การปฏิบัติตัวของเจ้าหนี้ นักทวงหนี้ ตามกฎหมายใหม่
(ขอให้เครดิตบทความจาก
|
สวัสดีพี่น้องทนายคลายทุกข์ ทาง E-Magazine ทุกท่าน
ทนายคลายทุกข์ขอส่ง บทความที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเรื่อง การปฏิบัติตัวของเจ้าหนี้ นักทวงหนี้ ตามกฎหมายใหม่
วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558 เป็นวันที่กฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่มีผลใช้บังคับ ตามมาตรา 2 ของพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ทำให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ทั่วไป ผู้ทวงถามหนี้ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้จะต้องปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ ผมในฐานะวิทยากรฝึกอบรมผู้ทวงถามหนี้ให้กับสถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนขอให้คำแนะนำเจ้าหนี้และผู้ทวงถามหนี้ดังนี้
1. ผู้ทวงถามหนี้ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบอำนาจช่วงจากเจ้าหนี้หรือจากสถาบันการเงินจะต้องจัดทำหนังสือ
มอบอำนาจให้สอดคล้องกับกฎหมายถึงแม้จะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า การทวงถามหนี้จะต้องทำเป็นหนังสือหรือต้องเป็นหลักฐานเป็นหนังสือตามคำพิพากษาฎีกาที่ 3958/2527 ก็ตาม เพื่อความปลอดภัยไม่ต้องถูกร้องเรียนว่ากระทำการขัดต่อกฎหมายทวงหนี้ ถ้าจะประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย
2. การทวงหนี้ภาคสนามหรือการทวงหนี้ต่อหน้า ผู้ทวงถามหนี้จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจที่ชัดแจ้งว่าได้รับมอบอำนาจ
ให้ทวงถามหนี้ และจะต้องแนะนำตัวให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยต้องแจ้งชื่อตัวและชื่อสกุล ชื่อหน่วยงานของตนและของเจ้าหนี้และต้องแจ้งจำนวนหนี้ที่ค้างชำระจะแจ้งชื่อเล่นหรือจะแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วนไม่ได้และก่อนจะทวงหนี้จะต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจให้กับลูกหนี้ แต่จะแสดงให้กับบุคคลอื่นไม่ได้เพราะจะเป็นการแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้ ตามมาตรา 9(4) และมาตรา 11(3)
3. การติดต่อกับบุคคลอื่นที่มิใช่ลูกหนี้ ผู้ทวงถามหนี้ทำได้เพียงสอบถามเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยหรือเบอร์โทรศัพท์ของลูกหนี้
หรือสถานที่ติดต่อเท่านั้น หรือขอให้ผู้ที่สนทนาด้วยซึ่งเป็นบุคคลอื่นยืนยันข้อมูลว่าลูกหนี้ยังอยู่อาศัยหรือยังทำงานอยู่หรือไม่ หรือยังใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิมหรือไม่ เป็นต้น ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นหนี้ให้กับบุคคลอื่นได้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายตามมาตรา 8 วรรคสอง (2) ประกอบมาตรา 39
4. การติดต่อกับสามี ภริยา บุพการีหรือผู้สืบสันดานของลูกหนี้ จะเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ได้ต่อเมื่อ
บุคคลดังกล่าวได้สอบถามผู้ทวงถามหนี้ถึงสาเหตุของการติดต่อ และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหนี้เปิดเผยได้เท่าที่จำเป็นและตามความเหมาะสมเท่านั้น หากเปิดเผยเกินกว่าหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดก็จะเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 8 และมีบทลงโทษตามมาตรา 39
5. การทวงถามหนี้จะติดต่อได้เฉพาะสถานที่ที่ลูกหนี้ให้ไว้เท่านั้น เช่น ที่อยู่อาศัย ที่ระบุไว้ในสัญญากู้หรือสัญญาเช่า
ซื้อ หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ในขณะขอสินเชื่อเท่านั้น เป็นต้น จะไปติดต่อสถานที่อื่นหรือเบอร์อื่นไม่ได้ หากฝ่าฝืนก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ตามมาตรา 9(1) มีบทลงโทษตามมาตรา 34 ถ้าติดต่อลูกหนี้ตามที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ไม่ได้จะติดต่อสถานที่อื่นได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ ติดต่อที่อยู่เดิมที่ให้ไว้ไม่สามารถติดต่อได้ แล้วได้พยายามติดต่อตามสมควรแล้วเท่านั้น
6. ช่วงเวลาในการติดต่อทวงถามหนี้ จันทร์ ถึง ศุกร์ ติดต่อได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 20.00 น.วันหยุดราชการ 08.00 น.
