร่ประชาชนยังต่อสู้ด้วยความสงบ อหิงสา ถือว่ารัฐต้องคุ้มครองประชาชน ตำรวจต้องมาดูแลเรา แต่สู้มา 3 เดือนกว่าไม่มาดูแล แถมส่งตำรวจมายิงผู้ชุมนุม กลุ่มที่ก่อการร้ายขว้างระเบิดและยิงใส่ผู้ชุมนุม สันนิษฐานกันทั้งนั้นว่าเป็นลูกน้องตำรวจ โดยเฉพาะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ตร. ประชาชนจึงเรียกร้องทหารให้ออกมาคุ้มครองประชาชน เพราะตำรวจคุ้มครองไม่ได้แล้ว และทหารก็มาช่วย ส่งชุดเสนารักษ์ออกมาดูแล และสารวัตรทหารออกมาลาดตระเวณ
แต่ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ สนับสนุนยุยงโกตี๋ด่าทหารเสียหาย ตนต้องขอความเป็นธรรมให้ทหารเหล่านั้น แต่นายโกตี๋ตำรวจได้เลี้ยงไว้ ยกขบวนไปอย่างเอิกเกริก เวลาเกิดเหตุตำรวจชักปืนยิง วันนั้นโกตี๋ใส่เสื้อเกราะของตำรวจที่ซื้อจากภาษีของประชาชน บอก ร.ต.อ.เฉลิมว่า รู้ว่าตำรวจคนไหนเอาเสื้อเกราะให้โกตี๋ และใครสั่ง และมีหลักฐานชัดเจนว่าหลังก่อเหตุ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง ออกมาแถลงแก้ต่างเสร็จสรรพว่า โกตี๋ไม่เกี่ยว ตนถามว่ามันเรื่องอะไรที่จะมาปกป้องโกตี๋ วันนั้นโกตี๋อยู่ในรถตู้กับตำรวจ ตำรวจคุ้มกันเพียบ ทั้งที่ชุมนุมเกิน 5 คน ใช้ถนนที่มีคำสั่งห้าม โฆษณาใช้สื่อวิทยุ ตำรวจกลับไม่ดำเนินคดี แถมคุ้มกันไปส่งโกตี๋ที่ปทุมธานีด้วย
“นี่คือความจริง เขาปกป้องกัน เขาดูแลกัน แต่เขาไม่ดูแลเรา ขวัญชัย ไพรพนา ถูกยิงที่อุดร พูดจาหาว่าเราไปเกี่ยวข้องด้วย ผมจะไปเกี่ยวข้องกับคุณพ่อคุณแม่คุณได้เหรอ ผมอยู่กรุงเทพฯ ผมชุมนุมตั้งแต่ 31 ต.ค. แล้ว อย่าว่าแต่อุดรธานีเลย สุราษฎร์ธานียังกลับไม่ได้ เพราะตำรวจมันป้องกันอยู่ไง แล้วเป็นไง ขวัญชัยถูกยิง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็มาเยี่ยม ในที่สุดเอาเฮลิคอปเตอร์ตำรวจมารับขวัญชัยจากอุดรฯ มากรุงเทพฯ ตกลงว่าขวัญชัยเป็นตำรวจผู้ใหญ่อีกคนใช่ไหม ยศอะไร มีความสำคัญต่อราชการขนาดไหน ถึงมีสิทธิ์เอาเฮลิคอปเตอร์ของหลวงไปรับขวัญชัย ถามว่าใครสั่งให้เอาเฮลิคอปเตอร์รับนายขวัญชัยครั้งนี้” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ยิ่งนานไปรู้ไส้รู้พุงของตำรวจ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ ว่าใช้ตำรวจปกป้องสมุนบริวารของตัวเอง แต่ไม่คุ้มกันประชาชนที่เสียภาษีแม้แต่นิดเดียว ถึงได้บอกว่าต้องปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ เพื่อไม่ให้ตำรวจดีๆ ตกอยู่ในอิทธิพลของนักการเมือง ตอนนี้พยายามเล่นงานพวกเราทุกวิถีทาง พอยุบเวทีลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ร.ต.อ.