ฝุ่นตลบแต่งตั้ง “นายพลสีกากี”(ดีโพลมา1112)
ฝุ่นตลบแต่งตั้ง “นายพลสีกากี”(ดีโพลมา1112)
ฝุ่นตลบแต่งตั้ง “นายพลสีกากี” “การเมือง-อดุลย์” ขัดแย้งหนัก
ท่าทางต้องลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่มีวาระสำคัญการแต่งตั้งนายพลนอกวาระประจำปี ระดับ “ผู้บังคับการ(ผบก.)-รองผู้บัญชาการ(รองผบช.)” ทดแทนผู้ที่ลาออกและเสียชีวิต
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000042177
ที่กำหนดใหม่ไว้ในวันอังคารที่ 9 เม.ย.2556 เวลา 13.00 น. หลังจากโดนโรคเลื่อนเล่นงานอย่างกะทันหันจากเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะในแวดวงสีกากีอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย
เหตุและผลในการเลื่อนประชุม ก.ตร.ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งให้ กรรมการ ก.ตร.ทราบ ว่า มาจาก“สารวัตรเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมตามวันเวลาดังกล่าวได้ จึงต้องเลื่อนออกไป ซึ่งเดิมกำหนดคร่าวๆจะเป็นช่วงหลังสงกรานต์ วันที่ 17 เม.ย. แต่สุดท้ายก็ขยับขึ้นมาเป็นวันที่ 9 เม.ย.นี้
ทั้งๆที่บอร์ดกลั่นกรอง ก.ตร. ที่มีนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เป็นประธาน ได้คัดเลือกผู้เข้าดำรงตำแหน่งที่ว่างเรียบร้อย พล.ต.ต.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ นรป. (สบ 7) ขึ้นเป็น นรป. (สบ 8) โยกพล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ. เป็น ผบช.สตส. สลับ พล.ต.ท.สุชีพ หนูนาง ผบช.สตส. เป็น ผบช.สกบ. พล.ต.ต.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผบก.กองตรวจสอบภายใน 2 ขึ้น รองจเรตำรวจ (สบ 7) พ.ต.อ.อนุศักดิ์ โกมลศาสตร์ รอง ผบก.กองสวัสดิการ เป็น ผบก.ตส.2 พ.ต.อ.พรวิสุทธิ์ งามปัญญา รรท.ผบก.กองบินตำรวจ เป็น ผบก.กองบินตำรวจ
พล.ต.ต.เทพ อมรโสภิต ผบก.สอ.ตชด. ขึ้นเป็น รอง ผบช.ตชด. พ.ต.อ.อำนวย พวกสนิท รอง ผบก.ตชด.ภ.4 ขึ้นเป็น ผบก.สอ.ตชด. พ.ต.อ.ทรงยศ เดชจบ รอง ผบก.ตชด.ภ.3 เป็น ผบก.ประจำ ตชด. พ.ต.อ.ประกิจฐ์ ศรียิ่งยง รอง ผบก.ภ.จว.ระนอง เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเดินเรือ พ.ต.อ.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน รอง ผบก.สส.ศชต. ขึ้นเป็น ผบก.ศฝร.ศชต.