ถึง 18.00 น. หากทวงหนี้นอกเวลาที่กฎหมายกำหนดมีความผิดตามมาตรา 9(2) มีบทลงโทษตามมาตรา 34 ยกเว้นช่วงเวลาดังกล่าวลูกหนี้ไม่สะดวก ไม่เหมาะสมในการทวงหนี้ ให้ติดต่อในช่วงเวลาอื่นใดตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด เช่น กรณีที่ลูกหนี้ยินยอมให้ทวงหนี้ได้เวลาอื่นนอกจากที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น และจำนวนครั้งในการทวงถามหนี้ต้องเหมาะสม
7. การขอรับชำระหนี้ถ้าลูกหนี้ชำระหนี้แล้วต้องออกหลักฐานการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา
10 มีบทลงโทษตามมาตรา 34
8. ห้ามทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ ดูหมิ่น ใช้เอกสารเปิดผนึก หรือใช้ซองจดหมายที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นซองจดหมาย
สำหรับการทวงถามหนี้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 11 มีบทลงโทษตามมาตรา 39, มาตรา 41
9. การทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม นอกจากที่กฎหมายกำหนดไว้คณะกรรมการกำกับการทวงหนี้มีอำนาจในการที่จะออก
ประกาศกำหนดให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบันและในอนาคตได้ตามมาตรา 11(6), มาตรา 34
10. ห้ามทวงถามหนี้ในลักษณะที่เป็นเท็จหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือที่เรียกว่าทวงหนี้ในลักษณะหลอกลวง เช่น
การแสดงหรือการใช้ข้อความเพื่อให้ลูกหนี้หวาดกลัวหรือหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออ้างว่าเป็นทนายความ หรืออ้างว่าถ้าไม่ชำระหนี้จะถูกยึดเงิน ยึดทรัพย์ หรือเงินเดือน หรืออ้างว่าตัวเองดำเนินการหรือรับจ้างบริษัทข้อมูลเครดิตเพื่อให้ลูกหนี้กลัวและเร่งหาเงินมาชำระหนี้ กฎหมายฉบับนี้ห้ามไว้และมีบทลงโทษรุนแรงตามมาตรา 12 ,มาตรา 40 และมาตรา 41
11. ห้ามทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม เช่น การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆเกินกว่าที่คณะกรรมการ
ประกาศกำหนด รวมถึงการห้ามเสนอหรือจูงใจให้ลูกหนี้ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าลูกหนี้อยู่ในฐานะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ อันเป็นความผิดตามมาตรา 13 และมีบทลงโทษตามมาตรา 34, มาตรา 39
12. ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการทวงหนี้ ซึ่งมิใช่ของตนโดยเด็ดขาด หากประกอบธุรกิจทวงถามหนี้
หรือทวงถามหนี้ หรือสนับสนุนการทวงหนี้ซึ่งมิใช่ของตน เว้นแต่เป็นหนี้ของสามี ภริยา บุพการี หรือผู้สืบสันดานของตน หรือมีอำนาจกระทำได้ตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษหนักตามมาตรา 14 ประกอบมาตรา 42
กฎหมายทวงหนี้ฉบับนี้เป็นดาบสองคม กล่าวคือ ทำให้เจ้าหนี้โดยสุจริตเกิดอุปสรรคในการทำงานอย่างมากและทำให้การปล่อยสินเชื่อเป็นเรื่องยากสำหรับลูกหนี้ ในทางกลับกันเป็นการคุ้มครองสิทธิของลูกหนี้โดยสุจริต
ด้วยความปรารถนาดี
จาก ทีมงานทนายคลายทุกข์
ทนายคลายทุกข์ขอส่ง บทความที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเรื่อง การปฏิบัติตัวของเจ้าหนี้ นักทวงหนี้ ตามกฎหมายใหม่
วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558 เป็นวันที่กฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่มีผลใช้บังคับ ตามมาตรา 2 ของพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ทำให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ทั่วไป ผู้ทวงถามหนี้ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้จะต้องปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ ผมในฐานะวิทยากรฝึกอบรมผู้ทวงถามหนี้ให้กับสถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนขอให้คำแนะนำเจ้าหนี้และผู้ทวงถามหนี้ดังนี้
