อัศจรรย์พลังอำนาจของคำภาวนา "พุทโธ"(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด).......

(069) อัศจรรย์พลังอำนาจของคำภาวนา "พุทโธ"

อัศจรรย์พลังอำนาจของคำภาวนา "พุทโธ"

ท่านทั้งหลาย มีเรื่องหนึ่งที่อยากจะเล่าให้ฟัง คือ ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ผมต้องเดินทางไปวัดภูดานไห อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เนื่องในวาระมุทิตาสักการะพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ในวันนั้นเวลาประมาณหกโมงเช้า ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่เขยว่า พี่สาวของผมจะเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดมะเร็งเต้านม (ระยะแรก) ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี่ นครราชสีมา แบบเร่งด่วน แต่ผมมีโปรแกรมต้องเดินทางไปภูดานไห ผมจึงบอกพี่สาวว่า "ผมไม่ได้อยู่ดูแลนะ ขอให้เข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดตามกำหนด แล้วผมจะภาวนาช่วย และขอให้ภาวนา "พุทโธ" นะ" เธอตอบตกลง

ความจริงแล้ว พี่สาวและพี่เขยของผม ทั้งสองคนต่างมีจิตใจใฝ่ในธรรม มักเข้าวัดทำบุญอยู่เป็นประจำ อาจเนื่องจากครอบครัวของเรา คือ ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายลงมาจนถึงรุ่นพ่อแม่ มักมีความผูกพันอยู่กับวัด ผมมักเห็นยายและแม่ใส่บาตรไปจังหันและเพลอยู่ทุกวัน พอวันพระ ท่านก็จะไปเจริญภาวนา รักษาศีล นุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่วัด และเมื่อถึงวันพระคราใด ไม่ผมก็พี่สาวจะต้องทำหน้าที่ถือเสื่อสาดหมอนไปส่งไปรับท่านที่วัดเป็นประจำ ซึ่งเป็นนิสัยต่างจากพี่น้องคนอื่นๆ 

ต่อมาเมื่อราวปี 2553 พี่สาวและพี่เขยของผมเริ่มเข้าวัดอย่างจริงจัง เพื่อภาวนาและถือศีลแปดเช่นเดียวกันกับแม่ของผม และในที่สุดเธอก็โชคดี เมื่อได้พบและได้ไปปฏิบัติธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์คือ หลวงพ่อฉลวย อาภาธโร พระผู้พ้นแล้วแห่งวัดโคกปราสาท ต.หลุ่งตะเคียน อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านของเธอราว 11 กิโลเมตร หลวงพ่อฉลวย อาภาธโร ท่านมีอาสวักขยญาณอันกว้างไกล สามารถรู้วาระจิต รู้อดีตและอนาคตของผู้คน ท่านบอกพี่สาวของผมไว้ล่วงหน้าแล้วว่า... "แตงโมที่ปลูกไว้ก็งามดีดอก ได้เงินมากอยู่ แต่ก็ขอให้เก็บเงินไว้รักษาตัวเองด้วยเด้อโยม"... แล้วท่านได้สอนภาวนาให้พิจารณาถึงความตาย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นอารมณ์ ให้พิจารณาร่างกายเป็นของไม่เที่ยง ไม่มีสิ่งใดเป็นของตนเองเลย โดยมีคำภาวนา "พุทโธ" เป็นหลัก ซึ่งพี่สาวของผมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อเธอภาวนาสมาธิครั้งแรก ปรากฏว่า จิตเธอสงบเร็วมาก จนเกิดภาพนิมิตเห็นภาพพระสงฆ์และแม่ชีสลับกัน นั่นจึงเป็นกำลังใจให้เธอมุ่งปฏิบัติธรรมเรื่อยมา

