จเรตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ภูเก็ต(ดีโพลมา1010)
จเรตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ภูเก็ต ทำความเข้าใจโครงการ “ตำรวจสีขาว”
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จเรตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ภูเก็ต ตรวจติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ พร้อมประชุมซักซ้อมความเข้าใจร่วมหัวหน้าสถานี และตัวแทนภาคประชาชน เพื่อดำเนินโครงการตำรวจสีขาว ในการคัดเลือกตำรวจที่มีคุณธรรม จริยธรรมดีเด่น
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจร่วมกับผู้กำกับการสถานีตำรวจ และ กต.ตร.ทุกสถานี และรวมถึงตัวแทนภาคประชาชน เรื่องโครงการตำรวจสีขาว เพื่อคัดเลือกตำรวจที่มีคุณธรรม จริยธรรม ดีเยี่ยมดีเด่น ของแต่ละสถานี และเพื่อรับทราบถึงผลการปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยมี พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการทุกสถานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนร่วมให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.อัมรินทร์ กล่าวถึงการเดินทางมาตรวจราชการในวันนี้ว่า สำหรับจเรตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่ในการคุมความประพฤติของตำรวจทั้งประเทศ และขณะนี้ ทางจเรตำรวจก็มีกำหนดออกตรวจราชการทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งมี 1,460 สถานีตำรวจ และเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนก็ได้ไปตรวจเยี่ยมที่สถานีตำรวจภูธรภาค 8 และวันนี้มาที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อที่จะมาดูว่าตำรวจที่ภูเก็ตได้ปฏิบัติหน้าที่ที่จะตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
“ทางจเรพยายามที่จะดูการร้องเรียนของตำรวจทั้งประเทศ รวมทั้งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตด้วย การร้องเรียนก็จะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรก เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเบาะแส กลุ่มที่ 2 เกี่ยวกับความประพฤติของตำรวจด้านคุณธรรม จริยธรรม และกลุ่มที่ 3 เกี่ยวกับเรื่องที่ตำรวจทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นการร้องเรียนที่จะต้องมีการตรวจสอบทั่วประเทศ”
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้น มีข้อมูลอยู่บางส่วน เราก็ต้องตรวจสอบว่ามีมูลหรือไม่มีมูล ก็ต้องพิจารณากันตามข้อเท็จจริง เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ แต่ก็เป็นที่น่ายินดี ข้อมูลที่ได้มาจากทางส่วนกลาง และทางจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา มีลักษณะภาวะผู้นำ ก็สามารถที่จะทำให้ตำรวจของจังหวัดภูเก็ตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้ได้มีการกวดขันเป็นพิเศษทุกวัน ทำให้ทางผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และหัวหน้าสถานีตำรวจ มีการตื่นตัวในการทำงาน ก็กำลังขับเคลื่อนไปด้วยดี แต่ว่าในส่วนของจเรตำรวจ ก็ต้องปฏิบัติคู่ขนานกันไป โดยเน้นดูในเรื่องของการคุมความประพฤติด้วย ซึ่งมีก็ข่าวว่า ตำรวจมีความประพฤติผิด โดยการผันตัวไปค้ายาบ้าซะเอง ก็ทำให้สะเทือนไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งขณะนี้ เราจะเห็นได้ว่าประชาชนให้ความสนใจตำรวจมากเป็นพิเศษ คือมีเว็บไซต์แจ้งเบาะแสพฤติกรรมตำรวจเข้ามามาก ทุกวันนี้ทางตำรวจก็ได้ดำเนินการอยู่แล้ว เราก็สามารถตอบปัญหาสังคมได้
พล.ต.อ.อัมรินทร์ กล่าวอีกว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้กวดขันระดับบนส่วนหนึ่งแล้ว ทางจเรตำรวจก็มาตรวจทางด้านความประพฤติ และที่สำคัญปีหน้าจเรตำรวจเน้นที่จะปลุกจิตสำนึกในการบริการรับใช้ประชาชน ปลุกจิตสำนึกให้ตำรวจเป็นตำรวจสีขาว ตำรวจมีอุดมการณ์ด้วยตัวตำรวจเอง ไม่ใช่ดีมีวินัย เป็นคนดีเพราะถูกผู้บังคับบัญชาบังคับ แต่พยายามที่จะให้ตำรวจนั้นได้มีจิตใจทำงานรับใช้ประชาชนด้วยตัวของตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้บังคับบัญชามาบังคับ อันนี้เป็นจุดที่เน้นเป็นพิเศษ และในส่วนของภาค 8 การที่มาเน้นจังหวัดภูเก็ตนั้นก็เพราะว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นรายได้ของประเทศ ถ้าตำรวจมีความเข้มแข็งมีคุณธรรม จริยธรรม ดูแลนักท่องเที่ยวดี ก็จะช่วยประเทศชาติในภาพรวมได้