1. ผู้ทวงถามหนี้ที่เป็นผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบอำนาจช่วงจากเจ้าหนี้หรือจากสถาบันการเงินจะต้องจัดทำหนังสือ
มอบอำนาจให้สอดคล้องกับกฎหมายถึงแม้จะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่า การทวงถามหนี้จะต้องทำเป็นหนังสือหรือต้องเป็นหลักฐานเป็นหนังสือตามคำพิพากษาฎีกาที่ 3958/2527 ก็ตาม เพื่อความปลอดภัยไม่ต้องถูกร้องเรียนว่ากระทำการขัดต่อกฎหมายทวงหนี้ ถ้าจะประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย
2. การทวงหนี้ภาคสนามหรือการทวงหนี้ต่อหน้า ผู้ทวงถามหนี้จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจที่ชัดแจ้งว่าได้รับมอบอำนาจ
ให้ทวงถามหนี้ และจะต้องแนะนำตัวให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด โดยต้องแจ้งชื่อตัวและชื่อสกุล ชื่อหน่วยงานของตนและของเจ้าหนี้และต้องแจ้งจำนวนหนี้ที่ค้างชำระจะแจ้งชื่อเล่นหรือจะแจ้งข้อมูลไม่ครบถ้วนไม่ได้และก่อนจะทวงหนี้จะต้องแสดงหนังสือมอบอำนาจให้กับลูกหนี้ แต่จะแสดงให้กับบุคคลอื่นไม่ได้เพราะจะเป็นการแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้ ตามมาตรา 9(4) และมาตรา 11(3)
3. การติดต่อกับบุคคลอื่นที่มิใช่ลูกหนี้ ผู้ทวงถามหนี้ทำได้เพียงสอบถามเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยหรือเบอร์โทรศัพท์ของลูกหนี้
หรือสถานที่ติดต่อเท่านั้น หรือขอให้ผู้ที่สนทนาด้วยซึ่งเป็นบุคคลอื่นยืนยันข้อมูลว่าลูกหนี้ยังอยู่อาศัยหรือยังทำงานอยู่หรือไม่ หรือยังใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิมหรือไม่ เป็นต้น ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นหนี้ให้กับบุคคลอื่นได้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายตามมาตรา 8 วรรคสอง (2) ประกอบมาตรา 39
4. การติดต่อกับสามี ภริยา บุพการีหรือผู้สืบสันดานของลูกหนี้ จะเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ได้ต่อเมื่อ
บุคคลดังกล่าวได้สอบถามผู้ทวงถามหนี้ถึงสาเหตุของการติดต่อ และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหนี้เปิดเผยได้เท่าที่จำเป็นและตามความเหมาะสมเท่านั้น หากเปิดเผยเกินกว่าหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดก็จะเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 8 และมีบทลงโทษตามมาตรา 39
5. การทวงถามหนี้จะติดต่อได้เฉพาะสถานที่ที่ลูกหนี้ให้ไว้เท่านั้น เช่น ที่อยู่อาศัย ที่ระบุไว้ในสัญญากู้หรือสัญญาเช่า
ซื้อ หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ในขณะขอสินเชื่อเท่านั้น เป็นต้น จะไปติดต่อสถานที่อื่นหรือเบอร์อื่นไม่ได้ หากฝ่าฝืนก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ตามมาตรา 9(1) มีบทลงโทษตามมาตรา 34 ถ้าติดต่อลูกหนี้ตามที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้ไม่ได้จะติดต่อสถานที่อื่นได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ ติดต่อที่อยู่เดิมที่ให้ไว้ไม่สามารถติดต่อได้ แล้วได้พยายามติดต่อตามสมควรแล้วเท่านั้น
6. ช่วงเวลาในการติดต่อทวงถามหนี้ จันทร์ ถึง ศุกร์ ติดต่อได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 20.00 น.วันหยุดราชการ 08.00 น.
