วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

ประวัติวัดป่าสุวรรณหงษ์(ดีโพลมา1128)


วัดป่าสุวรรณหงษ์
มีพระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส (หลวงพ่อเจ้าอาวาส) 
เป็นผู้ปกครองและพัฒนาสร้างสิ่งดี ๆ มากมาย ด้วยความศรัทธาต่อศาสนาอันแรงกล้า
ถึงแม้จะพิการต้องใช้ไม้เท้าพยุงค้ำ แต่ท่านไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค
เพียงเพื่อให้ศาสนาคงอยู่ต่อไป

สำนักสงฆ์สุวรรณหงษ์ หรือ นิยมเรียกกันว่า วัดป่าสุวรรณหงษ์ ได้เริ่มต้น
ขึ้นปีพุทธศักราช 2464 จากเิดิมเป็นเพียงที่พักสงฆ์มีเพียงกุฏิไม้หลังเก่า
เป็นเพิงหลังเล็ก ๆ ศาลาี่ไม่เสร็จสมบูรณ์สำหรับไว้ใช้้ในการปฏิบัติธรรม
หรือ ทำกิจวัตรของสงฆ์เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นสถานที่รกร้างและป่ารก
อยู่บริเวณเชิงเขาจีนแล ด้านหน้าหันไปทางบ้านหนองขาม ตั้งอยู่เลขที่
หมู่ 7 บ้านหนองขาม ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000

จนกระทั่งปีพุทธศักราช 2540 หลวงพ่อวิโรจน์ ได้ตัดสินใจเลือกมาจำ
พรรษาที่สำนักสงฆ์ฺสุวรรณหงษ์ี้ ซึ่งเป็นรุ่นที่ 19 และมีอุบาสิกาเพิ่มอีก
1 ท่าน คือ แม่ชีอำไพ จันทร์ฉาย หรือ แม่ชีติ๊ก ผู้ที่ร่วมบุกเบิกสำนักสงฆ์
แห่งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นองค์เดียว และองค์แรกตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่ริเริ่ม
บูรณะปฏิสังขรณ์ พัฒนาสำนักสงฆ์สุวรรณหงษ์แห่งนี้ และสร้างสิ่งต่าง ๆ
มากมาย
ในวันที่ 2 มิถุนายน 2542 นี้เอง หลวงพ่อวิโรจน์ โอภาโส ( สีบุญเรือง )
ได้รับการแต่งตั้งแต่งตั้ง จากพระสิริวรคุณ เจ้าคณะตำบลเขาพระงาม
ให้รักษาการเจ้าอาวาสรูปแรกของสำนักสงฆ์สุวรรณหงษ์ หรือ วัดป่า์
สุวรรณหงษ์ เพราะความดีของท่าน และความตั้งใจจริงที่จะสร้างสำนักฆ์
แห่งนี้เป็นวัดสมบูรณ์้ให้ได้ จึงได้รับความเมตตาจากพระสิริวรคุณ ทำให้
หลวงพ่อวิโรจน์สามารถพัฒนาบูรณปฏิสังขรณ์วัดให้เจริญรุ่งเรืองอย่างที่
ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อครั้งในอดีตได้อย่างเต็มที่




ต่อมาในปีพุทธศักราชพ.ศ. 2545 ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งได้มาขออนุญาต
หลวงพ่อวิโรจน์มาพำนักปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ชั่วคราวเพิ่มอีก 1 รูป
และได้เห็นจริยาวัตรอันงดงามของหลวงพ่อเจ้าอาวาส จึงขออนุญาตมา
พำนักบ่อยครั้ง จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2546 พระภิกษุรูปนั้นได้ขออนุญาต
มาอยู่เป็นพระลูกวัด และได้ขอคำปรึกษาจากหลวงพ่อวิโรจน์ ที่จะหาทาง
ให้สำนักสงฆสุวรรณหงษ์เป็นวัดให้ได้ หลวงพ่อวิโรจน์จึงได้มอบหมายให้
พระลูกวัดประสานงานไปยังมณฑลทหารบกที่ 13 ( ขณะนั้นพลตรีพิศาล
รัตนโสภณ เป็นผู้บัญชาการ ) และได้รับหนังสือตอบกลับมาว่า “ทางวัดยัง
ไม่ได้ขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องให้ดำเนินการขอเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยผ่านทางใดทางหนึ่ง” หลวงพ่อวิโรจน์จึงดำเนินการให้ถูกต้องตาม
ระเบียบของทางราชการ


เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2546 หลวงพ่อวิโรจน์ โอภาโส ได้รับความเมตตา
จากพระเดชพระคุณพระเทพวราลังการ (เคน สุภโร ปธ. ๗) ที่ปรึกษา
เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าอาวาสวัดประชาบำรุง (ธรรมยุต)
ให้ดำรงตำแหน่งที่ " พระครูปลัดเป็นพระครูฐานานุกรมของท่าน "
ซึ่งเป็นเกียรติประวัติในความเมตตาของพระเทพวราลังการอย่างมาก



ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2547 พระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส จึงได้อนุญาต
ให้พระลูกวัด ดำเนินการขออนุญาตใช้ที่ดินจากผู้เกี่ยวข้อง โดยยื่น
หนังสือผ่านสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี ลงที่ วธ 02571/141
ลงคำสั่งโดย นายคำวน พรรคพวก หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด
ลพบุรีพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณา 1 ชุด ซึ่งทางสำนักสงฆ์นำส่ง
มณฑลทหารบกที่ 13

ในวันที่ 4 มีนาคม 2547 ทางศูนย์สงครามพิเศษ ได้ส่งสิบเอกพงษ์ศักดิ์
มาขอทราบข้อมูลต่าง ๆ ของวัดป่าสุวรรณหงษ์ และจำนวนที่ดินที่ต้องการ
เพื่อที่จะขออนุญาตใช้สร้างวัดในวันที่ 23 พฤษภาคม 2547 ผู้บัญชาการ
ศูนย์สงครามพิเศษ พลตรีวีรศักดิ์ ปานเจริญ (ยศในขณะนั้น) มีคำสั่งให้
สิบเอกสมพงษ์ แย้มเกตุ มาเก็บข้อมูลของวัดและบันทึกภาพพระภิกษุ
และอุบาสิกา และฆราวาสที่อยู่ในความดูแลของพระครูปลัดวิโรจน์
โอภาโส ในเดือนเมษายน 2547 ได้เกิดภัยแล้งขึ้น คุณศรันย์ กระรีวัต
ได้ขอน้ำอุปโภค บริโภค จากคุณลุง ซึ่งเป็นนายทหารรบพิเศษซึ่งการ
ร้องขอไม่เป็นไปตามระเบียบของกองทัพบก ร้อยเอกอุตสาหะ แก้วกริยา
ได้แนะนำให้ทำหนังสือถึงพันเอกเผ่าพงษ์ พงษ์เหล่าขำ ผู้บังคับบัญชา
การกรมรบพิเศษที่ 2 พระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส จึงมอบหมายให้
พระลูกวัด ทำหนังสือต่อไป ซึ่งที่พักสงฆ์ได้รับการสนับสนุนเรื่องน้ำ
มาเป็นอย่างดีตลอด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2547 แม่ชีอำไพ จันทร์ฉาย ผู้ร่วมพัฒนาวัด
ได้ถึงแก่กรรม ณ โรงพยาบาลสมุทรปราการ ด้วยโรคมะเร็งหลังจากที่
ทนทุกข์ทรมานหลายปี ทำให้ขาดบุคลากรสำคัญของวัดป่าสุวรรณหงษ์


