ข่าวตำรวจ ประจำวันที่ 4 ธ.ค.2558
Last Updated On: 4 ธันวาคม 2558 - 20:56:00
ผบช.ตม.เผยรัสเซียยันไม่พบก่อการร้ายในไทย
http://news.sanook.com/1910262(credit… )
ผบช.ตม. เผย ตำรวจรัสเซีย ประสาน และปฏิเสธไม่พบข้อมูลก่อการร้ายในไทยแน่ สั่งเฝ้าระวังตามปกติ
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงกรณีการแจ้งเตือนจากทางการประเทศรัสเซียให้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศเป้าหมายที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ว่า อาจจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย โดยระบุว่า ได้รับการประสานจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้ตรวจสอบชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศเป้าหมายในช่วงวันที่ 15 - 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีชาวต่างชาติเดินทางมาจากประเทศเป้าหมายจำนวน 231 คน ขอวีซ่าท่องเที่ยว 60 วัน มาอย่างถูกต้องจากสถานทูตไทยในประเทศ ซึ่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 ธันวาคม) เหลือชาวต่างชาติ เพียง 21 คน เป็นชาย 11 คน อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ พัทยา และ ภูเก็ต และเป็นหญิง 5 คน ขณะที่การประสานงานกับทางตำรวจรัสเซีย ก็ปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่มีข้อมูลว่ากลุ่มชาวต่างชาติเหล่านี้จะเข้ามาก่อเหตุร้ายในประเทศไทยด้าน พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ระบุว่า การแจ้งเตือนในครั้งนี้ เป็นไปตามปกติ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุก่อการร้ายในประเทศหนึ่ง ทุกประเทศก็จำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นเรื่องปกติ
///////////////////////////////////////////////////http://news.sanook.com/1910214(credit… )
จนท.คุมผู้ต้องหา ม.112 ฝากขังศาลทหาร
ตำรวจคุมตัว ผู้ต้องหาคดีขอนแก่นโมเดล มาฝากขังต่อศาลทหาร เป็นผลัดที่ 2 พร้อมกับนำตัว 'อาท' คดี ม.112 ฝากขังผัดที่ 5 ด้วย
เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ควบคุมตัว จ่าสิบตำรวจประธิน จันทร์เกศ อดีตตำรวจตระเวนชายแดน และ นายณัฐพล ณ วรรณ์เลกลุ่มขอนแก่นโมเดล ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 มาขออำนาจศาลทหาร ฝากขังผลัดที่ 2 เป็นเวลา 12 วัน โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมการสื่อสารกันในสื่อโซเชียลเตรียมก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จัดกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด จนนำมาสู่การขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน ซึ่งจับได้แล้วรวม 5 คน คือ จ่าสิบตำรวจประธิน จันทร์เกศ, นายณัฐพล ณ วรรณ์เล, นายวัลลภ บุญจันทร์, นายพาหิรัณ กองคำ และ นายฉัตรชัย ศรีวงษา
และมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีคือ นายพิษณุ พรหมสร, นายมีชัย ม่วงมนตรี, นายวีรชัย ชาบุญมี ขณะที่ นายธนกฤต ทองเงินเพิ่มทนายความ แจ้งว่า อยู่ในการควบคุมของเรือนจำจังหวัดขอนแก่น
และมีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีคือ นายพิษณุ พรหมสร, นายมีชัย ม่วงมนตรี, นายวีรชัย ชาบุญมี ขณะที่ นายธนกฤต ทองเงินเพิ่มทนายความ แจ้งว่า อยู่ในการควบคุมของเรือนจำจังหวัดขอนแก่น
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ อาท ชัตเตอร์มหาเทพ เลขาฯ ของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง หมอดูชื่อดัง ซึ่งเสียชีวิตแล้ว ผู้ต้องหาร่วมกับ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตราประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มายังศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขออำนาจศาลทหารฝากขังผัดที่ 5 เป็นเวลา 12 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 7 ธันวาคม นี้
/////////////////////////////////////////////////////////////////
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=774355(credit… )
ตำรวจสากลจับกุมผู้ร่วมขบวนการระเบิดราชประสงค์เพิ่ม