ว่ากันว่า แม้เบื้องหน้าต่างยืนยันเหตุผลการเลื่อนประชุม ก.ตร. มาจาก”เหลิม”ติดภารกิจ แต่เบื้องลึกๆแล้ว ในแวดวงสีกากีต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเกิดจากผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจไม่ลงตัว มีการวิ่งเต้น ประลองพลังกันชนิดฝุ่นตลบ จน “บิ๊กอู๋”พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผู้ที่ต้องเสนอบัญชีแต่งตั้งเข้าวงประชุม ก.ตร.พิจารณา ต้องนั่งกุมขมับ
หลังจากพล.ต.อ.อดุย์ แจ้งไปยังคนดูไบว่าในการแต่งตั้งนอกวาระครั้งนี้ จะขอแต่งตั้งระดับ “ผบช.” 1 ตำแหน่ง ตามสัญญาใจจากเพื่อนๆนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.)รุ่น 29 ที่มีการตกลงกันไว้ว่า พล.ต.ท.พจน์ ไทยกล้า จเรตำรวจ(สบ.8) เทียบเท่า ผู้บัญชาการ เตรียมยื่นใบลาออกจากราชการ แม้จะเหลืออายุราชการไม่กี่เดือนก็จะเกษียณ 30 ก.ย.2556 เพื่อเปิดโอกาสให้พล.ต.อ.อดุลย์ ใช้โควต้ารุ่น 29 ดันเพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ต.โกศล พัวเวส รองผบช.ภ.2 ติดยศ พล.ต.ท. อีกหนึ่งคน
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องที่พล.ต.อ.อดุลย์แจ้งให้คนดูไบทราบไว้ตั้งแต่หลลายเดือนก่อน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับแบบไม่มีปัญหาใด แต่พอถึงวันจะแต่งตั้งจริงๆ กลับมีการส่งสัญญาณว่า ไหนๆก็จะแต่งตั้งระดับผบช.แล้ว ก็ให้โยกสลับผบช.ในตำแหน่งอื่นๆในคราวเดียวกันไปเลย ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์พยายามต่อรองไม่ต้องการขยับล็อตใหญ่ เพราะเป็นการแต่งตั้งกลางปี หากขยับเยอะจะทำให้เกิดการกระเพื่อม การทำงานไม่ต่อเนื่อง
ทว่า สิ่งที่พล.ต.อ.อดุลย์ต้องการจะตรงกันข้ามกับฝ่ายการเมือง เพราะมีการวางตัวโยกย้ายกันขนานใหญ่เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่ผลงานดูแลเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ไม่เข้าตา จะถูกโยกไปเป็น ผบช.ภ.1 สลับพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ซึ่งยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีไว้วางใจไปเป็น ผบช.สตม. ดันพล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณชื่นชอบ ขึ้นเหนือไปเป็น ผบช.ภ.5 ดูแลปัญหาการปราบปรามยาเสพติด
สลับให้พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 สายพ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาอยู่ใต้เป็น ผบช.ภ.9 เพื่อมาดูแลเรื่องน้ำมันเถื่อนและของผิดกฎหมาย แล้วให้พล.ต.ท.พิสิทธิ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบช.ภ.9 เพื่อนร่วมรุ่นพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 หลานเขยคุณหญิงพจมาน หวนกลับมาเป็น ผบช.น.
กระดานการแต่งตั้งแบบเล็กๆของพล.ต.อ.อดุลย์ที่วางไว้ในวันที๋ 4 เม.ย.เลยต้องล้มกระดานไป
อีกชนวนหนึ่งที่ว่ากันว่าทำให้การประชุม ก.ตร.ต้องโดนโรคเลื่อนแบบฉุกเฉิน คือตำแหน่ง “ผู้บังคับการตำรวจน้ำ” ที่มีพล.ต.ต.บุญสืบ ไพร์เถื่อน เพื่อนร่วมรุ่น นรต.31ของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. นั่งกุมบังเหียนอยู่ เพราะฝ่ายการเมืองไม่พอใจผลการปราบปรามปัญหาน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ จนถึงขนาดต้องมีการสั่งให้พล.ต.อ.อดุลย์เปลี่ยนชุด ศปรน.(ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน)ใหม่ ให้พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. คนที่พ.ต.ท.ทักษิณไว้ใจมาคุม