เฉลิมก็ฮึกเหิม คิดว่าเป็นชัยชนะ แต่ตนไม่ได้ถอย เพราะลอบกัด ตนไม่ต้องการเป็นเหยื่อของหมาลอบกัด เราก็ไม่ต้องการให้ประชาชนเป็นเหยื่อของมหาลอบกัดอีกต่อไป และการปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ ครั้งนี้เป้าหมายสำคัญคือจัดการกับราชการ ไม่ให้ทำงานเป็นเครื่องมือรับใช้ระบอบทักษิณอีกต่อไป ไม่ต้องการให้คนกรุงเทพฯ เดือดร้อนโดยไม่จำเป็น แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และบริวารไม่สนใจว่าคนกรุงเทพฯ เดือดร้อนยังไง แต่ตนได้คิดจึงเปิดสถานที่ดังกล่าว เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้หายใจรดต้นคอดังกล่าว แต่ไม่ได้ยอมให้ ร.ต.อ.เฉลิม อย่าได้ฮึกเหิม แต่ตนจะไป ศรส. ตามที่ท้าไว้แน่
ตั้งแต่ตั้ง ศรส. ยังจับใครไม่ได้สักคน แต่วันนี้สั่งตำรวจมาเพิ่มอีก สงสัยว่า ร.ต.อ.เฉลิมบ้าจริงๆ หรือไม่ เราไม่ได้มารบ เรามาไล่รัฐบาล ไม่ทำตามคำท้าให้โง่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หัวซุกหัวซุนทุกวัน ช่วงที่ประชาชนออกมาขับไล่ได้ไป ว.5 ที่ไหนหรือไม่ ตนเวทนา ร.ต.อ.เฉลิมและไม่ให้ราคา ร.ต.อ.เฉลิม แต่ที่เอามาพูดเพราะประชาชนเกลียดและสะใจ เป้าหมายจริงๆ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นเพียงขี้ข้ากระจอกๆ ขู่ฟอดๆ วันที่ 6 ก.พ. จะไปเปิดสถานที่ราชการให้หมดนั้น พรุ่งนี้จะดูว่าเปิดได้กี่แห่ง และมะรืนนี้มาดูกันว่าเราไปปิดได้กี่แห่ง วันนั้นสั่งตัดโซ่กระทรวงแรงงาน เราไม่ทันได้ไป มีคนมาประท้วงเริ่งอื่น ร.ต.อ.เฉลิมกลับหนีไปคนแรก กลัวขึ้นสมอง อย่าไปสนใจ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม อย่าออกไปไหน ออมาเมื่อไหร่เสร็จทันที แล้ววันไหนสบายใจจะไปเยี่ยมอีก จะขังไว้สักพัก ไม่ออกก็ให้อยู่อย่างนั้น
นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการทำร้ายในทางมืด แต่ไม่มีใครกลัว ไม่มีใครถอย ตนนัดเมื่อไหร่ก็มาอีก เตรียมตัวไว้ ตนกำลังออกแบบอยู่ว่าระดมพลครั้งใหญ่ครั้งนี้จัดการคนพวกนี้อย่างไรจึงจะได้ผล แล้วจะได้ยินสัญญาณ ตอนนี้เล่นงานทางกฎหมายไปก่อน ถ้าเรื่องไปถึงศาลผลจะเป็นอย่างไร มีข้อมูล หลักฐาน ข้อเท็จจริงเรื่องการเลือกตั้ง เรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะต้องสู้ต่อในทางกฎหมาย ส่วนผู้ชุมนุมแสดงพลังไล่ออกไปเรื่อยๆ อย่าไปท้อถอย ขนาดชาวนาสู้มาแล้วนายกฯ กลับไม่สนใจ ตนขอสรรเสริญพนักงานธนาคารกรุงไทยที่ต่อต้านรัฐบาลเพื่อปกป้องธนาคาร เพราะเขาต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่เอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องการปฏิรูปประเทศพร้อมกับเรา ธนาคารพาณิชย์อื่นไม่มีใครให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืมเงิน เพราะคนฝากเงินจะถอนเงินทันที ขณะนี้ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว
ทั้งนี้ ตนฝากชาวนาอย่างเดียว มวลมหาประชาชนชนะวันไหน ยึดทรัพย์ตระกูลชินวัตรชำระค่าข้าวชาวนาทันที เพราะหนี้ชาวนา 1.3 แสนล้านบาทเอาข้าว 18 ล้านตันไปขาย ก็มีเงินใช้หนี้ชาวนา แต่ถูกกักไว้ขายให้พวกเดียวกันโดยไม่สนใจชาวนา นอกจากเงินต้นต้องใช้ดอกเบี้ยด้วยถึงจะยุติธรรม ขออย่างเดียว ปิดถนน เข้ากรุงเทพฯ ถ้าคนพกนกหวีดเข้ามาเปิดทางให้ด้วย เราเจ้าของประเทศเหมือนกัน ชาวนาช่วยกรุณาเอื้อเฟื้อให้ด้วย วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิมทำเป็นขึงขังจะไปเปิดกระทรวงมหาดไทย แต่ สรส. ไม่เปิดให้ ถ้ายกกำลังตำรวจไปวันไหน หน่วยเคลื่อนที่เร็วทุกเวทีจะเคลื่อนไปช่วยที่กระทรวงมหาดไทย ไม่มีอาวุธ สวดอิติปิโสอย่างเดียว ตนเชื่อว่ารถขนผู้ต้องหาไม่พอ เราบอกแล้วว่าปิดกระทรวง ทบวง กรม ไม่ต้องการให้ทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ ให้เป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว ประชาชนไม่เอา
นายสุเทพ กล่าวว่า ภารกิจปิดสถานที่ราชการยังคงมีอยู่ต่อไป และต่อไปนอกจากชาวนาแล้ว ข้าราชการก็จะทวงหนี้ด้วย เพราะรัฐบาลไม่มีเงินจ่ายเงินเดือน ที่ผ่านมารัฐบาลตั้งหน่วยงานมาจัดการผู้ชุมนุมก็ไม่สำเร็จ ตำรวจชั้นผู้น้อยก็ไม่อยากสลายการชุมนุม ทหารก็ไม่ยุ่งด้วย เหลือแต่ว่าเมื่อทุกคนในประเทศเห็นพ้องว่ามวลมหาประชาชนชนะ คนที่ลังเลอยู่ก็ออกมายืนเคียงข้างมวลมหาประชาชน อีกฝ่ายเหลืออีกไม่กี่คน ขั้นตอนขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณใกล้สำเร็จแล้ว เพราะฉะนั้นขอเรียกร้องให้ช่วยทำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทยให้ชัดเจน โจทย์ใหญ่ๆ 4-5 เรื่องได้บอกไปแล้ว และเมื่ออำนาจไปอยู่ในมือประชาชนตามมาตรา 3 ต้องทำทันที เราไม่ได้สู้อำนาจ เราสู้เพื่อประเทศไทยดีขึ้น พอตั้งรัฐบาลประชาชน สภาประชาชน เราก็ยื่นพิมพ์เขียวและกลับบ้าน เราไม่ต้องการตำแหน่ง ไม่ต้องการตั้งพรรคการเมือง แต่ออกมาเพราะชาติบ้านเมืองวิบัติเสียหาย เราก็แค่นั่งดูเท่านั้น
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่แยกปทุมวัน เมื่อเวลา 19.25 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวบนเวทีปราศรัย ระบุว่า การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา มีผู้ไปใช้สิทธิ์ 19.6 ล้านคน ถือว่าน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ถ้าดูคะแนนจริงๆ พบว่าบัตรเสีย ที่หนึ่งในนั้นจงใจเขียนด่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ มีมากถึง 2.3 ล้านคน และโหวตโน 3.3 ล้านคน สรุปว่ามี 5.6 ล้านคนเปิดเผยชัดเจนว่าต่อต้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ และมี 35 ล้านคน ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าไม่เอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ สอดคล้องกับความเห็นของนางยินดี วัชรพงษ์ ต่อสุวรรณ อดีตผู้พิพากษาที่กล่าวไปเมื่อคืนวานนี้