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2558 มีรายงานว่าตำรวจสากลจับผู้ร่วมขบวนการระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทรได้เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ในความควบคุมของต่างประเทศ โดยผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้ในครั้งนี้ คือ นางสาววรรณา สวนสัน หรือไมซาเลาะห์ และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู (Emrah Davutoglu) ชาวตุรกี 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนีออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2558 ผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต โดยในวันดังกล่าวมีภาพปรากฏที่สนามบินภูเก็ตพร้อมกับชายที่มีใบหน้าคล้ายกับภาพสเก็ตช์ที่ตำรวจออกหมายจับพร้อมกัน นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า นางสาววรรณา มีประวัติเดินทางไปยังมาเลเซีย โดยข้ามไปทางด่าน อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2557 และ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2557 เดินทางไปยังกัมพูชา ผ่านด่าน อ.คลองลึก จ.สระแก้ว
สำหรับนางสาววรรณา ถูกกล่าวหาทำหน้าที่เป็นผู้ที่เปิดห้องเลขที่ 9106 ภายในอาคารที่พักอาศัยย่านมีนบุรี ให้ชายที่ไม่ระบุสัญชาติพักอาศัย ซึ่งผลจากการตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลาง คือ ดินดำ ปุ๋ยยูเรีย รถบังคับวิทยุพร้อมรีโมทคอนโทรล หลอดไฟขนาดเล็ก นาฬิกาดิจิตอล และน็อต ซึ่งวัสดุอุปรณ์เหล่านี้สามารถนำมาทำเป็นระเบิดได้ และมีสะเก็ดที่มีอนุภาพรุนแรง ทั้งนี้มั่นใจว่าทั้งสองคนนี้เป็นขบวนเดียวกันกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร โดยศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติหมายจับใน ข้อหา “ร่วมกันครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนนายเอ็มระห์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับลำดับที่ 8 ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียุทธภันฑ์ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนายเอ็มระห์ ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาที่พักให้กลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ในขบวนการวางระเบิดทั้งที่บริเวณราชประสงค์ และท่าเรือสาทร และจากการตรวจสอบบัญชีของ นายเอ็มระห์ มีการรับโอนเงินจากบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ 4 ครั้ง โดยครั้งแรก มีเงินบัญชีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 จำนวน 156,106 บาท / ครั้งที่ 2 วันที่ 17 มีนาคม 2558 จำนวน 157,646 บาท ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2558 จำนวน 410,000 บาท และเริ่มมีการทยอยถอนเงินออกจากบัญชีตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 จนเหลือยอดเงินเพียง 395 บาท / และครั้งสุดท้าย วันที่ 27 สิงหาคม 2558 จำนวน 14,495 บาท
ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีของนายเอ็มระห์ ยังพบอีกว่ามีชาวต่างชาติ ที่อยู่ในจีน และตุรกี รวม 7 คน โอนเงินเข้ามาให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จำนวน 4 คน รวมถึงนายเอ็มระห์ด้วย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 ถึง เดือนมีนาคม 2558 รวมเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ และจากการตรวจสอบมีหลักฐานว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำ และซื้อสารประกอบวัตถุระเบิด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ตำรวจสากลไทยอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เบื้องต้นทราบว่าการจับกุมนางวรรณาและสามีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นางวรรณา อยู่ในตุรกี เกินกำหนด โดยถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย ส่วนนายเอ็มระห์ สามี เจ้าหน้าที่ตุรกีตรวจสอบพบว่าถือหนังสือเดินทางของประเทศตุรกี แต่เป็นหนังสือเดินทางปลอม ซึ่งทางการตุรกีอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นชาวอุยกูร์หรือไม่ ขณะที่ตำรวจไทยยังรอการประสานงานของเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศกับทางการตุรกีว่าจะสามารถส่งนางวรรณาและสามีกลับมาดำเนินคดีในไทยได้เลยหรือไม่ หรือต้องรอดำเนินคดีในตุรกีก่อน