ประมาณเดือนมิถุนายน 2548 พระครูปลัดวิโรจน์ ได้ทำหนังสือถวายฎีกา
ต่อกองราชเลขาธิการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอความ
อุปถัมภ์ในเรื่องที่ดิน ณ กองนิติการสำนักพระราชวัง

ต้นเดือนมกราคม 2549 พระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส ให้พระลูกวัดทำื
หนังสือส่งถึงกองทัพบกและศูนย์สงครามพิเศษ เพื่อขออนุญาตใช้ที่ดิน
จากกองทัพบก

ต่อมาปลายปี 2551 ได้มีอุบาสิกาเพิ่มอีก 1 ท่าน คือ แม่ชีบุญญาสิริ คุ้มภัย
หรือแม่ชีจ๋า มาช่วยพัฒนาวัดป่าสุวรรณหงษ์ร่วมกับพระครูปลัดวิโรจน์
โอภาโส หรือ หลวงพ่อเจ้าอาวาส


ปัจจุบันวัดป่าสุวรรณหงษ์มีเพียงพระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส รักษาการ
เจ้าอาวาส และแม่ชีบุญญาสิริ คุ้มภัย เป็นผู้ช่วย ถึงแม้จะมีบุคลากรเพียง
น้อยนิด แต่พระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส ก็ยังมีความคิดริเริ่มที่จะพัฒนา
สำนักสงฆ์แห่งนี้ รวมทั้งประชาชนและบุคลากรทรัพยากรมนุษย์ให้มีความ
ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย.....     (ดีโพลมา1128)  จากทีมงาน                                                                 
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์  และ  dpmnews  และ dmnnews
และชมรมนักข่าว2000, และ ศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม   (ร่วมกันรายงานข่าว)
ข่าวนี้จะนำไปลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ของเราอีกครั้ง
นี่คือตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีข่าวอื่นๆอีกมากมาย
.....................................................................................
โดย...บ.ก.เกรียงไกร   พรเทพ (สื่อมวลชนหลายสถาบัน)
เจ้าของ และ บรรณาธิการ   น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์
(ควบคุมคอลัมน์) โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”)ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ                      
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")ประสานงาน
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) ภาพ / คอมพิวเตอร์
กิตกวี (นามปากกา  “clover gens”)ข่าวทั่วไปและงานแถลงข่าว
Sujittra  (หญิงเหล็ก) ดูแลข่าวบันเทิงและข่าวท่องเที่ยว
ฐิติยารัตน์ (นามปากกา "อำไพ")ดูแลข่าวเกี่ยวกับวัดและพระสงฆ์
ปัทมา (นามปากกา จันทร์ฉาย)ดูแลข่าวเกี่ยวกับศาสนา
อีเมล์...diplomanews@gmail.com , dpm2554@gmail.com 
นอกจากข่าวนี้แล้วยังมีข่าวย้อนหลังให้ดูอีกมากมาย
ขอให้คลิกไล่ดูอาจจะอยู่ทางขวามือหรืออาจจะอยู่ทางซ้ายมือ
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือและพันธมิตรอีกนับสิบๆแว๊บไซ้ท์
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือพิมพ์ค้นหาคำว่า  “diplomanews”
และเรายังมีพันธมิตรที่เป็นสื่อมวลชนอีกหลายร้อยคน
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน 
  
    
รูปถ่ายตัวอย่าง
ของหลวงพ่อเจ้าอาวาส


2
@ ภาพขณะบรรพชาอุปสมบท @
 
@ ภาพโยมบิดา-มารดา @
@ ภาพรับสมณศักดิ์ชั้น
"พระครูปลัด" @
@ ภาพนั่งในศาลา @
@ ภาพบริจาคโลหิต @
@ ภาพให้อาหารสุนัขตอนเช้า @
@ ภาพนายกสมาคมคนพิการการ
เคลื่อนไหวสากลถวายรถสามล้อ@
@ ภาพเพื่อน ๆ ร.ร.แสงหิรัญ @
@ ภาพเสร็จงานเดินลงจากเขา @
@ ภาพโรคภูมิแพ้กำเริบหนัก @
@ ภาพทีมข่าวช่อง 7 สี @
1
@ ภาพใส่เฝือกข้อเท้าผ่าตัด
ที่ ร.พ.พระมงกุฏ @
@ ภาพเช็ดถูทำความสะอาด @
@ ภาพแห่งความประทับใจ @
 

 

 

ชาติกำเนิด

พระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส กำเนิดที่บ้านพานถม ต. บางลำพู
อ.พระนคร จ.กรุงเทพ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์
พุทธศักราช 2495 ปี มะโรง นามเดิมของท่านคือ นายวิโรจน์
สีบุญเรือง (เอี้ยง)

โยมบิดาของท่านคือ นายพร้อมสุข สีบุญเรือง
โยมมารดาของท่านคือ นางโอภาส สีบุญเรือง
ท่านเป็นบุตรคนโต มีน้องสาว 2 คน คือ
๑. นางอ้อมทิพย์ (อ้อม) จารุสาธร (สีบุญเรือง)
๒. นางสุภาวดี (อ้อย) วรวัสสิริ (สีบุญเรือง)

ท่านถือกำเนิดในตระกูลศิลปิน ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของ ทิดเขียว
( นายสิน สีบุญเรือง ) ปรมาจารย์ด้านการพากย์ มีศักดิ์เป็นคุณปู่
และคุณยายเลื่อน ไวนุนาวิน ( เจ้าของคณะละครเพลงแม่เลื่อน )
เป็นคุณยายนับได้ว่าท่านเป็นเลือดศิลปินแท้ ๆ และโยมบิดา
ของท่านเป็นที่ปรึกษา และให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ของ
คุณพร้อมสิน สีบุญเรือง (พันคำ) ซึ่งมีศักดิ์เป็น พี่ชาย และ
เป็นคุณลุงแท้ ๆ ของหลวงพ่อวิโรจน์