ทั้งนี้ ตนได้ทำหนังสือตามคำแนะนำของนางยินดีถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และกล่าวว่า กปปส. จึงแจ้งมาเพื่อให้ทราบว่า ครม. ต้องหยุดปฏิบัติการ ไม่จำเป็นต้องลาออก การดำเนินการต่อไปนี้ผิดรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญา ที่ผ่านมาพยายามใช้อำนาจที่ไม่มีอำนาจ อย่างวันนี้ออกมหายจับแกนนำ 19 คน ตนไมาสะเทือนเพราะก่อนหน้านี้ออกหมายจับข้อหากบฎอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดแล้วแต่ก็ยังจับตนไม่ได้ ตนไม่ได้หนีไปไหน ไม่ต้องตกใจกับการออกประกาศหมายจับ 19 คน แม้จะจับได้ก็ไม่ได้มีโทษรุนแรงอะไร ยังมีมวลชนอีกล้านคนสู้ต่อไปได้ ไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม เมื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าเหตุการณ์รุนแรงที่หลักสี่ นายโกตี๋ใช้สถานีวิทยุแดงปลุกระดมเอามวลชน 400 คนพร้อมอาวุธ ออกมาที่ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นถนนสายหนึ่งที่ห้ามใช้ ตนถามว่าทำไมตำรวจไม่จับ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. ไม่ออกหมายจับ ถามว่ากฎหมายประเทศนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้กับใคร หรือไม่ใช้กับใครใช่หรือไม่ การที่ไม่จับโกตี๋เข้าใจได้เพราะเป็นพวกเดียวกัน ที่น่าเจ็บใจคือ คนที่ก่อเหตุไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายใคร แต่ตำรวจรีบสรุปว่าเป็นฝ่าย กปปส. รวมทั้งเหตุขว้างระเบิดที่บรรทัดทอง ยิงที่วัดศรีเอี่ยม ขว้างระเบิดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังจับไม่ได้ และการที่เอาตำรวจไปยิงผู้ชุมนุมที่สโมสรทหารบก
ส่วนกรณีที่ชายชุดดำที่แยกหลักสี่นั้น แม้จะหวังดีแต่ยืนยันว่าไม่ใช่ฝ่าย กปปส. เพราะไม่มีอาวุธ ส่วนที่โกตี๋กล่าวหาว่าทหารอยู่เบื้องหลัง ตนประทับใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เตือนว่าให้ระวังปาก ซึ่งประทับใจมาก ตามสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ประชาชนมีสิทธิที่จะลุกขึ้นต่อสู้ ต่อต้านรัฐบาลที่ประชาชนเห็นว่าทรราช เมื่อไหร่ประชาชนยังต่อสู้ด้วยความสงบ อหิงสา ถือว่ารัฐต้องคุ้มครองประชาชน ตำรวจต้องมาดูแลเรา แต่สู้มา 3 เดือนกว่าไม่มาดูแล แถมส่งตำรวจมายิงผู้ชุมนุม กลุ่มที่ก่อการร้ายขว้างระเบิดและยิงใส่ผู้ชุมนุม สันนิษฐานกันทั้งนั้นว่าเป็นลูกน้องตำรวจ โดยเฉพาะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ตร. ประชาชนจึงเรียกร้องทหารให้ออกมาคุ้มครองประชาชน เพราะตำรวจคุ้มครองไม่ได้แล้ว และทหารก็มาช่วย ส่งชุดเสนารักษ์ออกมาดูแล และสารวัตรทหารออกมาลาดตระเวณ
