เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2559 คนเที่ยวทะลุเป้า สร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2559 พร้อมเดินหน้าทำตลาดในประเทศอย่างเข้มข้น เน้นรายได้สู่ชุมชน เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน
วันนี้ ( 18 มกราคม 2559 ) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า จากการที่ ททท.ได้การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2559 เมื่อวันที่ 13 - 17 มกราคม ที่ผ่านมา ณ สวนลุมพินี ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ตลอด 5 วันที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงานตลอดทั้งช่วงเวลาจัดงานตั้งแต่ 12.00 – 22.00 น. มีเงินหมุนเวียนจากการจัดงานทั้งสิ้น 309,791,423 บาท เพิ่มจากการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยปีที่ผ่านมาถึง 35.2% จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ 25% โดยมียอดผู้เข้าชมงาน 671,411 ราย เพิ่มขึ้น 9.5% และผู้ร่วมชมงานส่วนใหญ่ ใช้เงินในหมวดค่าอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด คิดเป็นเงิน 186,908,289 บาท รองลงมาคือการซื้อสินค้าหัตถกรรมและสินค้าจากชุมชน เป็นเงิน 79,758,940 บาท และค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง เป็นเงิน 43,124,195 บาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเกินกว่าที่ตั้งเป้าหมาย ทั้งในด้านรายได้และการสร้างการรับรู้ข้อมูลเรื่องการท่องเที่ยวในชุมชน
ทั้งนี้ โซนที่ได้รับความนิยมคือ หมู่บ้าน 5 ภาค ซึ่งมีการแสดงสินค้าพื้นบ้าน อาหารท้องถิ่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งนิทรรศการให้ข้อมูลทางการท่องเที่ยว และรองลงมาคือ การแสดงเวทีกลาง ช่วงเวลาที่มีผู้ชมงานหนาแน่นสูงสุด คือ 17.00 – 19.00 น. ซึ่งเป็นเวลาหลังเลิกงานและอากาศไม่ร้อนมากนัก และจังหวัดที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด คือ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี เลย สุราษฎร์ธานี ชลบุรี และภูเก็ต ตามลำดับ
จากการสอบถามผู้เข้าร่วมออกร้านและสาธิตส่วนใหญ่ พึงพอใจอย่างมาก เพราะนอกจากรายได้จากการจำหน่ายสินค้าแล้ว ยังได้เผยแพร่ผลงานและแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนด้วย นางประนอม ทาแปง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ศิลปะผ้าทอ) ปี2553 ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมงาน เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ในครั้งนี้ กล่าวว่า “รายได้จากการขายผ้าในกลุ่มของป้า ประมาณ 90,000 บาท ปีนี้มีกลุ่มลูกค้าอายุน้อยลงที่มาซื้อ ส่วนใหญ่จะซื้อเสื้อ แต่ผ้าที่ขายดีก็จะเป็นผ้าย้อมครามตีนจก ซึ่งยังเป็นลูกค้ากลุ่มคนทำงาน เป็นโอกาสดีที่ป้าจะได้อธิบายถึงขั้นตอนการทอ และมีหลายคนที่จะตามไปซื้อที่ร้านป้า ที่จังหวัดแพร่”
ส่วนร้าน “ขนมจีนมอญลำไย” จากบ้านหนองดู่ อ.ป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งเข้าร่วมงานครั้งแรก มียอดขาย 5 วัน 20,000 บาท ซึ่งเป็นที่พึงพอใจมาก เนื่องจากได้เผยแพร่เอกลักษณ์ประจำถิ่นและมีคนรู้จักมากขึ้น นางสิริกร ยิ้มแย้ม และนางภาพร กุลณะโชติอมร ตัวแทนชุมชนกล่าว