วัยเด็ก-การศึกษา
หลวงพ่อท่านมี รูปร่างเล็ก ผิวขาว หน้าตาคมสัน แข็งแรงว่องไว
สติปัญญาดี ขยันขันแข็งตั้งแต่เด็ก วัยเด็กถือกำเนิดมามีอวัยวะ
ครบเป็นปกติทุกประการแต่ท่านได้ประสบเคราะห์กรรมครั้งแรก
โดยการติดเชื้อโรคโปลิโอ ตอนที่มีเชื้อโปลิโอเข้ามาเผยแพร่
ในเมืองไทยเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นท่านได้รับการรักษาตัวใน
โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ต่อมาจึงเข้ารับการรักษาที่
โรงพยาบาลศิริราช และได้รับการอนุเคราะห์นำไปรักษาตัวที่
มูลนิธิศรีสังวาลย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

หลวงพ่อท่านได้เข้ารับการศึกษาในวัยเด็ก คือ
ชั้นระดับอนุบาล ที่โรงเรียนวัดอินทร์บางขุนพรหม และโรงเรียน
ไวรยะอนุบาล เขตเทเวศร์
ชั้นระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนแสงสวัสดิ์ บางลำพู
โรงเรียนศรีวิกรม์ เป็น รุ่นที่ 1 โดยมี อ.เฉลิมพันธ์เป็นอาจารย์ใหญ่
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 – ม.ศ. 3 ศึกษาต่อที่ โรงเรียนแสงหิรัญ
จนจบการศึกษา
ชั้นระดับอาชีวะศึกษา ที่โรงเรียนกนกอาชีวศึกษา ตรอกจันทร์
สะพาน 2 วัดไผ่เงิน ในสาขาโทรคมนาคม

การทำงาน
ท่านเริ่มต้นฝึกงาน แห่งแรก คือสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน
ดินแดง ห้วยขวาง กรุงเทพ และอีกหลายแห่ง จนได้เข้าทำงานที่
โรงแก้วไทยกลาส์อินดัสทรีคอมประนี ถนนราษฎร์บูรณะ กรุงเทพ
จากเด็กฝึกงานท่านได้ใช้ความพยายามวิริยอุตสาหจนก้าวมาเป็น
หัวหน้าแผนก เนื่องด้วยความเมตตาจาก มิสเตอร์ เจ พี มอร์เลอว์
นายฝรั่งซึ่งรับท่านเข้าทำงานเป็นคนพิการคนแรกที่ได้รับอนุญาต
เข้าทำงานที่โรงงานนี้


การบรรพชาอุปสมบท
ท่านได้ทำการอุปสมบท 2 ครั้ง คือ
ครั้งแรก ท่านได้ลาพักร้อน และได้เข้าอุปสมบทที่ วัดธาตุทอง
เขตพระโขนง โดยมี


พระเทพญาณกวี (นพ ปธ .7) เป็นพระอุปัชฌาย์
(เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง)
พระมหานิพนธ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระมหาชุบ (พระรัตนมงคลโมลี) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ปัจจุบัน
ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดธาตุทอง

ครั้งที่ 2 เนื่องจากท่านเบื่อหน่ายทางโลกจึงได้ลางาน 7 วันเพื่อ
อุปสมบทอีกครั้ง พระธรรมปาโมกข์ (นพ ป.ธ. 7) เจ้าอาวาส
วัดธาตุทอง เล็งเห็นอุปนิสัยของท่านว่าต้องการความสงบสมถะ
จึงได้แนะนำและส่งมาอุปสมบทที่ วัดพุคำบรรพต ต.พุคำจาน
อ.พระพุทธบาท จ. สระบุรี (สาขาของวัดธาตุทอง) โดยคราวนี้มี  
พระครูสุธรรมถิราจาร(สมพร ปธ.5) เป็นพระอุปัชฌาย์
(เจ้าอาวาสวัดสิริจันทรนิมิตวรวิหาร พระอารามหลวง)
พระครูปัญญารามคุณ (ราเมศร์ ประโยค 1-2) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
(รองเจ้าอาวาสวัดสิริจันทรนิมิตวรวิหาร พระอารามหลวง)
พระมหาประสิทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม
2535 แล้วครั้งนี้เองท่านได้อุปสมบทไม่ลาสิกขาอีก ท่านอยู่
วัดพุคำบรรพตได้ระยะหนึ่ง ท่านและสหธรรมมิกผู้บวชใหม่คือ
หลวงตาเข็มทองเดินทางออกจากวัดพุคำบรรพต มาเพื่อบำเพ็ญ
สมณธรรมที่สำนักสงฆ์สุวรรณหงษ์แห่งนี้ และพัฒนาพื้นที่
เรื่อยมาจนเป็นผลสำเร็จดั่งที่เห็น

 
 
 
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย.....     (ดีโพลมา1128)  จากทีมงาน                                                                 
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์  และ  dpmnews  และ dmnnews
และชมรมนักข่าว2000, และ ศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม   (ร่วมกันรายงานข่าว)
ข่าวนี้จะนำไปลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ของเราอีกครั้ง
นี่คือตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีข่าวอื่นๆอีกมากมาย
.....................................................................................
โดย...บ.ก.เกรียงไกร   พรเทพ (สื่อมวลชนหลายสถาบัน)
เจ้าของ และ บรรณาธิการ   น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์
(ควบคุมคอลัมน์) โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”)ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ                      
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")ประสานงาน
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) ภาพ / คอมพิวเตอร์
กิตกวี (นามปากกา  “clover gens”)ข่าวทั่วไปและงานแถลงข่าว
Sujittra  (หญิงเหล็ก) ดูแลข่าวบันเทิงและข่าวท่องเที่ยว
ฐิติยารัตน์ (นามปากกา "อำไพ")ดูแลข่าวเกี่ยวกับวัดและพระสงฆ์
ปัทมา (นามปากกา จันทร์ฉาย)ดูแลข่าวเกี่ยวกับศาสนา
อีเมล์...diplomanews@gmail.com , dpm2554@gmail.com 
นอกจากข่าวนี้แล้วยังมีข่าวย้อนหลังให้ดูอีกมากมาย
ขอให้คลิกไล่ดูอาจจะอยู่ทางขวามือหรืออาจจะอยู่ทางซ้ายมือ
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือและพันธมิตรอีกนับสิบๆแว๊บไซ้ท์
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือพิมพ์ค้นหาคำว่า  “diplomanews”
และเรายังมีพันธมิตรที่เป็นสื่อมวลชนอีกหลายร้อยคน
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน 
 

พระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 
และ 
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 
--------------------------------------------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. 
ให้ไว้ ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2505 
เป็นปีที่ 17 ในรัชกาลปัจจุบัน 
และ 
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. 
ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.  2535 
เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน 
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศ ว่า 
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น 
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาร่าง 
หมวด 5 
วัด 
--------------------