ถึง 18.00 น. หากทวงหนี้นอกเวลาที่กฎหมายกำหนดมีความผิดตามมาตรา 9(2) มีบทลงโทษตามมาตรา 34 ยกเว้นช่วงเวลาดังกล่าวลูกหนี้ไม่สะดวก ไม่เหมาะสมในการทวงหนี้ ให้ติดต่อในช่วงเวลาอื่นใดตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด เช่น กรณีที่ลูกหนี้ยินยอมให้ทวงหนี้ได้เวลาอื่นนอกจากที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น และจำนวนครั้งในการทวงถามหนี้ต้องเหมาะสม
7. การขอรับชำระหนี้ถ้าลูกหนี้ชำระหนี้แล้วต้องออกหลักฐานการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา
10 มีบทลงโทษตามมาตรา 34
8. ห้ามทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ ดูหมิ่น ใช้เอกสารเปิดผนึก หรือใช้ซองจดหมายที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นซองจดหมาย
สำหรับการทวงถามหนี้ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 11 มีบทลงโทษตามมาตรา 39, มาตรา 41
9. การทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม นอกจากที่กฎหมายกำหนดไว้คณะกรรมการกำกับการทวงหนี้มีอำนาจในการที่จะออก
ประกาศกำหนดให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบันและในอนาคตได้ตามมาตรา 11(6), มาตรา 34
10. ห้ามทวงถามหนี้ในลักษณะที่เป็นเท็จหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือที่เรียกว่าทวงหนี้ในลักษณะหลอกลวง เช่น
การแสดงหรือการใช้ข้อความเพื่อให้ลูกหนี้หวาดกลัวหรือหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออ้างว่าเป็นทนายความ หรืออ้างว่าถ้าไม่ชำระหนี้จะถูกยึดเงิน ยึดทรัพย์ หรือเงินเดือน หรืออ้างว่าตัวเองดำเนินการหรือรับจ้างบริษัทข้อมูลเครดิตเพื่อให้ลูกหนี้กลัวและเร่งหาเงินมาชำระหนี้ กฎหมายฉบับนี้ห้ามไว้และมีบทลงโทษรุนแรงตามมาตรา 12 ,มาตรา 40 และมาตรา 41
11. ห้ามทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม เช่น การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆเกินกว่าที่คณะกรรมการ
ประกาศกำหนด รวมถึงการห้ามเสนอหรือจูงใจให้ลูกหนี้ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าลูกหนี้อยู่ในฐานะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ อันเป็นความผิดตามมาตรา 13 และมีบทลงโทษตามมาตรา 34, มาตรา 39
12. ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการทวงหนี้ ซึ่งมิใช่ของตนโดยเด็ดขาด หากประกอบธุรกิจทวงถามหนี้
หรือทวงถามหนี้ หรือสนับสนุนการทวงหนี้ซึ่งมิใช่ของตน เว้นแต่เป็นหนี้ของสามี ภริยา บุพการี หรือผู้สืบสันดานของตน หรือมีอำนาจกระทำได้ตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษหนักตามมาตรา 14 ประกอบมาตรา 42
กฎหมายทวงหนี้ฉบับนี้เป็นดาบสองคม กล่าวคือ ทำให้เจ้าหนี้โดยสุจริตเกิดอุปสรรคในการทำงานอย่างมากและทำให้การปล่อยสินเชื่อเป็นเรื่องยากสำหรับลูกหนี้ ในทางกลับกันเป็นการคุ้มครองสิทธิของลูกหนี้โดยสุจริต
ด้วยความปรารถนาดี
จาก ทีมงานทนายคลายทุกข์
/////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย)
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้และ
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ
จากเว๊บที่มีชื่อด้านล่าง/บนนี้ที่เราได้ไปค้นพบมาให้ท่านชม
|
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา 2958 )ถ่ายทอด
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร
ไม่รับโฆษณา ลงข่าวฟรี! ประกาศข่าวฟรี! ฟรีทุกอย่าง
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้.... บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ)
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง
(คนเดลิมิเร่อร์) ผู้ช่วย บ.ก.
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์)
สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”)
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ
(ที่ปรึกษากฎหมาย)ไม่มีเงินจ้างทนายเราช่วยได้(ฟรี!)
(รับปรึกษาปัญหากฎหมายฟรี!)
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ)
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ)
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056)
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่ง
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
อีเมล์...dpm2554@gmail.com
คอลัมนิสต์ นามปากกา “คนพิเศษ”
(ผู้ตรวจข่าวฉบับที่1.)
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”)
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ
(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น