แต่การเปลี่ยนตัวพล.ต.ต.บุญสืบก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นเป็นแม่ทัพสอบสวนกลางอยู่ ซึ่งตามพรบ.ตำรวจฉบับใหม่ หากจะโยกย้ายระดับ ผบก. ไปอยู่ตำแหน่งใดก็ต้องผ่านการเห็นชอบจากบอร์ด บช.ก่อน ซึ่งประธานบอร์ด บช.ก็คือ ผบช.นั่นเอง
เมื่อหนทางการเปลี่ยนตัวผู้การฯตำรวจน้ำสะดุด แผนการเตะตัดขาเลยออกมาเรื่อยๆ และเป็นขบวนการ มีการใช้สื่อโจมตีปัญหาต่างๆในการทำงานด้านการปราบปรามน้ำมันเถื่อนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเปลี่ยนตัว และอีกทางหนึ่งก็มีความพยายามยื่นเงื่อนไขต่อรองที่จะผลักดันพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. และจะตั้งพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.31 ที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ไว้ใจให้ขึ้นมาทำหน้าที่ “รักษาการผบช.ก.”แทน
อย่างไรก็ตาม หากหนทางนี้สามารถเจรจาตกลงกันได้ การประชุม ก.ตร.ที่กำหนดไว้ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ก็อาจต้องเลื่อนออกไปอีกครั้ง เพราะตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่จะดันพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์นั้น เป็นตำแหน่งเปิดใหม่ ที่เพิ่งผ่านวงประชุม ก.ตร.ไป แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ซึ่งต้องให้เวลา ก.ต.ช.ประชุมรับรองตำแหน่งก่อน
ฉะนั้นก็เหมือนอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่เริ่มต้น การแต่งตั้งนายพลนอกวาระครั้งนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ การประชุม ก.ตร. ที่เคาะไว้ในช่วงบ่ายๆวันที่ 9 เม.ย.นี้ อาจจะเกิดขึ้นหรือโดนโรคเลื่อนซัดกระหน่ำได้อีก
หากผลประโยชน์แต่ละฝ่ายยังไม่ลงตัว.
ที่กำหนดใหม่ไว้ในวันอังคารที่ 9 เม.ย.2556 เวลา 13.00 น. หลังจากโดนโรคเลื่อนเล่นงานอย่างกะทันหันจากเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะในแวดวงสีกากีอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย
เหตุและผลในการเลื่อนประชุม ก.ตร.ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งให้ กรรมการ ก.ตร.ทราบ ว่า มาจาก“สารวัตรเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมตามวันเวลาดังกล่าวได้ จึงต้องเลื่อนออกไป ซึ่งเดิมกำหนดคร่าวๆจะเป็นช่วงหลังสงกรานต์ วันที่ 17 เม.ย. แต่สุดท้ายก็ขยับขึ้นมาเป็นวันที่ 9 เม.ย.นี้
ทั้งๆที่บอร์ดกลั่นกรอง ก.ตร. ที่มีนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) เป็นประธาน ได้คัดเลือกผู้เข้าดำรงตำแหน่งที่ว่างเรียบร้อย พล.ต.ต.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ นรป. (สบ 7) ขึ้นเป็น นรป. (สบ 8) โยกพล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ. เป็น ผบช.สตส. สลับ พล.ต.ท.สุชีพ หนูนาง ผบช.สตส. เป็น ผบช.สกบ. พล.ต.ต.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผบก.กองตรวจสอบภายใน 2 ขึ้น รองจเรตำรวจ (สบ 7) พ.ต.อ.อนุศักดิ์ โกมลศาสตร์ รอง ผบก.กองสวัสดิการ เป็น ผบก.ตส.2 พ.ต.อ.พรวิสุทธิ์ งามปัญญา รรท.ผบก.กองบินตำรวจ เป็น ผบก.กองบินตำรวจ
พล.ต.ต.เทพ อมรโสภิต ผบก.สอ.ตชด. ขึ้นเป็น รอง ผบช.ตชด. พ.ต.อ.อำนวย พวกสนิท รอง ผบก.ตชด.ภ.4 ขึ้นเป็น ผบก.สอ.ตชด. พ.ต.อ.ทรงยศ เดชจบ รอง ผบก.ตชด.ภ.3 เป็น ผบก.ประจำ ตชด. พ.ต.อ.ประกิจฐ์ ศรียิ่งยง รอง ผบก.ภ.จว.ระนอง เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเดินเรือ พ.ต.อ.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน รอง ผบก.สส.ศชต. ขึ้นเป็น ผบก.ศฝร.ศชต.