มาตรา 37  เจ้าอาวาสมีหน้าที่ดังนี้ 
(1) บำรุงรักษาวัด จัดกิจการและศาสนสมบัติของวัดให้เป็นไปด้วยดี 
(2) ปกครองและสอดส่องให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่หรือพำนักอาศัยอยู่ในวัดนั้นปฏิบัติตามพระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม 
(3) เป็นธุระในการศึกษาอบรมและสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่บรรพชิตและคฤหัสถ์ 
(4) ให้ความสะดวกตามสมควรในการบำเพ็ญกุศล 
มาตรา 38  เจ้าอาวาสมีอำนาจดังนี้ 
(1) ห้ามบรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งมิได้รับอนุญาตของเจ้าอาวาสเข้าไปอยู่อาศัยในวัด 
(2) สั่งให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ซึ่งไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาสออกไปเสียจากวัด 
(3) สั่งให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่หรือพำนักอาศัยในวัด ทำงานภายในวัด หรือให้ทำทัณฑ์บน หรือให้ขอขมาโทษในเมื่อบรรพชิตหรือคฤหัสถ์ในวัดนั้นประพฤติผิดคำสั่งเจ้าอาวาสซึ่งได้สั่งโดยชอบด้วย พระธรรมวินัย กฎมหาเถรสมาคมข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งของมหาเถรสมาคม 
มาตรา 39  ในกรณีที่ไม่มีเจ้าอาวาสหรือเจ้าอาวาสไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้แต่งตั้งผู้รักษาการแทน เจ้าอาวาส ให้ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสมีอำนาจและหน้าที่เช่นเดียวกับเจ้าอาวาส การแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎมหาเถร สมาคม
หมายเหตุ  เฉพาะผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตามระเบียบเท่านั้น

 
ข้อวัตรปฏิบัติพระสงฆ ์(สำนักสงฆ์สุวรรณหงษ์)
1. พระเณรห้ามขอของแต่คนใช่ญาติใช่ปวารณา และห้ามติดต่อกับคฤหัสถ์ และนักบวชอันเป็นวิสภาคกับพุทธศาสนา 
2. ห้ามบอกและเรียนติรัจฉานวิชา บอกเลข 
3. พระผู้มีพรรษาหย่อน 5 ห้ามิให้ไปตามลำพังเว้นแต่มีเหตุจำเป็นหรือมีอาจารย์ผู้สมควรติดตามไปด้วย 
4. เมื่อจะทำอะไรให้ปรึกษาสงฆ์ หรือ ผู้เป็นประธานในสงฆ์เสียก่อน เมื่อเห็นว่าเป็นธรรม เป็นวินัย และจึงทำอย่าทำตามอำนาจตัวเองฯ 
5. ให้ยินดีในเสนาสนะที่สงฆ์จัดให้ และให้ทำความสะอาดเก็บกวาดกุฏิ ถนนเข้าออกให้สะอาด 
6. เมื่อกิจของสงฆ์เกิดขึ้นให้พร้อมกันทำ เมื่อเลิกให้พร้อมกันเลิก อย่าทำตนให้เป็นที่รังเกียจของหมู่คณะ คือ เป็นผู้มายาสาไถย หลีกเลี่ยง แก้ตัว
7. เมื่อฉันบิณฑบาตเสร็จ ให้เก็บบาตร ล้างบาตร กวาดวัด สรงน้ำ จัดโรงฉัน ฟังเทศน์เหล่านี้ ห้ามมิให้คุยกันพึงตั้งใจทำกิจนั้นจริงๆ 
8. ให้ทำตนเป็นผู้มักน้อยในการพูด กิน นอน ร่าเริง จงเป็นผู้ตื่นอยู่ด้วยความเพียร และจงช่วยกันพยาบาล ภิกษุ สามเณร อาพาธด้วยความเมตตาฯ 
9. เมื่อเอกลาภเกิดขึ้นในสงฆ์หมู่นี้ ให้เก็บไว้เป็นกองกลาง เมื่อท่านองค์ใดต้องการ ให้สงฆ์อนุมัติแก่ท่าน องค์นั้น โดยสมควร 
10. ห้ามคุยกันเป็นกลุ่มก้อนทั้งกลางวันและกลางคืนในที่ทั่วไป หรือในกุฏิ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นถึงกระนั้นก็อย่าเป็นผู้คลุกคลีและเอิกเกริกเฮฮา ห้ามสูบบุหรี่ กินหมากฯ 
11. การรับและส่งจดหมาย เอกสาร หรือวัตถุต่างๆ ภายนอกห้องแจ้งต่อสงฆ์ หรือผู้เป็นประธานสงฆ์รับทราบทุกคราวไป เมื่อสงฆ์หรือผู้เป็นประธานสงฆ์เห็นสมควรแล้ว จึงรับส่งได้ฯ 
12. พระเณรที่มุ่งเข้ามาปฏิบัติในสำนักนี้ เบื้องต้นต้องได้รับใบฝากจากอุปัชฌาย์อาจารย์ของตน และย้ายสุทธิมาให้ถูกต้องเสียก่อนจึงจะใช้ได้ฯ 
13. พระเณรที่เป็นอาคันตุกะมาพักอาศัย ต้องนำสุทธิแจ้งสงฆ์ หรือผู้เป็นประธานสงฆ์ในคืนแรก และมีกำหนดให้พักได้ไม่เกิน 3 คืน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นฯ 
หมายเหต ข้อกติกาสงฆ์เหล่านี้เมื่อผู้ใดฝ่าฝืนสงฆ์มีอำนาจเต็มที่ที่จะบริหาร