แต่ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ สนับสนุนยุยงโกตี๋ด่าทหารเสียหาย ตนต้องขอความเป็นธรรมให้ทหารเหล่านั้น แต่นายโกตี๋ตำรวจได้เลี้ยงไว้ ยกขบวนไปอย่างเอิกเกริก เวลาเกิดเหตุตำรวจชักปืนยิง วันนั้นโกตี๋ใส่เสื้อเกราะของตำรวจที่ซื้อจากภาษีของประชาชน บอก ร.ต.อ.เฉลิมว่า รู้ว่าตำรวจคนไหนเอาเสื้อเกราะให้โกตี๋ และใครสั่ง และมีหลักฐานชัดเจนว่าหลังก่อเหตุ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง ออกมาแถลงแก้ต่างเสร็จสรรพว่า โกตี๋ไม่เกี่ยว ตนถามว่ามันเรื่องอะไรที่จะมาปกป้องโกตี๋ วันนั้นโกตี๋อยู่ในรถตู้กับตำรวจ ตำรวจคุ้มกันเพียบ ทั้งที่ชุมนุมเกิน 5 คน ใช้ถนนที่มีคำสั่งห้าม โฆษณาใช้สื่อวิทยุ ตำรวจกลับไม่ดำเนินคดี แถมคุ้มกันไปส่งโกตี๋ที่ปทุมธานีด้วย
“นี่คือความจริง เขาปกป้องกัน เขาดูแลกัน แต่เขาไม่ดูแลเรา ขวัญชัย ไพรพนา ถูกยิงที่อุดร พูดจาหาว่าเราไปเกี่ยวข้องด้วย ผมจะไปเกี่ยวข้องกับคุณพ่อคุณแม่คุณได้เหรอ ผมอยู่กรุงเทพฯ ผมชุมนุมตั้งแต่ 31 ต.ค. แล้ว อย่าว่าแต่อุดรธานีเลย สุราษฎร์ธานียังกลับไม่ได้ เพราะตำรวจมันป้องกันอยู่ไง แล้วเป็นไง ขวัญชัยถูกยิง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็มาเยี่ยม ในที่สุดเอาเฮลิคอปเตอร์ตำรวจมารับขวัญชัยจากอุดรฯ มากรุงเทพฯ ตกลงว่าขวัญชัยเป็นตำรวจผู้ใหญ่อีกคนใช่ไหม ยศอะไร มีความสำคัญต่อราชการขนาดไหน ถึงมีสิทธิ์เอาเฮลิคอปเตอร์ของหลวงไปรับขวัญชัย ถามว่าใครสั่งให้เอาเฮลิคอปเตอร์รับนายขวัญชัยครั้งนี้” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ยิ่งนานไปรู้ไส้รู้พุงของตำรวจ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ ว่าใช้ตำรวจปกป้องสมุนบริวารของตัวเอง แต่ไม่คุ้มกันประชาชนที่เสียภาษีแม้แต่นิดเดียว ถึงได้บอกว่าต้องปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ เพื่อไม่ให้ตำรวจดีๆ ตกอยู่ในอิทธิพลของนักการเมือง ตอนนี้พยายามเล่นงานพวกเราทุกวิถีทาง พอยุบเวทีลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ร.ต.อ.เฉลิมก็ฮึกเหิม คิดว่าเป็นชัยชนะ แต่ตนไม่ได้ถอย เพราะลอบกัด ตนไม่ต้องการเป็นเหยื่อของหมาลอบกัด เราก็ไม่ต้องการให้ประชาชนเป็นเหยื่อของมหาลอบกัดอีกต่อไป และการปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ ครั้งนี้เป้าหมายสำคัญคือจัดการกับราชการ ไม่ให้ทำงานเป็นเครื่องมือรับใช้ระบอบทักษิณอีกต่อไป ไม่ต้องการให้คนกรุงเทพฯ เดือดร้อนโดยไม่จำเป็น แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และบริวารไม่สนใจว่าคนกรุงเทพฯ เดือดร้อนยังไง แต่ตนได้คิดจึงเปิดสถานที่ดังกล่าว เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้หายใจรดต้นคอดังกล่าว แต่ไม่ได้ยอมให้ ร.ต.อ.เฉลิม อย่าได้ฮึกเหิม แต่ตนจะไป ศรส. ตามที่ท้าไว้แน่