ท่านทั้งหลาย ครั้งแรกที่เธอเริ่มสัมผัสก้อนเนื้อร้ายที่เต้านมได้ เธอไม่ประมาท จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หมอวินิจฉัยว่า เธอเป็นมะเร็ง เธอตกใจเล็กน้อย อาจด้วยคุณแห่งการภาวนา และการพิจารณาสังขารอยู่เป็นประจำ จึงช่วยระงับความวิตกกังวลของเธอลงได้ หลังจากนั้น เธอเริ่มพิจารณาเรื่องของเวรกรรมที่ต้องชดใช้เจ้ากรรม ต่อมาไม่นาน หมอได้นัดให้เธอมาตรวจอีกครั้ง เพื่อผ่าตัดเอาก้อนเนื้อตัวอย่างไปตรวจ (ยังไม่ตัดเต้านม) ปรากฏว่า ในขณะที่หมอกำลังผ่าตัดอยู่นั้น มีดผ่าตัดอันคมกริบ กลับไม่สามารถกรีดผิวหนังของเธอเข้าไปได้ เธอได้ยินหมอเรียกให้พยาบาลเอามีดเล่มใหม่มาให้ พร้อมกับพูดว่า "ผ่าไม่เข้า" เมื่อเปลี่ยนมีดเล่มใหม่แล้วก็ยังไม่สามารถกรีดเข้าอีก จนกระทั่งเล่มที่สามจึงสามารถผ่าได้ เธอเล่าให้ผมฟังว่า เธอภาวนา "พุทโธ" อยู่ตลอดเวลา นี้จึงเป็นความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นครั้งแรก

ต่อมา เมื่อทราบผลชัดเจนแล้วว่า เธอเป็นมะเร็งร้ายในระยะแรก เธอจึงตัดสินใจเข้าไปผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลเซนต์แมรี นครราชสีมา ในวันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้โทรศัพท์มาแจ้งผม พร้อมกับขอให้ผมภาวนาช่วยเธอด้วย ผมบอกให้เธอภาวนา และขอให้อุทิศบุญกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรด้วย ให้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พ่อแม่ และครูอาจารย์ ขอบุญกุศลทั้งหลายที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว จงมาระงับความเจ็บปวดทั้งหลายด้วย ผมบอกเธอต่อไปว่า แม้ผมจะเดินทางไปภูดานไห แต่ผมจะภาวนาช่วยในตอนผ่าตัดนะ เธอจึงรับทราบ 

ต่อมาประมาณบ่ายสามโมง เธอได้เข้าห้องผ่าตัดซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผมได้ส่งจิตอธิษฐานไปช่วยเธอ ขณะที่ตัวเธอเองก็ได้ภาวนา "พุทโธ" อยู่ตลอดเวลา เมื่อพยาบาลนำเครื่องวัดหัวใจที่ใช้ในการผ่าตัด แม้เครื่องวัดจะมีกระแสไฟฟ้าเข้าปรกติ แต่ปรากฏว่า เข็มวัดและคลื่นวัดไม่ทำงาน หยุดนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น พยาบาลและหมอต่างสาละวนว่าเกิดอะไรขึ้น พยาบาลเอ่ยปากถามพี่สาวผมว่า "ป้าๆมีของดีของขลังอะไรอยู่ในตัวหรือเปล่า" พี่สาวผมตอบว่า "ไม่มีอะไรคุณหมอ" จนเวลาล่วงเลยคือยานอนหลับออกฤทธิ์ไม่รู้สึกตัวแล้ว หมอจึงลงมือผ่าตัดได้ นั่นจึงเป็นความอัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นกับเธอเป็นครั้งที่สอง

ต่อมา เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว หมอให้เธอมาพักผ่อนในห้องพิเศษเหมือนคนไข้ทั่วๆไป แต่ปรากฏว่า เธอไม่มีอาการเจ็บปวดหรือเป็นไข้ใดๆ หมอมาตรวจมาวัดทุกครั้งก็ได้คำตอบว่า ปรกติเหมือนคนทั่วไป ดูหน้าตาก็แจ่มใส กินอาหารได้มากกว่าปรกติ แผลก็หายเร็วกว่าปรกติ จนหมอสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น หรือเป็นการผ่าตัดเอาเต้านมออกโดยไม่ได้เป็นเนื้อร้ายหรือไม่ เนื่องจากหมอที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เอาผลการตรวจมาจากโรงพยาบาลแรก โดยไม่ได้ตรวจซ้ำ จึงเกิดความโกลาหลขึ้นเล็กน้อย นี่จึงเป็นความอัศจรรย์ครั้งที่สาม 