วัตร ๑๔
วัตร ๑๔ คือ ระเบียบวิธีการปฏิบัติต่างๆในสังคมความเป็นอยู่ของภิกษุ อันส่งเสริมให้การบำเพ็ญสมณธรรม ดำเนินไปด้วยดีและเรียบร้อย 
๑. อาคันตุกวัตร หน้าที่ของอาคันตุกะผู้เข้าไปสู่อาวาสอื่น ต้องเคารพต่อสถานที่และประพฤติตัวให้เหมาะสม เช่น ถอดรองเท้า หุบร่ม ห่มเฉวียงบ่า เดินไปหาภิกษุผู้อยู่ในอาวาส ทำความเคารพท่าน ถามถึงที่พัก ห้องน้ำ ห้องส้วม น้ำใช้น้ำฉัน ทำความสะอาดที่พักอาศัย และประพฤติตนตามกฎกติกาของวัดเป็นต้น
๒. อาวาสิกวัตร หน้าที่ของเจ้าอาวาส(เจ้าถิ่น)ที่จะต้องปฏิบัติต่อพระอาคันตุกะ เช่น หากภิกษุอาคันตุกะพรรษาแก่กว่ามา ให้ปูอาสนะ ตั้งน้ำล้างเท้า ลุกไปรับบาตรจีวร ถวายน้ำฉันน้ำใช้ กราบไหว้ บอกเรื่องต่างๆ เช่นห้องน้ำ ห้องส้วม โคจรบิณฑบาต และกติกาสงฆ์...ฯลฯ
๓. คมิกวัตร หน้าที่ของผู้เตรียมจะไปที่อื่น ก่อนออกเดินทางพึงเก็บเครื่องใช้สอยเช่น เตียง เก้าอี้ เสื่อ หมอน ผ้าห่ม เป็นต้นไว้ให้ดี ปิดประตูหน้าต่าง ฝากหรือคืนเสนาสนะให้ภิกษุสามเณร อุบาสก หรือคนของวัด(ให้)ช่วยดูแลแล้วจึงเดินทาง...ฯลฯ
๔. อนุโมทนวัตร ทรงอนุญาตให้อนุโมทนาในที่ฉัน วิธีอนุโมทนา ให้พระภิกษุผู้เป็นเถระอนุโมทนา หากทายกนิมนต์ภิกษุหนุ่มให้อนุโมทนา ต้องบอกหรือขอโอกาสพระเถระก่อน ในขณะที่ภิกษุอื่นอนุโมทนาอยู่ หากมีเหตุจำเป็นเช่นปวดอุจจาระ ถ้าจะลุกไป ต้องลาพระภิกษุผู้นั่งใกล้ก่อน...ฯลฯ
๕. ภัตตัควัตร ธรรมเนียมในโรงฉัน หรือเมื่อไปฉันในบ้าน ต้องนุ่งห่มให้เรียบร้อย เดินไปตามลำดับอาวุโส ไม่เบียดกัน ปฏิบัติตามเสขิยวัตรทุกข้อ ไม่นั่งเบียดพระเถระ ฯลฯ
๖. บิณฑจาริกวัตร ระเบียบประพฤติในเวลาออกบิณฑบาต ให้ปฏิบัติตามเสขิยวัตร เช่น นุ่งห่มให้เรียบร้อย ซ้อนผ้าสังฆาฏิ ห่มคลุมกลัดรังดุม กลอกบาตร ถือบาตรในจีวร กำหนดทางเข้าออก ไม่ยืนใกล้หรือไกลจากผู้ให้นัก อย่ามองหน้าผู้ถวายรูปใดกลับก่อนปูอาสนะ ตั้งน้ำล้างเท้า ตั้งน้ำใช้น้ำฉัน...ฯลฯ
๗. อรัญญิกวัตร ระเบียบของผู้อยู่ป่า ก่อนออกบิณฑบาตเก็บเครื่องใช้สอยไว้ในกุฏิ ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย จัดหาน้ำใช้น้ำฉันมาเตรียมไว้ เรียนรู้ทิศต่างๆและการเดินทางของดวงดาว เพื่อป้องกันการหลงทาง...ฯลฯ
๘. เสนาสนวัตร วิธีดูแลที่อยู่อาศัย ให้ทำความสะอาดอยู่เสมอ ให้เคลื่อนย้ายบริขารด้วยความระมัดระวังอย่าให้กระทบครูดสีพื้นประตูหน้าต่าง ถ้ากุฏิเก่าให้ซ่อมแซม หากมีลมฝนแรงต้องปิดประตูหน้าต่าง...ฯลฯ
๙. ชันตาฆรวัตร ข้อปฏิบัติในเรือนไฟที่อบกายระงับโรค ทำความสะอาด ตั้งน้ำ ไม่เบียดชิดพระเถระ ไม่กีดกันอาสนะภิกษุหนุ่ม บีบนวดและสรงน้ำแก่พระเถระ...ฯลฯ
๑๐. วัจกุฎีวัตร ระเบียบปฏิบัติในเวลาเข้าส้วม ถ่ายอุจจาระปัสสาวะแล้วต้องทำความสะอาดส้วมให้เรียบร้อย เข้าห้องส้วมตามลำดับที่มาถึงก่อนหลัง พาดจีวรไว้ที่ราวข้างนอก อย่าเลิกผ้าเข้าไป อย่าเบ่งแรง อย่าเลิกผ้าออกมา นุ่งห่มเรียบร้อยแล้วจึงออก ถ้าส้วมสกปรกให้ทำความสะอาด ตักน้ำใส่ไว้ให้เต็ม...ฯลฯ
๑๑. อุปัชฌายวัตร วิธีปฏิบัติของสัทธิงวิหาริก(ลูกศิษย์)ต่ออุปัชฌาย์ เข้าไปรับใช้ถวายน้ำล้างหน้าบ้วนปาก ช่วยนุ่งห่มจีวรให้ ซักผ้า ล้างบาตร ทำความสะอาดกุฏิ รับย่าม ถ้าเดินทางร่วมกับท่าน ไม่ควรเดินใกล้หรือไกลเกินไป ไม่พูดสอดแทรกขณะท่านพูดอยู่ จะทำอะไรต้องถามท่านก่อน จะไปไหนต้องกราบลา ป้องกันอาบัติให้ท่าน เอาใจใส่ยามอาพาธ...ฯลฯ
๑๒. สัทธิงวิหาริกวัตร ข้อที่อุปัชฌาย์จะพึงมีต่อศิษย์ เช่น อนุเคราะห์ด้วยพระธรรมวินัย อบรมสั่งสอนอยู่เนืองๆให้บริขารเครื่องใช้ ถ้าศิษย์อาพาธให้อุปัชฌาย์ปฏิบัติต่อศิษย์ดังในอุปัชฌาย์เช่นกัน เป็นต้น
๑๓. อาจริยวัตร วิธีปฏิบัติต่ออาจารย์ อันเตวาสิก(ศิษย์)ผู้ถือนิสัยอยู่ด้วยอาจารย์ พึงปฏิบัติต่ออาจารย์ดังอุปัชฌายวัตร
๑๔. อันเตวาสิกวัตร วิธีปฏิบัติต่อ อันเตวาสิก(ศิษย์) อาจารย์ผู้ให้นิสัยพึงปฏิบัติชอบ สงเคราะห์ศิษย์ดังสัทธิงวิหาริกวัตรทุกประการ

สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อพระสงฆ
1. กราบพระต้องกราบ 3 ครั้ง แบบเบญจางคประดิษฐ์ คือ ให้ส่วนของเข่าทั้งสอง  ข้อศอกทั้งสอง  หน้าผากหนึ่ง  จรดพื้นทุกครั้ง
2. อย่าถวายสิ่งที่เป็นอาหารทุกชนิด  หลังจากท่านฉันอาหาร  เสร็จแล้วในวันนั้น  เมื่อมีศรัทธาให้มอบทายกหรือเก็บไว้ถวายวันต่อไป
3. อย่าแตะต้องอาหารที่ถวายไว้แล้ว  เว้นแต่จะนำไปถวายใหม่
4. การถวายหรือประเคนสิ่งของ อย่าห่างเกินศอกคืบโดยประมาณ  ยกของถวายให้พ้นพื้นพอแมวลอดได้  และถวายโดยอาการนอบน้อม
5. การถวายของควรถวายตั้งแต่พระเถระลงมาจึงเหมาะสม
6. ถวายจำพวกพืชคาม คือ พืชที่ปลูกขึ้นได้โดย หัว  ราก  ลำต้น  เมล็ด  เช่น  ต้นหอม  บัวบก  มะเขือ  องุ่น  ฯลฯ  ต้อง  กัปปิยะ โดยผู้ กัปปิยะ ใช้ของแหลมคม  ไฟหรือเล็บเพื่อตัด  แทง  จี้  หรือ  หยิกสิ่งนั้น  พร้อมกับกล่าวคำว่า “กัปปิยัง  ภันเต ”  ขณะเดียวกันพระภิกษุผู้รับจะกล่าว่า  “ กัปปิยัง  กะโรหิ”  แล้วจึงถวายได้
7. เจรจากับพระภิกษุสงฆ์ด้วยความเคารพ  ด้วยการประนมมือ
8. เมื่อฟังธรรมต้องตั้งใจฟัง  ไม่นอน  สวมหมวก  รองเท้า  หรือาวุธ  ฯลฯ
9. เวลาพระภิกษุแสดงธรรม  หรือให้โอวาทอยู่  อย่าพูดสอดแทรกในระหว่างนั้น

ระเบียบสำนักสงฆ์สุวรรณหงส์ (เขาจีนแล 2)
ว่าด้วยการเข้าพักของแม่ชีและคฤหัสถ์
พ.ศ. 2547
 

--------------------
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 และมาตรา 38  แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505  แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2)  พ.ศ. 2535  ว่าด้วยอำนาจการปกครองของเจ้าอาวาส จึงวางระเบียบไว้ดังต่อไปนี้ 
1.  ผู้เข้าพำนักอาศัยต้องมีผู้รับรองฐานะในการเข้าพำนักอาศัยในสำนัก 
2.  ไม่กระทำการใด ๆ ที่ทำให้เจ้าอาวาสเดือดร้อน  ไม่สบายใจหรือทำให้เสื่อมเสียในทุกกรณีและไม่ใช้กิริยาวาจาใด ๆ เพื่อทำลายหมู่คณะอันเป็นเหตุให้แตกแยกรวมทั้งอาการกระด้างกระเดื่องแสดงกิริยาวาจาอันไม่เคารพพระภิกษุสงฆ์สามเณร 
3.  ไม่คลุกคลีหรือจับกลุ่มสนทนาในเรื่องไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติ 
4. เวลารับประทานอาหารให้พร้อมเพรียงและล้างภาชนะจัดเก็บให้เรียบร้อยรวมทั้งรักษาความสะอาดโรงครัว 
5.  รักษาความสะอาดบริเวณที่พักและรอบวัดโดยสม่ำเสมอ 
6.  ห้ามนำอาหารคาวหวานและอุปกรณ์การทำอาหารทุกชนิดเก็บไว้ในที่พักให้นำไปเก็บไว้ในโรงครัว เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย (ยกเว้น  น้ำชา  กาแฟ ฯ) 
7.  ต้องดูแลรักษาเครื่องมือเครื่องใช้ทุกชนิด  เมื่อนำออกมาใช้ต้องทำความสะอาดและจัดเก็บเข้าที่เดิม  ห้ามนำไปใช้เป็นการส่วนตัวโดยเด็ดขาด 
8.  เมื่อได้รับของบริจาคหรือถวายให้รวมที่ส่วนกลาง (เว้นผู้ถวายกล่าวเจาะจง)  และห้ามเก็บผักผลไม้อาหาร หรือหยิบสิ่งของต่าง ๆ นำมาเป็นสมบัติส่วนตัวก่อนได้รับอนุญาต 
9.  ห้ามนำเรื่องหมู่คณะภายในสำนักไปประจานให้บุคคลภายนอกทราบ และไม่นำเรื่องภายนอกเข้ามาภายในและไม่ใช้วาจาเหยียดหยามผู้อื่น 
10.  เคารพนับถือตามวัยวุฒิและเมื่อมีเหตุขัดข้องให้เรียนเจ้าอาวาสเพื่อจะได้แก้ไขต่อไป 
11.  รักษาศีลบริสุทธิ์เสมอกันอย่าให้เป็นที่รังเกียจของหมู่คณะ 
12.  ห้ามชีคนหนึ่งคนใดตั้งตนมีอำนาจปกครองหรือตั้งกฎกติกาใด ๆ ตามความเห็นผิดและถือสิทธิ์ในกุฏิที่ตนอาศัยอยู่ 
13.  เมื่อจะออกนอกบริเวณสำนักให้กราบเรียนเจ้าอาวาสให้ทราบ 
14.  ห้ามรับแขกเพศชาย-เพศหญิง  บนกุฏิยกเว้นอาพาธ และห้ามผู้ชาย-ผู้หญิง อายุ 20 ปีขึ้นไปพักแรมค้างคืนยกเว้นมีเหตุจำเป็น 
15.  ห้ามโฆษณาสิ่งที่ไม่เป็นพระธรรมวินัยเพื่อเห็นแก่อามิสสินจ้างอันเป็นมิจฉาชีพ เป็นเหตุนำความเสื่อมเสียมาสู่พระพุทธศาสนาและสำนักฯ 
16.  ห้ามเรี่ยไรหรือมาหาผลประโยชน์ภายในสำนักฯ 
17.  ห้ามทะเลาะวิวาท หรือก่อความไม่สงบภายในสำนักฯ และเจ็บป่วยให้ช่วยกันดูแลรักษา 
18.  ระเบียบสำนักสงฆ์สุวรรณหงส์ (เขาจีนแล 2)นี้ให้บังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประการใช้ 1 วัน และโปรดปฏิบัติตามระเบียบโดยเคร่งครัดถ้าทำไม่ได้พิจารณาตนเอง 
19.  ห้ามเสพของมึนเมา  และยาเสพติดทุกชนิดภายในสำนักสงฆ์ 