สำหรับกลุ่มสตรีเสื่อกกบ้านเสม็ดงาม จังหวัดจันทบุรี โดยนางจุไรรัตน์ สรรพสุข ประธานกลุ่มฯ ให้สัมภาษณ์ว่า “ อยากให้ขยายวันจัดงานเป็น 10 วัน เพราะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกในกลุ่มอย่างมาก คนไทย ชอบซื้อเสื่อและหมอน ส่วนชาวต่างชาติชอบซื้อรองเท้า ส่วนรายได้จากการขายประมาณ 120,000 บาท และบางส่วนจะตามไปซื้อที่บ้านป้าด้วย เพราะบางอย่างป้าขายหมดแล้ว” ส่วนร้านกุ้งใหญ่ปลามัน ผู้จำหน่ายกุ้งก้ามกรามย่าง จากฟาร์ม จังหวัดปราจีนบุรี หมู่บ้านภาคตะวันออก สามารถจำหน่ายกุ้งได้วันละมากกว่า 1 ตัน คิดเป็นรายได้มากกว่าวันละ 150,000 บาท หากมีการจัดงานอีก จะเข้าร่วมเช่นเคย
อีกสินค้าชุมชนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงคือ กลุ่มกระจูดบ้านทอนอามาน จังหวัดนราธิวาส โดยนางพัชรินทร์ บินเจ๊ะมิง ประธานกลุ่ม เปิดเผยว่า “ ขายได้ถึง 200,000 บาท ซึ่งเยอะที่สุดเท่าที่เคยออกร้านมาแล้ว เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน และดีใจมากที่ได้เข้าร่วมงาน ตอนนี้จะขยายการผลิตโดยสอนคนรุ่นให้ทำเป็น สำหรับปีหน้าจะเตรียมตัวและสินค้าให้มากพอ ปีนี้เสียดายที่เตรียมสินค้ามาน้อย แค่ 2 โบกี้รถไฟ ก็ยังไม่พอจำหน่าย เรียกว่าขนมาหมดหมู่บ้านแล้ว” นางพัชรินทร์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ส่วนหมู่บ้านภาคกลางซึ่งได้รับความนิยมเช่นกันนั้น จากการสอบถามร้าน“หอมเย็น”จำหน่าย ข้าวมันส้มตำไทยโบราณ และไอศกรีม ซึ่งมาร่วมงานปีนี้เป็นปีแรก โดยการเชิญของ ททท. ภาคกลาง ได้รับผลตอบรับที่ดีเช่นกัน ทั้งอาหาร และไอศกรีม จำหน่ายราคาชุดละ 50 บาท และถ้วยละ 30 บาท ตามลำดับ ซึ่งมียอดขายรวม 5 วันประมาณ 80,000 บาท และยืนยันว่าปีหน้าจะมาร่วมงานอีกแน่นอน ส่วนเครื่องจักสานป่านศรนารายณ์
ร้าน “กลุ่มอาชีพสตรีจักสานป่านศรนารายณ์” โดยนางณัฐระวี เดื่อขันธ์มณี มาร่วมงานที่จัดในสวนลุมพินีเป็นปีแรก ในปีนี้ขายดีพอควรยอดขายรวมประมาณ 100,000 บาท แต่ยืนยันว่าปีหน้าจะมาอีกแน่นอนเช่นกัน เพราะมีกลุ่มลูกค้าขาประจำมาซื้อทุกปี
อีกหมู่บ้านที่คึกคักตลอดทั้งวัน คือ หมู่บ้านภาคอีสาน ซึ่งร้าน “หมูยอคุณองุ่น” มาร่วมงานเป็นปีที่สองแล้ว โดยในปีนี้ถือว่าขายดีมาก หมูยอจำหน่ายชุดละ 150 บาท มีลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่มาแวะเวียนมาตลอดเวลา อาจจะมีปัญหาบ้างที่ต้องต่อแถวยาวรอนาน แต่ก็สามารถดูแลลูกค้าได้ ในส่วน “กลุ่มทอผ้าไหมบ้านสน จังหวัดสุรินทร์” (ผ้าไหมมัดหมี่) โดยนางเพียรพิศ อนุสรณ์ทรางกูล กล่าวว่า “ในปีนี้ขายดีมากๆ มีลูกค้าที่ค่อนข้างมีฐานะมาเลือกซื้อจำนวนมาก บางรายเป็นลูกค้าเก่าที่บังเอิญมาเจอในงาน และมีคนรุ่นใหม่ หนุ่มสาว แวะมาคุย มาดูมากขึ้น สินค้าที่ขายราคาประมาณ 1,000 – 25,000 บาท ยอดขาย 5 วันไม่น่าจะต่ำกว่า 660,000 บาท”
ททท. มั่นใจว่าการจัดงานในครั้งนี้จะสามารถสร้างแรงจูงใจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาค กระจายรายได้ไปสู่ชุมชนทั่วประเทศ รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมและตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี ท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวยั่งยืนต่อไป
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา 18159 )ถ่ายทอด.....
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ไม่รับโฆษณา ลงข่าวฟรี! ประกาศข่าวฟรี! ฟรีทุกอย่าง.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(คนเดลิมิเร่อร์) ผู้ช่วย บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”).....
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์")ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....
(รับปรึกษาปัญหากฎหมายฟรี!).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลายสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น