วันนี้ตนก็จะได้ประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจผู้กำกับ กต.ตร. และผู้แทนภาคประชาชน ในการที่จะคัดตำรวจที่มีคุณธรรม มีความประพฤติดีเยี่ยมดีเด่น หรือที่เรียกว่าเป็นตำรวจสีขาว ซึ่งเป้าหมายในปีนี้อย่างน้อยที่สุดเราจะต้องคัดตำรวจสีขาวให้ได้โรงพักละประมาณ 10 คน ตรงส่วนนี้ก็ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตำรวจโรงพักนั้น ว่าใครสีขาว ใครดีหรือไม่ดี เพื่อต้องการให้ได้ตัวจริงเสียงจริง และปีนี้ก็จะให้ภาคประชาชนเข้ามาช่วยในการคัดด้วย
ทั้งนี้ การจัดให้มีโครงการดังกล่าว ก็เพื่อกระตุ้นให้ตำรวจที่ได้รับรางวัลมีความภาคภูมิใจที่จะเป็นตำรวจที่ดี ซึ่งเราก็จะพยายามต่อยอดในทุกๆ ปี กล่าวคือ ถ้าสมมติว่าในปี 2556 เราสามารถกระตุ้นตำรวจสีขาวได้ 10 คน ในปีต่อๆ ไป เราก็จะเพิ่มอีก 10 คน ก็จะพยายามเพิ่มในทุกๆ ปี ในที่สุด วัฒนธรรมองค์กรของตำรวจก็จะเปลี่ยนไปเป็นตำรวจที่ดี และตำรวจที่ไม่ดีก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในองค์กรนี้ได้ คือเป็นความตั้งใจที่ตนตั้งใจทำจริงๆ ก็คิดว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเดินมาถูกทางแล้ว ก็น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจร่วมกับผู้กำกับการสถานีตำรวจ และ กต.ตร.ทุกสถานี และรวมถึงตัวแทนภาคประชาชน เรื่องโครงการตำรวจสีขาว เพื่อคัดเลือกตำรวจที่มีคุณธรรม จริยธรรม ดีเยี่ยมดีเด่น ของแต่ละสถานี และเพื่อรับทราบถึงผลการปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยมี พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้บังคับการ ผู้กำกับการทุกสถานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนร่วมให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.อัมรินทร์ กล่าวถึงการเดินทางมาตรวจราชการในวันนี้ว่า สำหรับจเรตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่ในการคุมความประพฤติของตำรวจทั้งประเทศ และขณะนี้ ทางจเรตำรวจก็มีกำหนดออกตรวจราชการทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งมี 1,460 สถานีตำรวจ และเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนก็ได้ไปตรวจเยี่ยมที่สถานีตำรวจภูธรภาค 8 และวันนี้มาที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อที่จะมาดูว่าตำรวจที่ภูเก็ตได้ปฏิบัติหน้าที่ที่จะตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
“ทางจเรพยายามที่จะดูการร้องเรียนของตำรวจทั้งประเทศ รวมทั้งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตด้วย การร้องเรียนก็จะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรก เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเบาะแส กลุ่มที่ 2 เกี่ยวกับความประพฤติของตำรวจด้านคุณธรรม จริยธรรม และกลุ่มที่ 3 เกี่ยวกับเรื่องที่ตำรวจทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นการร้องเรียนที่จะต้องมีการตรวจสอบทั่วประเทศ”
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้น มีข้อมูลอยู่บางส่วน เราก็ต้องตรวจสอบว่ามีมูลหรือไม่มีมูล ก็ต้องพิจารณากันตามข้อเท็จจริง เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ แต่ก็เป็นที่น่ายินดี ข้อมูลที่ได้มาจากทางส่วนกลาง และทางจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา มีลักษณะภาวะผู้นำ ก็สามารถที่จะทำให้ตำรวจของจังหวัดภูเก็ตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้ได้มีการกวดขันเป็นพิเศษทุกวัน ทำให้ทางผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และหัวหน้าสถานีตำรวจ มีการตื่นตัวในการทำงาน ก็กำลังขับเคลื่อนไปด้วยดี แต่ว่าในส่วนของจเรตำรวจ ก็ต้องปฏิบัติคู่ขนานกันไป โดยเน้นดูในเรื่องของการคุมความประพฤติด้วย ซึ่งมีก็ข่าวว่า ตำรวจมีความประพฤติผิด โดยการผันตัวไปค้ายาบ้าซะเอง ก็ทำให้สะเทือนไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งขณะนี้ เราจะเห็นได้ว่าประชาชนให้ความสนใจตำรวจมากเป็นพิเศษ คือมีเว็บไซต์แจ้งเบาะแสพฤติกรรมตำรวจเข้ามามาก ทุกวันนี้ทางตำรวจก็ได้ดำเนินการอยู่แล้ว เราก็สามารถตอบปัญหาสังคมได้