มารยาทของผู้ที่มาปฏิบัติธรรม
มารยาทที่ควรทำ
๑. พูดแต่วาจาที่จริง, ไพเราะ , อ่อนโยน , อยู่เสมอ 
๒. มีความประพฤติสุภาพ เรียบร้อยอยู่เสมอ ไม่แข็งกระด้าง 
๓. เคารพ เชื่อฟัง ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ และผู้ที่ประพฤติมาก่อนตน 
๔. ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ และผู้ที่ประพฤติตนมาก่อน 
๕. มีความเมตตา – กรุณาแก่ผู้น้อย และผู้มาอยู่หลัง 
๖. ช่วยเหลือในกิจการงานทุกอย่างโดยถือว่าเป็นที่ตั้งแห่งบุญ 
๗. ในเมื่อเกิดความป่วยไข้ ก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยความเมตตา 
๘. เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ เป็นการเฉลี่ยสุขให้แก่กันด้วยความโอบอ้อมอารี
มารยาทที่ไม่ควรทำ
๑. ไม่ทำถือตน  แข่งดี แข็งกระด้างกับผู้ใหญ่ และกับเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยกัน 
๒. ไม่ผูกใจเจ็บ  ผู้ที่ว่ากล่าวตักเตือนด้วยความปรารถนาดี 
๓. ไม่ยืน, เดิน , นั่ง, หน้าผู้ใหญ่และผู้ประพฤติมาก่อนตน 
๔. ไม่ยืน, เดิน, นั่ง นอน โดยอาการไม่สำรวม 
๕. ไม่กระทำตนเป็นผู้เอิกเกริก เฮฮา ดุจฆราวาส 
๖. ไม่รวมกลุ่มสนทนากันด้วยเรื่องทางโลก และเรื่องไร้สาระ (เมื่อเสร็จกิจส่วนรวมแล้ว ควรทำกิจส่วนตนมีการอ่านหนังสือ ท่องบทสวดมนต์ ทำสติ เป็นต้น ต่างคนต่างอยู่ไม่คลุกคลีกัน) 
๗. ไม่พูดเสียงดังจนเป็นที่รำคาญของผู้อื่น 
๘. ไม่วิ่ง และกระทำกริยาตึงตังโครมครามให้ผู้อยู่ใกล้เคียงตกใจและรำคาญ 
๙. ไม่หัวเราะเสียงดังให้ผิดจากความเป็นนักบวช 
๑๐. ไม่เป็นผู้ทอดสะพานให้แก่เพศตรงข้าม โดยอาการๆ ทั้งสิ้น 
๑๑. ไม่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนทั้งภายนอกและภายใน 

หมายเหตุ ถ้าประพฤติผิดมารยาทข้อใด ควรแสดงความบริสุทธิ์ (เปิดเผยความเศร้าหมอง) กับผู้ที่ตนเคารพ เพื่อให้ท่านชำระมารยาทโดยการตักเตือน แนะนำสั่งสอนแล้วไม่เชื่อฟังคำตักเตือนของท่าน ไม่ปฏิบัติตามโดยเคารพ หรือมีการทะเลาะโต้เถียงกันเกิดขึ้น ให้พิจารณาลากลับได้ทันที

ประกาศ ณ  วันที่ 1 กันยายน  พ.ศ.  2547
 
พระครูปลัดวิโรจน์  โอภาโส
รักษาการเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์สุวรรณหงส์ (เขาจีนแล 2)
 
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
ประกาศ วัดป่าสุวรรณหงษ์ (เขาจีนแล 2) 

--------------------------------------------------

เรื่อง การอนุญาตขึ้นเขาเพื่อการกีฬา


โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 38 และมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2502 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 จึงขอประกาศให้ทราบ โดยทั่วกันว่าการขึ้นเขาในบริเวณวัดขอให้ปฏิบัติดังนี้
(1) ก่อนขึ้นเขาทุกครั้งกราบเรียนเจ้าอาวาส หรือพระที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ (กรณีเจ้าอาวาสไม่อยู่) เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์ี 
(2) บันทึกชื่อ ที่อยู่ เวลาขึ้น/ลงเขา และเหตุผลให้ชัดเจนทุกครั้งเพื่อจะได้บันทึกเก็บไว้ 
(3) แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยและสักการะพุทธสถานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณวัดก่อนขึ้นเขาทุกครั้ง และเคารพสถานที่เนื่องจากเป็นสถานปฏิบัติธรรม
(4) เมื่อลงจากเขาทุกครั้งกรุณาแจ้งเจ้าอาวาสหรือพระภิกษุให้ทราบเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าปลอดภัย
โดยทั้งนี้ถือว่าเป็นความสมัครใจในการขึ้นเขา ซึ่งทางวัดมิได้เกี่ยวข้องและไม่มีผลประโยชน์หรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และเพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และให้พระภิกษุได้รับทราบสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของตัวท่านเอง (เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและคนหาย) กรุณาปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวข้างต้นโดยทั่วกัน
NOTICE SUWANNAHONG MONASTERY
(KHAO CHIN LAE 2)
 
HIKING UP HILLS IN THE MONASTERY AREA FOR SPORTING EVENTS
 
BY THE AUTHORITIES OF SECTION 38 AND SECTION 39 OF MONASTERY ACT II B.E. 2535- REFORMATORY OF MONASTERY ACT B.E.2505 , THE PROCEDURE OF HIKING UP HILLS IN MONASTERY AREA IS TO BE DONE AS FOLLOW;
1. THE ABBOT OR THE AUTHORIZED MONK (IN ABSENCE OF THE ABBOT) IS TO BEINFORMED OF THE PURPOSE OF EACH HIKE.
2. ENSURE THE NAMES, ADDRESS, TIME UP/DOWN, AND THE PURPOSE OF EACH HIKE ARE RECOREDE.
3. AS A SYMBOL OF PAYING RESPECT TO THEMONSATERY, POLITE DRESS IS TO BE WORN. PLEASE ALSO PAY HOMAGE TO SACRED PLACES IN THE MONASTERY.
4. FOR SAFETY ISSUE, PLEASE INFORM THE ABBOT OR THE AUTHORIZED MONKE VERY TIME AFTER COMPLETING A HIKE.

THE MONASTERY DOES NOT HAVE ANY INFLUENCES ON YOUR WILL TO HIKE, AND IS NOTINVOLVED IN ANY BENEFICIAL ACTIVITES AS WELL AS THE EXPENDITURE OF YOUR. FORTHE SAFETY OF YOURSELF AND PEOPLE NEIGHBORING, PLEASE FOLLOW THE ABOVEMENTIONED RULESTHOROUGHLY.