เมื่อผมเดินทางกลับจากภูดานไห เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2555 แล้ว ผมได้ไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล พร้อมกับได้อธิษฐานจิตช่วยรักษาเธอด้วย "พลังเมตตา"  เธอโน้มจิตรับพลังบางอย่างที่วิ่งไปทั่วร่างของเธอ ด้วยอาการปีติ เธอยิ้มพยักหน้าพร้อมกับพูดกับผมว่า เธอรู้สึกเย็นซ่านแผ่ไปทั้งตัว และพูดถึงความรู้สึกอัศจรรย์อีกหลายอย่าง ...(ขอสงวนรายละเอียด)... เพราะเป็นการรับรู้ด้วยกันสองคนเป็นปัตจัตตัง ผมบอกให้เธอภาวนาและแผ่บุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรว่า เธอได้ชดใช้กรรมให้แล้วนะ ต่อไปจะขอภาวนาให้ถึงที่สุดจนตลอดชีวิต และเธอก็ได้ปวารณาตัวว่า หากน้องชายออกบวช เธอจะขอติดตามไปภาวนาด้วย นี่จึงเป็นความอัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นกับเธอเป็นครั้งที่สี่ 

ท่านทั้งหลาย ในวันต่อมา เธอเล่าให้ผมฟังว่า ประมาณช่วงตีสาม เธอได้ลุกขึ้นมาภาวนาบนเตียงคนไข้นานจนถึงเกือบสว่าง ได้ปรากฏภาพนิมิตขึ้นมาว่า เธอเห็นผู้หญิงผมยาวมายืนหน้าเศร้าอยู่ข้างเตียง ผมจึงบอกให้เธออุทิศบุญให้เขานะ เขาคงมาขอส่วนบุญ พอคืนต่อมาขณะที่เธอนั่งภาวนาบนเตียงคนไข้เหมือนเดิม ก็ปรากฏเห็นภาพเด็กหนุ่มมีเลือดเต็มศรีษะ มายืนอยู่ข้างเตียงอีก พร้อมกับเห็นภาพคนนอนตายอยู่ข้างโรงพยาบาลด้วย เธอจึงได้อุทิศแผ่บุญกุศลไปให้ เมื่อมีญาติๆมาเยี่ยม ต่างก็แปลกใจว่า ทำไมเธอไม่เหมือนคนไข้ แถมยังมีหน้าตาสดชื่นผ่องใส แถมยังได้โปรดพวกดวงวิญญาณอีกต่างหาก นี่จึงเป็นความอัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นกับเธอเป็นครั้งที่ห้า

ท่านทั้งหลาย ที่ผมนำเอาเรื่องราวนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้พวกเราได้ตระหนัก และเชื่อมั่นในคุณของพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ และขอให้เชื่อมั่นในพลานุภาพแห่งคำภาวนา "พุทโธ" นั้น ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ไม่มีสิ่งใดมาเสมอเหมือนได้ และขอให้เชื่อในเรื่องของบุญกุศล หรือแม้แต่การอุทิศแผ่บุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร และดวงวิญญาณต่างๆนั้น นับว่ามีอานิสงส์มาก และขอให้เชื่อมั่นว่า "ธรรมโอสถ" นั้น สามารถระงับความเจ็บปวดได้จริง นี่คือผลของการเจริญภาวนา "พุทโธ" และพิจารณาถึงความตาย ตามคำสอนของพระพุทธองค์ และตามคำแนะนำของหลวงพ่อ จึงส่งผลอย่างที่ผมกล่าวมาแล้ว จึงขออนุโมทนากับผู้ที่ได้อ่านเจอข้อความนี้ทุกท่านครับ

ขอเจริญในธรรม

ดร.นนต์(เครดิต)

11 กุมภาพันธ์ 2555   

เขียนโดย Asst. Prof. Dr.Natdhnond Sippaphakul ที่ 07:40 (เครดิต)

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐนนต์ สิปปภากุล ยินดีต้อนรับสู่พื้นที่ทางธรรมและอจินไตย เพื่อเป็นวิทยาทาน และการ

กุศล dr.natdhnond@gmail.com, dr.natdhnond@hotmail.com (เครดิต)

http://dr-nontayan.blogspot.com/2012/02/069.html (เครดิต)

/////////////////////////////////////////////////////////////

ทีมงาน(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด).......

น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....

ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....

(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...

ผู้อำนวยการน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)

จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....

(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....

สุพัฒน์กฤต(ป้อม) เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......

บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....

สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”).....

ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….

สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......

ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......

ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....

เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....

นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....

โทร.099-2612588(ไลน์)หรือ 086 – 7928056).....

ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....

ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....

รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....

dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....

คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....

รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....

รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....

……………………………………………………………….

(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด).......