พล.ต.อ.อัมรินทร์ กล่าวอีกว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้กวดขันระดับบนส่วนหนึ่งแล้ว ทางจเรตำรวจก็มาตรวจทางด้านความประพฤติ และที่สำคัญปีหน้าจเรตำรวจเน้นที่จะปลุกจิตสำนึกในการบริการรับใช้ประชาชน ปลุกจิตสำนึกให้ตำรวจเป็นตำรวจสีขาว ตำรวจมีอุดมการณ์ด้วยตัวตำรวจเอง ไม่ใช่ดีมีวินัย เป็นคนดีเพราะถูกผู้บังคับบัญชาบังคับ แต่พยายามที่จะให้ตำรวจนั้นได้มีจิตใจทำงานรับใช้ประชาชนด้วยตัวของตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้บังคับบัญชามาบังคับ อันนี้เป็นจุดที่เน้นเป็นพิเศษ และในส่วนของภาค 8 การที่มาเน้นจังหวัดภูเก็ตนั้นก็เพราะว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นรายได้ของประเทศ ถ้าตำรวจมีความเข้มแข็งมีคุณธรรม จริยธรรม ดูแลนักท่องเที่ยวดี ก็จะช่วยประเทศชาติในภาพรวมได้
วันนี้ตนก็จะได้ประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจผู้กำกับ กต.ตร. และผู้แทนภาคประชาชน ในการที่จะคัดตำรวจที่มีคุณธรรม มีความประพฤติดีเยี่ยมดีเด่น หรือที่เรียกว่าเป็นตำรวจสีขาว ซึ่งเป้าหมายในปีนี้อย่างน้อยที่สุดเราจะต้องคัดตำรวจสีขาวให้ได้โรงพักละประมาณ 10 คน ตรงส่วนนี้ก็ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตำรวจโรงพักนั้น ว่าใครสีขาว ใครดีหรือไม่ดี เพื่อต้องการให้ได้ตัวจริงเสียงจริง และปีนี้ก็จะให้ภาคประชาชนเข้ามาช่วยในการคัดด้วย
ทั้งนี้ การจัดให้มีโครงการดังกล่าว ก็เพื่อกระตุ้นให้ตำรวจที่ได้รับรางวัลมีความภาคภูมิใจที่จะเป็นตำรวจที่ดี ซึ่งเราก็จะพยายามต่อยอดในทุกๆ ปี กล่าวคือ ถ้าสมมติว่าในปี 2556 เราสามารถกระตุ้นตำรวจสีขาวได้ 10 คน ในปีต่อๆ ไป เราก็จะเพิ่มอีก 10 คน ก็จะพยายามเพิ่มในทุกๆ ปี ในที่สุด วัฒนธรรมองค์กรของตำรวจก็จะเปลี่ยนไปเป็นตำรวจที่ดี และตำรวจที่ไม่ดีก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในองค์กรนี้ได้ คือเป็นความตั้งใจที่ตนตั้งใจทำจริงๆ ก็คิดว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเดินมาถูกทางแล้ว ก็น่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้
http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000021315
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย..... (ดีโพลมา1010) จากทีมงาน
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews และ dmnnews
และชมรมนักข่าว2000, และ ศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม (ร่วมกันรายงานข่าว)
ข่าวนี้จะนำไปลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ของเราอีกครั้ง
นี่คือตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีข่าวอื่นๆอีกมากมาย
.....................................................................................
โดย...บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ (สื่อมวลชนหลายสถาบัน)
เจ้าของ และ บรรณาธิการ น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์
(ควบคุมคอลัมน์) โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”)ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")ประสานงาน
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) ภาพ / คอมพิวเตอร์
กิตกวี (นามปากกา “clover gens”)ข่าวทั่วไปและงานแถลงข่าว
Sujittra srita ดูแลข่าวบันเทิงและข่าวท่องเที่ยว
อีเมล์...diplomanews@gmail.com , dpm2554@gmail.com
นอกจากข่าวนี้แล้วยังมีข่าวย้อนหลังให้ดูอีกมากมาย
ขอให้คลิกไล่ดูอาจจะอยู่ทางขวามือหรืออาจจะอยู่ทางซ้ายมือ
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือและพันธมิตรอีกนับสิบๆแว๊บไซ้ท์
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า
“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือพิมพ์ค้นหาคำว่า “diplomanews”
และเรายังมีพันธมิตรที่เป็นสื่อมวลชนอีกหลายร้อยคน
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น