ว่ากันว่า แม้เบื้องหน้าต่างยืนยันเหตุผลการเลื่อนประชุม ก.ตร. มาจาก”เหลิม”ติดภารกิจ แต่เบื้องลึกๆแล้ว ในแวดวงสีกากีต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเกิดจากผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจไม่ลงตัว มีการวิ่งเต้น ประลองพลังกันชนิดฝุ่นตลบ จน “บิ๊กอู๋”พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผู้ที่ต้องเสนอบัญชีแต่งตั้งเข้าวงประชุม ก.ตร.พิจารณา ต้องนั่งกุมขมับ
หลังจากพล.ต.อ.อดุย์ แจ้งไปยังคนดูไบว่าในการแต่งตั้งนอกวาระครั้งนี้ จะขอแต่งตั้งระดับ “ผบช.” 1 ตำแหน่ง ตามสัญญาใจจากเพื่อนๆนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.)รุ่น 29 ที่มีการตกลงกันไว้ว่า พล.ต.ท.พจน์ ไทยกล้า จเรตำรวจ(สบ.8) เทียบเท่า ผู้บัญชาการ เตรียมยื่นใบลาออกจากราชการ แม้จะเหลืออายุราชการไม่กี่เดือนก็จะเกษียณ 30 ก.ย.2556 เพื่อเปิดโอกาสให้พล.ต.อ.อดุลย์ ใช้โควต้ารุ่น 29 ดันเพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ต.โกศล พัวเวส รองผบช.ภ.2 ติดยศ พล.ต.ท. อีกหนึ่งคน
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องที่พล.ต.อ.อดุลย์แจ้งให้คนดูไบทราบไว้ตั้งแต่หลลายเดือนก่อน ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับแบบไม่มีปัญหาใด แต่พอถึงวันจะแต่งตั้งจริงๆ กลับมีการส่งสัญญาณว่า ไหนๆก็จะแต่งตั้งระดับผบช.แล้ว ก็ให้โยกสลับผบช.ในตำแหน่งอื่นๆในคราวเดียวกันไปเลย ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์พยายามต่อรองไม่ต้องการขยับล็อตใหญ่ เพราะเป็นการแต่งตั้งกลางปี หากขยับเยอะจะทำให้เกิดการกระเพื่อม การทำงานไม่ต่อเนื่อง
ทว่า สิ่งที่พล.ต.อ.อดุลย์ต้องการจะตรงกันข้ามกับฝ่ายการเมือง เพราะมีการวางตัวโยกย้ายกันขนานใหญ่เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่ผลงานดูแลเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ไม่เข้าตา จะถูกโยกไปเป็น ผบช.ภ.1 สลับพล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ซึ่งยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีไว้วางใจไปเป็น ผบช.สตม. ดันพล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณชื่นชอบ ขึ้นเหนือไปเป็น ผบช.ภ.5 ดูแลปัญหาการปราบปรามยาเสพติด
สลับให้พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 สายพ.ต.ท.ทักษิณ ลงมาอยู่ใต้เป็น ผบช.ภ.9 เพื่อมาดูแลเรื่องน้ำมันเถื่อนและของผิดกฎหมาย แล้วให้พล.ต.ท.พิสิทธิ์ พิสุทธิศักดิ์ ผบช.ภ.9 เพื่อนร่วมรุ่นพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 หลานเขยคุณหญิงพจมาน หวนกลับมาเป็น ผบช.น.