ตั้งแต่ตั้ง ศรส. ยังจับใครไม่ได้สักคน แต่วันนี้สั่งตำรวจมาเพิ่มอีก สงสัยว่า ร.ต.อ.เฉลิมบ้าจริงๆ หรือไม่ เราไม่ได้มารบ เรามาไล่รัฐบาล ไม่ทำตามคำท้าให้โง่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หัวซุกหัวซุนทุกวัน ช่วงที่ประชาชนออกมาขับไล่ได้ไป ว.5 ที่ไหนหรือไม่ ตนเวทนา ร.ต.อ.เฉลิมและไม่ให้ราคา ร.ต.อ.เฉลิม แต่ที่เอามาพูดเพราะประชาชนเกลียดและสะใจ เป้าหมายจริงๆ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นเพียงขี้ข้ากระจอกๆ ขู่ฟอดๆ วันที่ 6 ก.พ. จะไปเปิดสถานที่ราชการให้หมดนั้น พรุ่งนี้จะดูว่าเปิดได้กี่แห่ง และมะรืนนี้มาดูกันว่าเราไปปิดได้กี่แห่ง วันนั้นสั่งตัดโซ่กระทรวงแรงงาน เราไม่ทันได้ไป มีคนมาประท้วงเริ่งอื่น ร.ต.อ.เฉลิมกลับหนีไปคนแรก กลัวขึ้นสมอง อย่าไปสนใจ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม อย่าออกไปไหน ออมาเมื่อไหร่เสร็จทันที แล้ววันไหนสบายใจจะไปเยี่ยมอีก จะขังไว้สักพัก ไม่ออกก็ให้อยู่อย่างนั้น
นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการทำร้ายในทางมืด แต่ไม่มีใครกลัว ไม่มีใครถอย ตนนัดเมื่อไหร่ก็มาอีก เตรียมตัวไว้ ตนกำลังออกแบบอยู่ว่าระดมพลครั้งใหญ่ครั้งนี้จัดการคนพวกนี้อย่างไรจึงจะได้ผล แล้วจะได้ยินสัญญาณ ตอนนี้เล่นงานทางกฎหมายไปก่อน ถ้าเรื่องไปถึงศาลผลจะเป็นอย่างไร มีข้อมูล หลักฐาน ข้อเท็จจริงเรื่องการเลือกตั้ง เรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะต้องสู้ต่อในทางกฎหมาย ส่วนผู้ชุมนุมแสดงพลังไล่ออกไปเรื่อยๆ อย่าไปท้อถอย ขนาดชาวนาสู้มาแล้วนายกฯ กลับไม่สนใจ ตนขอสรรเสริญพนักงานธนาคารกรุงไทยที่ต่อต้านรัฐบาลเพื่อปกป้องธนาคาร เพราะเขาต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่เอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องการปฏิรูปประเทศพร้อมกับเรา ธนาคารพาณิชย์อื่นไม่มีใครให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืมเงิน เพราะคนฝากเงินจะถอนเงินทันที ขณะนี้ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว
ทั้งนี้ ตนฝากชาวนาอย่างเดียว มวลมหาประชาชนชนะวันไหน ยึดทรัพย์ตระกูลชินวัตรชำระค่าข้าวชาวนาทันที เพราะหนี้ชาวนา 1.3 แสนล้านบาทเอาข้าว 18 ล้านตันไปขาย ก็มีเงินใช้หนี้ชาวนา แต่ถูกกักไว้ขายให้พวกเดียวกันโดยไม่สนใจชาวนา นอกจากเงินต้นต้องใช้ดอกเบี้ยด้วยถึงจะยุติธรรม ขออย่างเดียว ปิดถนน เข้ากรุงเทพฯ ถ้าคนพกนกหวีดเข้ามาเปิดทางให้ด้วย เราเจ้าของประเทศเหมือนกัน ชาวนาช่วยกรุณาเอื้อเฟื้อให้ด้วย วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิมทำเป็นขึงขังจะไปเปิดกระทรวงมหาดไทย แต่ สรส. ไม่เปิดให้ ถ้ายกกำลังตำรวจไปวันไหน หน่วยเคลื่อนที่เร็วทุกเวทีจะเคลื่อนไปช่วยที่กระทรวงมหาดไทย ไม่มีอาวุธ สวดอิติปิโสอย่างเดียว ตนเชื่อว่ารถขนผู้ต้องหาไม่พอ เราบอกแล้วว่าปิดกระทรวง ทบวง กรม ไม่ต้องการให้ทำงานรับใช้ระบอบทักษิณ ให้เป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว ประชาชนไม่เอา