ENFORCED SINCE 28 JULY 2004


(PRAKRUPHARADVIROJ OPASO)
ACTING ABBOT OF SUWANNAHONG MONASTERY
(KHAO CHIN LAE 2)


ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
ธรรมะท่ามกลางธรรมชาติ
ของพระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส
ธรรมะท่ามกลางธรรมชาติสอนให้ทุกคนมองเห็นสัจจะธรรมแห่งความเป็นจริง
ทั้งหมดล้วนอยู่รอบตัวเรา แล้วให้ทุกคนรู้จักนำมาพิจารณาปรับปรุง เพื่อนำมาใช้
ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน หนังสือเล่มนี้แต่งขึ้นมาในท่ามกลางธรรมชาติขุนเขา
จีนแล 2แห่งนี้ ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุวรรณหงษ์นั่นเอง
วันนั้นทุกอย่างช่างดูเงียบสงบ พร้อมกับอากาศร่มรื่นที่แสนจะเย็นสบาย ยามแสงแดดอ่อนๆ
ข้าพเจ้าได้กวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณ แล้วพิจารณาธรรมชาติเพียงลำพัง
เมื่อพิจารณาแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก เพราะว่าธรรมะคือธรรมชาติ
ทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรานี่เอง ซึ่งไม่ได้ห่างไกลไปจากชีวิตเราเลยสักนิดเดียว
โดยที่เราไม่ต้องไปค้นหาหรือเสาะแสวงหาที่ไหน เพียงใช้สติปัญญาและการพิจารณา
ธรรมะที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสถึงเหตุและผลของมัน ก็จะพบคำตอบอย่างง่ายดาย

ที่ปรึกษา พระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส
ผู้แต่ง แม่ชีบุญญาสิริ คุ้มภัย
3 มิย. 2554
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน

หลวงพ่อวิโรจน์ โอภาโส

เป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในวัด
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อศาสนา เช่น
สอนให้บริจาคโลหิต, สอนธรรมะบำบัดจิตใจ,
ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการต่างๆ
ในการดูแลอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้ป่าไม้อยู่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่หลวงพ่อ
วิโรจน์ โอภาโส (สีบุญเรือง)จะพึงกระทำได้
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน 
เนื่องจาก วัดป่าสุวรรณหงษ์ยังขาดแคลนปัจจัยเป็นจำนวนมาก ที่จะทำนุบำรุงศาสนา   เช่น  ค่าบำรุงวัด ค่ารักษา
พยาบาลพระภิกษุอาพาธ ,ค่าอาหาร-ยารักษาโรคของสุนัข  เนื่องจากญาติโยมนำมาทิ้งไว้
ไม่มีปัจจัยเพียงพอที่จะนำมาซ่อมแซมเสนาสนะต่างๆ (กุฏิ, ศาลา,โรงครัว ฯลฯ), ทางเดิน-บันไดหลายแห่งชำรุด,
และสายไฟที่เสื่อมสภาพผูกระโยงระยายเต็มไปหมด, รวมถึงการสร้างเขื่อน-กำแพงป้องกันดินทรุดตัวเพราะพื้นที่เป็นเขาสูงชัน
ถ้าหากท่านใดมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือวัดป่าสุวรรณหงษ์สามารถติดต่อสอบถามบริจาคได้ที่ี่
พระครูปลัดวิโรจน์ โอภาโส
สำนักสงฆ์สุวรรณหงษ์   หรือ วัดป่าสุวรรณหงษ์
ที่อยู่  136/2  บ้านหนองขาม  ตำบลนิคมสร้างตนเอง
อำเภอเมือง  จังหวัดลพบุรี  15000
เบอร์โทร:   087-415-2971 หรือ 088-901-2257
Email : pakatsi @ hotmail . com

บัญชีที่สามารถบริจาคได้  
    ชื่อบัญชี พระวิโรจน์ สีบุญเรือง   ธนาคารกรุงเทพ   สาขา สระแก้ว ลพบุรี
หมายเลขบัญชี   391-0-55590-7

เส้นทางการเข้าสู่วัดป่าสุวรรณหงษ์

กรณีมารถส่วนตัว
เดินทางจากกรุงเทพใช้ถนนทางหลวงหลักพหลโยธินหมายเลข 1เข้าอำเภอ หนองแค มาถึง

สระบุรีจะผ่านเข้าอำเภอหน้าพระลาน ให้วิ่งตรงมาจะผ่านอำเภอพระพุทธบาท ให้ตรงมาเรื่อยจะผ่านแยก

 ไฟแดงที่สองให้สังเกตทางขวามือจะเห็นโรงงานมินิแบร์ เตรียมเลี้ยวขวาเมื่อถึง 4 แยกจะมี

สถานีตำรวจนิคมสร้างตนเองให้เลี้ยวขวาให้ขับรถตรงมาเรื่อยๆ ผ่านวัดเจริญธรรม(ด้านขวามือ) ให้ตรงไปเรื่อยๆ
สังเกตเสาสัญญาณโทรศัพท์ทางขวามืออยู่ (เยื้องสามแยก)ให้เลี้ยวซ้ายขับรถตรงไปจนสุด
ทางที่บ้านหนองถ้ำ ให้เลี้ยวซ้าย วิ่งตรงไปสุดทางให้เลี้ยวขวาจะเห็นป้ายทางเข้าวัดสีเขียว
กรณีมารถประจำทาง
ให้แจ้งผู้เก็บค่าโดยสารว่าลงที่แยกนิคมสร้างตนเอง ให้นั่งรถจักรยานยนต์  เข้ามาและ
บอกคนขับว่า มาวัดป่าสุวรรณหงษ์ เขาจีนแล 2 บริเวณบ้านหนองขาม ค่ารถประมาณ 80-120 บาท
หรือ ลงที่สถานีขนส่งลพบุรี เหมารถตรงบริเวณร้านถ่ายรูปเปเป้ ค่าเหมารถประมาณ 200-250 บาท
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าวภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านบนนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย.....     (ดีโพลมา1128)  จากทีมงาน                                                                 
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์  และ  dpmnews  และ dmnnews
และชมรมนักข่าว2000, และ ศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม   (ร่วมกันรายงานข่าว)
ข่าวนี้จะนำไปลงตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ของเราอีกครั้ง
นี่คือตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น ยังมีข่าวอื่นๆอีกมากมาย
.....................................................................................
โดย...บ.ก.เกรียงไกร   พรเทพ (สื่อมวลชนหลายสถาบัน)
เจ้าของ และ บรรณาธิการ   น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์
(ควบคุมคอลัมน์) โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”)ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ                      
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")ประสานงาน
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) ภาพ / คอมพิวเตอร์
กิตกวี (นามปากกา  “clover gens”)ข่าวทั่วไปและงานแถลงข่าว
Sujittra  (หญิงเหล็ก) ดูแลข่าวบันเทิงและข่าวท่องเที่ยว
ฐิติยารัตน์ (นามปากกา "อำไพ")ดูแลข่าวเกี่ยวกับวัดและพระสงฆ์
ปัทมา (นามปากกา จันทร์ฉาย)ดูแลข่าวเกี่ยวกับศาสนา
อีเมล์...diplomanews@gmail.com , dpm2554@gmail.com 
นอกจากข่าวนี้แล้วยังมีข่าวย้อนหลังให้ดูอีกมากมาย
ขอให้คลิกไล่ดูอาจจะอยู่ทางขวามือหรืออาจจะอยู่ทางซ้ายมือ
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือและพันธมิตรอีกนับสิบๆแว๊บไซ้ท์
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์ค้นหาคำว่า
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือพิมพ์ค้นหาคำว่า  “diplomanews”
และเรายังมีพันธมิตรที่เป็นสื่อมวลชนอีกหลายร้อยคน
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น