สำหรับนางสาววรรณา ถูกกล่าวหาทำหน้าที่เป็นผู้ที่เปิดห้องเลขที่ 9106 ภายในอาคารที่พักอาศัยย่านมีนบุรี ให้ชายที่ไม่ระบุสัญชาติพักอาศัย ซึ่งผลจากการตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลาง คือ ดินดำ ปุ๋ยยูเรีย รถบังคับวิทยุพร้อมรีโมทคอนโทรล หลอดไฟขนาดเล็ก นาฬิกาดิจิตอล และน็อต ซึ่งวัสดุอุปรณ์เหล่านี้สามารถนำมาทำเป็นระเบิดได้ และมีสะเก็ดที่มีอนุภาพรุนแรง ทั้งนี้มั่นใจว่าทั้งสองคนนี้เป็นขบวนเดียวกันกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร โดยศาลจังหวัดมีนบุรีได้อนุมัติหมายจับใน ข้อหา “ร่วมกันครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนนายเอ็มระห์ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับลำดับที่ 8 ถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียุทธภันฑ์ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนายเอ็มระห์ ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาที่พักให้กลุ่มผู้ต้องหาที่อยู่ในขบวนการวางระเบิดทั้งที่บริเวณราชประสงค์ และท่าเรือสาทร และจากการตรวจสอบบัญชีของ นายเอ็มระห์ มีการรับโอนเงินจากบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ 4 ครั้ง โดยครั้งแรก มีเงินบัญชีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 จำนวน 156,106 บาท / ครั้งที่ 2 วันที่ 17 มีนาคม 2558 จำนวน 157,646 บาท ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2558 จำนวน 410,000 บาท และเริ่มมีการทยอยถอนเงินออกจากบัญชีตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2558 จนเหลือยอดเงินเพียง 395 บาท / และครั้งสุดท้าย วันที่ 27 สิงหาคม 2558 จำนวน 14,495 บาท
ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีของนายเอ็มระห์ ยังพบอีกว่ามีชาวต่างชาติ ที่อยู่ในจีน และตุรกี รวม 7 คน โอนเงินเข้ามาให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จำนวน 4 คน รวมถึงนายเอ็มระห์ด้วย ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 ถึง เดือนมีนาคม 2558 รวมเป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ และจากการตรวจสอบมีหลักฐานว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำ และซื้อสารประกอบวัตถุระเบิด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ตำรวจสากลไทยอยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ เบื้องต้นทราบว่าการจับกุมนางวรรณาและสามีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นางวรรณา อยู่ในตุรกี เกินกำหนด โดยถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย ส่วนนายเอ็มระห์ สามี เจ้าหน้าที่ตุรกีตรวจสอบพบว่าถือหนังสือเดินทางของประเทศตุรกี แต่เป็นหนังสือเดินทางปลอม ซึ่งทางการตุรกีอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นชาวอุยกูร์หรือไม่ ขณะที่ตำรวจไทยยังรอการประสานงานของเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศกับทางการตุรกีว่าจะสามารถส่งนางวรรณาและสามีกลับมาดำเนินคดีในไทยได้เลยหรือไม่ หรือต้องรอดำเนินคดีในตุรกีก่อน
/////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย)
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้และ
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ
จากเว๊บที่มีชื่อด้านล่าง/บนนี้ที่เราได้ไปค้นพบมาให้ท่านชม
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา 41258 )ถ่ายทอด
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร
ไม่รับโฆษณา ลงข่าวฟรี! ประกาศข่าวฟรี! ฟรีทุกอย่าง
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้.... บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ)
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง
(คนเดลิมิเร่อร์) ผู้ช่วย บ.ก.
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์)
สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”)
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ
(ที่ปรึกษากฎหมาย)เรามีเพื่อนๆสื่อฯจำนวนมาก
(รับปรึกษาปัญหากฎหมายฟรี!)
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ)
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ)
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056)
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่ง(หลายสื่อ)
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
อีเมล์...dpm2554@gmail.com
คอลัมนิสต์ นามปากกา “คนพิเศษ”
(ผู้ตรวจข่าวฉบับที่1.)
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”)
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ
(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น