กระดานการแต่งตั้งแบบเล็กๆของพล.ต.อ.อดุลย์ที่วางไว้ในวันที๋ 4 เม.ย.เลยต้องล้มกระดานไป
อีกชนวนหนึ่งที่ว่ากันว่าทำให้การประชุม ก.ตร.ต้องโดนโรคเลื่อนแบบฉุกเฉิน คือตำแหน่ง “ผู้บังคับการตำรวจน้ำ” ที่มีพล.ต.ต.บุญสืบ ไพร์เถื่อน เพื่อนร่วมรุ่น นรต.31ของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. นั่งกุมบังเหียนอยู่ เพราะฝ่ายการเมืองไม่พอใจผลการปราบปรามปัญหาน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ จนถึงขนาดต้องมีการสั่งให้พล.ต.อ.อดุลย์เปลี่ยนชุด ศปรน.(ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน)ใหม่ ให้พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. คนที่พ.ต.ท.ทักษิณไว้ใจมาคุม
แต่การเปลี่ยนตัวพล.ต.ต.บุญสืบก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นเป็นแม่ทัพสอบสวนกลางอยู่ ซึ่งตามพรบ.ตำรวจฉบับใหม่ หากจะโยกย้ายระดับ ผบก. ไปอยู่ตำแหน่งใดก็ต้องผ่านการเห็นชอบจากบอร์ด บช.ก่อน ซึ่งประธานบอร์ด บช.ก็คือ ผบช.นั่นเอง
เมื่อหนทางการเปลี่ยนตัวผู้การฯตำรวจน้ำสะดุด แผนการเตะตัดขาเลยออกมาเรื่อยๆ และเป็นขบวนการ มีการใช้สื่อโจมตีปัญหาต่างๆในการทำงานด้านการปราบปรามน้ำมันเถื่อนเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเปลี่ยนตัว และอีกทางหนึ่งก็มีความพยายามยื่นเงื่อนไขต่อรองที่จะผลักดันพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. และจะตั้งพล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.31 ที่พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ไว้ใจให้ขึ้นมาทำหน้าที่ “รักษาการผบช.ก.”แทน
อย่างไรก็ตาม หากหนทางนี้สามารถเจรจาตกลงกันได้ การประชุม ก.ตร.ที่กำหนดไว้ในวันที่ 9 เม.ย.นี้ก็อาจต้องเลื่อนออกไปอีกครั้ง เพราะตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่จะดันพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์นั้น เป็นตำแหน่งเปิดใหม่ ที่เพิ่งผ่านวงประชุม ก.ตร.ไป แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) ซึ่งต้องให้เวลา ก.ต.ช.ประชุมรับรองตำแหน่งก่อน
ฉะนั้นก็เหมือนอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่เริ่มต้น การแต่งตั้งนายพลนอกวาระครั้งนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ การประชุม ก.ตร. ที่เคาะไว้ในช่วงบ่ายๆวันที่ 9 เม.ย.นี้ อาจจะเกิดขึ้นหรือโดนโรคเลื่อนซัดกระหน่ำได้อีก
หากผลประโยชน์แต่ละฝ่ายยังไม่ลงตัว.
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000042177
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย..... (ดีโพลมา1112) จากทีมงาน
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews และ dmnnews
และชมรมนักข่าว2000, และ ศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม (ร่วมกันรายงานข่าว)
ข่าวนี้จะนำไปลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ของเราอีกครั้ง
นี่คือตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีข่าวอื่นๆอีกมากมาย
.....................................................................................
โดย...บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ (สื่อมวลชนหลายสถาบัน)
เจ้าของ และ บรรณาธิการ น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์
(ควบคุมคอลัมน์) โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”)ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")ประสานงาน
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) ภาพ / คอมพิวเตอร์
กิตกวี (นามปากกา “clover gens”)ข่าวทั่วไปและงานแถลงข่าว
Sujittra srita ดูแลข่าวบันเทิงและข่าวท่องเที่ยว
อีเมล์...diplomanews@gmail.com , dpm2554@gmail.com
นอกจากข่าวนี้แล้วยังมีข่าวย้อนหลังให้ดูอีกมากมาย
ขอให้คลิกไล่ดูอาจจะอยู่ทางขวามือหรืออาจจะอยู่ทางซ้ายมือ
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือและพันธมิตรอีกนับสิบๆแว๊บไซ้ท์
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า
“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือพิมพ์ค้นหาคำว่า “diplomanews”
และเรายังมีพันธมิตรที่เป็นสื่อมวลชนอีกหลายร้อยคน
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น