นายสุเทพ กล่าวว่า ภารกิจปิดสถานที่ราชการยังคงมีอยู่ต่อไป และต่อไปนอกจากชาวนาแล้ว ข้าราชการก็จะทวงหนี้ด้วย เพราะรัฐบาลไม่มีเงินจ่ายเงินเดือน ที่ผ่านมารัฐบาลตั้งหน่วยงานมาจัดการผู้ชุมนุมก็ไม่สำเร็จ ตำรวจชั้นผู้น้อยก็ไม่อยากสลายการชุมนุม ทหารก็ไม่ยุ่งด้วย เหลือแต่ว่าเมื่อทุกคนในประเทศเห็นพ้องว่ามวลมหาประชาชนชนะ คนที่ลังเลอยู่ก็ออกมายืนเคียงข้างมวลมหาประชาชน อีกฝ่ายเหลืออีกไม่กี่คน ขั้นตอนขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณใกล้สำเร็จแล้ว เพราะฉะนั้นขอเรียกร้องให้ช่วยทำพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทยให้ชัดเจน โจทย์ใหญ่ๆ 4-5 เรื่องได้บอกไปแล้ว และเมื่ออำนาจไปอยู่ในมือประชาชนตามมาตรา 3 ต้องทำทันที เราไม่ได้สู้อำนาจ เราสู้เพื่อประเทศไทยดีขึ้น พอตั้งรัฐบาลประชาชน สภาประชาชน เราก็ยื่นพิมพ์เขียวและกลับบ้าน เราไม่ต้องการตำแหน่ง ไม่ต้องการตั้งพรรคการเมือง แต่ออกมาเพราะชาติบ้านเมืองวิบัติเสียหาย เราก็แค่นั่งดูเท่านั้น
ขอขอบคุณที่มาของข่าว/ภาพจากผู้ที่มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000014253
ถ่ายทอดโดย.....
ทีมงาน น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา1767) มีรายนามดังนี้....
บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ ( บรรณาธิการ )
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ
และ รักษาการ หัวหน้าข่าวการเมือง
อภินันทร์(นามปากกา “อัจฉริยะ”)ปฐมภพ(นามว่า "คนสายกลาง")
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) สุจิตรา (นามปากกา “หญิงเหล็ก”)
กิตกวี (นามปากกา “clover gens”) (ยังมีต่ออีกมาก)
ผู้ที่ไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่ผู้สื่อข่าวของเรา
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews - dmnnews - diplomanews
และข่าวชมรมนักข่าว2000, และ ข่าวศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก และ
ข่าวชมรมนักข่าวช่วยสังคม..อีเมล์...diplomanews@gmail.com
ติดตามผลงาน“ชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบันได้ใน FACEBOOK
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือนับสิบๆแว๊บไซ้ท์และพันธมิตรสื่อฯอีกนับร้อย
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อดังๆต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์หาคำว่า
“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือคำว่า “diplomanews”ในสื่อนั้นๆ
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น