วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

นำเข้าจีนหด ส่งออกไทยส่อแววทรุดต่อ (รหัสพิเศษ678)


นำเข้าจีนหด ส่งออกไทยส่อแววทรุดต่อ 
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ประเมินส่งออกปี 2555 อาจ
ขยายตัวเพียงร้อยละ 3.0 จากภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าหลักชะลอตัวและราคาสินค้า
เกษตรตกต่ำ เหลือเพียงส่งออกไป CLMV ยังโตต่อเนื่องสวนทางตลาดอื่นๆ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 กันยายน 2555) ทางการจีนได้รายงานตัวเลขการค้าระหว่าง
ประเทศของจีนในเดือนสิงหาคมแสดงถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนที่ได้รับผลก
ระทบวิกฤตยุโรปและการชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ สร้างความผิดหวังให้กับ
นักวิเคราะห์ โดยส่งออกขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2.7 ในขณะที่การนำเข้าหดตัวอย่างน่า
เป็นห่วงที่ร้อยละ 2.7 และสินค้านำเข้าจากอาเซียนและไทยกลับหดตัวมากขึ้นที่ร้อยละ
9.4 และ 10.4 ตามลำดับ  บ่งชี้ว่าตัวเลขการส่งออกจากไทยไปจีนนั้น น่าจะหดตัวต่อ
เนื่องในเดือนสิงหาคม ทำให้การส่งออกไทยโดยรวมมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงไปอีก
ระยะหนึ่ง
ถึงแม้ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคมนั้นจะยังไม่เปิดเผยจนกระทั่งปลาย
เดือนนี้ แต่ตัวเลขการส่งออกไทยในเดือนกรกฎาคมลดลงถึง 8.9 พันล้านบาทหรือลด
ลงร้อยละ 1.4 สาเหตุมาจากตลาดส่งออกหลักอย่าง สหภาพยุโรปหดตัวร้อยละ 19.2
จีน ร้อยละ -4.5 อาเซียนเดิม (สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน)
ร้อยละ -9.1 ทำให้การส่งออกไปกลุ่มอาเซียนหดตัวครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี แสดงให้
เห็นว่า พิษวิกฤตยุโรปส่งผลต่อเศรษฐกิจคู่ค้าของไทยในภูมิภาคมากขึ้น นอกจากนี้ยัง
ส่งผลกระทบเชิงลึกต่อเศรษฐกิจไทย เช่น ยางพาราที่ราคาลดลงต่อเนื่อง ที่แม้ภาครัฐ
เข้าแทรกแซงกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ก็ยังเอาไม่อยู่ และมีแนวโน้มลดลงต่อไปอีก
            ในทางตรงข้าม การส่งออกไป กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม (CLMV) กลับยัง
มีทิศทางสดใส ในเดือนกรกฎาคมมีมูลค่าส่งออกถึง 48,862 ล้านบาท ขยายตัวร้อน
แรงถึงร้อยละ 28.4 โดยช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่าส่งออก 314,614 ล้านบาท ขยาย
ตัวร้อยละ 18.6 สวนทางกับการส่งออกไปตลาดหลักอื่นๆ ทำให้ส่งออกไป CLMV อาจ
เป็นกลุ่มตลาดเดียวที่ขยายตัวได้ในปีนี้
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์ และ TMB
Analytics
            ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ยังพบอีกว่าส่งออกของ SMEs ก็ได้รับผลกระ
ทบเช่นเดียวกัน โดยครึ่งปีแรก SMEs มีมูลค่าส่งออก 627,286 ล้านบาท ลดลงกว่า
16,254 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.5 นำโดยตลาดยุโรปที่ลดลงถึงร้อยละ 10.9  ญี่ปุ่นที่
ร้อยละ -8.7  สหรัฐที่ร้อยละ -2.2 ขณะที่ตลาดอาเซียนเดิมขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ
0.5 เท่านั้น ส่วนการส่งออกไป CLMV มีมูลค่า 58,947 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,789 ล้าน
บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 แสดงให้เห็นว่า CLMV น่าจะเป็นตลาดที่ยังพึ่งพาได้ ซึ่ง
SMEs ควรให้ความสำคัญกับตลาดนี้เพิ่มขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากตลาดหลัก
สินค้าส่งออกของ SMEs ไปตลาด CLMV ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนและสินค้าอุปโภค
บริโภค เช่น น้ำตาล เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์เหล็ก ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้
ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค สาเหตุที่สินค้ากลุ่มนี้ยังส่งออกได้ดี เพราะประเทศ
CLMV ยังคงลงทุนภายในประเทศอีกมาก จึงจำเป็นต้องใช้สินค้าทุนในระยะนี้ค่อนข้าง
สูง ขณะที่ภาคการผลิตภายในประเทศยังมีคุณภาพและปริมาณไม่เพียงพอกับความ
ต้องการในประเทศ จึงต้องนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคเข้ามาชดเชย  
            แนวโน้มการนำเข้าของ CLMV ดังกล่าวจะยังขยายตัวต่อเนื่อง เพราะความ
จำเป็นของการใช้สินค้าทุนเพื่อการพัฒนาประเทศและตอบสนองการบริโภคในประเทศ
ที่กำลังซื้อของผู้บริโภคกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของ SMEs
ที่จะหันมาค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากตลาดหลักที่หดตัว
ในปัจจุบัน และปูทางสำหรับการค้าขายที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดย SMEs ที่จะได้
ประโยชน์ คือ SMEs กลุ่มค้าชายแดน ธุรกิจที่มีการค้าและความสัมพันธ์กับประเทศ
เหล่านี้ และ SMEs ที่อยู่ในเครือข่ายของธุรกิจรายใหญ่ที่เข้าไปลงทุนในประเทศ CLMV
สินค้าที่น่าจะได้ประโยชน์ เช่น กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปโภคบริโภค
เป็นต้น  
ที่มา กระทรวงพาณิชย์, สสว.และ TMB
Analytics 
            หากมองในระยะยาว ผลประโยชน์จากการแสวงหาช่องทางส่งออกไป CLMV
ทดแทนตลาดหลัก มีความคุ้มค่า เพราะเมื่อ AEC เปิดอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 การ
เชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งทั้งทางถนนสาย R1, R2 และ R3 ระหว่าง CLMV จีน โดย
มี
ไทยเป็นศูนย์กลาง รวมถึงการพัฒนาท่าเรือทวายและการเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบัง
เชื่อว่าจะเกิดการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอีกมาก เมื่อถึงวันนั้น ตลาด CLMV อาจ
กลายเป็นตลาดหลักของ SMEs และผู้ส่งออกไทยแทนตลาดยุโรปที่อาจจะยังสลบไม่
ฟื้นก็เป็นได้


ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวหรือภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย.....
(รหัสพิเศษ678) น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews
และชมรมนักข่าว2000, และ ศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก
ศูนย์รวมพี่น้องสื่อมวลชนหลายสถาบัน (รายงานข่าว)
ข่าวนี้จะนำไปลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ของเราอีกครั้ง
นี่คือตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีข่าวอื่นๆอีกมากมาย
.....................................................................................
บ.ก.เกรียงไกร   พรเทพ (สื่อมวลชนหลายสถาบัน)
(ควบคุมคอลัมน์) โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย (นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยฯ/ข่าวตำรวจ
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")ประสานงาน
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) ภาพ / คอมพิวเตอร์
นิรัญ(นามปากกา รัตน์นิรมล) ข่าวการเมือง
นามปากกา NIRUNMUK (pen name) COLUMNIST
ทนายสุรินทร์(นามปากกา ทนายอัจฉริยะ)ที่ปรึกษากฎหมาย
 อีเมล์ของเราคือ.......
diplomanews@gmail.com
dpm2554@gmail.com และ
นอกจากข่าวนี้แล้วยังมีข่าวย้อนหลังให้ดูอีกมากมาย
ขอให้คลิกไล่ดูอาจจะอยู่ทางขวามือหรืออาจจะอยู่ทางซ้ายมือ
เรามีคอลัมน์ในสื่อต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก
และเรายังมีพันธมิตรที่เป็นสื่อมวลชนอีกหลายร้อยคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น