วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จำคุก 20 ปี อดีตตำรวจจับแผงค้าซีดี(ดีโพลมา1325)

จำคุก 20 ปี อดีตตำรวจจับแผงค้าซีดี(ดีโพลมา1325)
 
ศาลอุทธรณ์แก้โทษ อดีตตำรวจประชาชื่นปืนโหดจับพ่อค้าซีดียิงทหารดับ เหลือ
 
จำคุก 20 ปี ระบุเป็นเหตุเฉพาะหน้า จำเลยไม่ได้เตรียมการหรือไตร่ตรองไว้ก่อน
 
ด้านญาติผู้ตายขอปรึกษาทนายก่อนตัดสินใจฎีกาหรือไม่
 

      
       ที่ห้องพิจารณาคดี 805 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกวันนี้ (25 ก.ค.) ศาลอ่านคำ
 
พิพากษาศาลอุทธรณ์คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.531/2552 ที่
 
พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา และส.อ.หญิง นกแก้ว ประสมศรี สังกัดกรมยุทธบริการ
 
ทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ภรรยาของ ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี สารวัตรทหาร
 
อายุ 32 ปี (สห.) สังกัดกรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด (ขณะนั้น) ซึ่ง
 
ถูกจำเลยที่ 1 ยิงเสียชีวิต และครอบครัวรวม 4 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
 
ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา อายุ 35 ปี อดีต ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ช่วยราชการ
 
ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น จำเลยที่ 1 จ.ส.ต.ปวริศร์ จองพิทักษ์พงศ์ ฝ่ายสืบสวน
 
สน.ประชาชื่น จำเลยที่ 2 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
      
       ตามฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2552 สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2551 เวลา
 
17.00 น. จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้ปืนพกสั้นยิง ส.ต.ชัยวุฒิ โดยเจตนาฆ่าไตร่ตรองไว้
 
ก่อนจนถึงแก่ความตายเนื่องจากจำเลยทั้งสองโกรธเคืองที่ผู้ตายเข้าไปสอบถามเกี่ยว
 
กับการจับกุมพ่อค้าซีดี เพราะผู้ตายเข้าใจว่าพวกจำเลยไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจาก
 
ไม่ได้แต่งเครื่องแบบ และเกิดโต้เถียงกันจนจำเลยทั้งสองไม่พอใจใช้อาวุธยิงผู้ตาย
 
การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการเจตนาฆ่าโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหด
 
ร้าย เหตุเกิดที่แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ จำเลยให้การปฏิเสธ
      
       คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดย
 
เจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ตามมาตรา 289 (4) ไม่ใช่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่และ
 
ป้องกันตัวตามข้อกล่าวอ้างจำเลยที่ 1 และยกฟ้องจำเลยที่ 2 ต่อมา ส.ต.อ.ประสาท
 
จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์สู้คดี
      
       ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วเห็นว่า พยานโจทก์จำนวน 4 ปาก
 
เบิกความสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ใช้
 
อาวุธยิงผู้ตายขณะที่ผู้ตายนั่งคร่อมจักรยานยนต์ โดยอาวุธปืนของผู้ตายยังอยู่ในซอง
 
และเหน็บอยู่เอวของผู้ตายขณะถูกยิง จากนั้นเมื่อผู้ตายล้มลงจำเลยที่ 1 ได้ใช้มือเกี่ยว
 
อาวุธปืนพร้อมซองออกจากเอว และใช้เท้าเขี่ยปืนให้ออกไปพ้นตัวโดยให้ไปอยู่ใกล้มือ
 
ของผู้ตาย ซึ่งโจทก์มีภาพถ่ายยืนยันถึงตำแหน่งอาวุธปืนได้อย่างชัดเจน ข้อเท็จจริงจึง
 
ฟังไม่ได้ว่าผู้ตายไม่ได้ชักปืนชี้ไปยังจำเลยที่ 1 และผู้ตายไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมยิง
 
ต่อสู้ตามที่จำเลยที่ 1 เบิกความไว้ และวัตถุพยานไม่พบกระสุนปืนอยู่รังเพลิง รวมถึง
 
ปืนยังไม่ได้ขึ้นลำในสภาพพร้อมยิง ส่วนข้อเท็จจริงจากบาดแผลพบว่าผู้ตายถูกยิงขณะ
 
นั่งคร่อมรถจักรยานอยู่ แนววิถีกระสุนยิงจากบนลงล่าง นอกจากนี้ คำเบิกความของ
 
จำเลยที่ 1 ยังขัดแย้งกับคำให้การในชั้นสอบสวน จึงมีพิรุธน่าสงสัย แต่การที่จำเลยที่ 1
 
ขึ้นลำปืนไว้ก่อนเรียกให้ผู้ตายหยุดและยิงผู้ตาย เนื่องจากอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
 
ให้ถือว่าเป็นเหตุเร่งด่วนเฉพาะหน้า
      
       ประเด็นต้องวินิจฉัยต่อว่าจำเลยที่ 1 เจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่
 
เห็นว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ได้ปฏิบัติหน้าที่เข้าจับกุมแผงค้าซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ตาม
 
ที่ได้รับมอบหมาย แต่ผู้ตายเข้ามาข่มขู่จำเลยที่ 1 ขณะปฏิบัติหน้าที่ และมีการโต้เถียง
 
กันขึ้นก่อนที่จำเลยที่ 1 จะใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย เมื่อกระทำเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่
 
ปรากฏว่าเป็นการฆ่าโดยการไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นเหตุเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ที่ศาลชั้น
 
ต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่
 
เห็นพ้องด้วย นอกจากนี้ในท้ายบันทึกการจับกุมระบุว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ
 
งานเพื่อประโยชน์มา 17 ปี ไม่เคยกระทำผิด และยังมีผลงานดีเด่น จึงเห็นควรให้
 
ลงโทษสถานเบา จึงพิพากษาแก้ให้ลดโทษจำเลยที่ 1 เหลือจำคุก 20 ปี ในความผิด
 
ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และให้ริบของกลาง ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องศาล
 
อุทธรณ์เห็นพ้องด้วย
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ ส.อ.หญิง นกแก้ว ภรรยาผู้ตาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่
 
ทหารจำนวนกว่า 20 คน ได้เข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดี โดยภายหลัง ส.อ.หญิง นก
 
แก้วเปิดเผยว่า ในตอนนี้ตนยังไม่แน่ใจว่าจะยื่นฎีกาต่อหรือไม่ ต้องขอปรึกษากับสภา
 
ทนายความในเรื่องของกฎหมายก่อนตัดสินใจ
 
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าว/ภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย.....ทีมงาน (ดีโพลมา1325) ดังมีรายนามดังนี้....   
บ.ก.เกรียงไกร   พรเทพ ( บรรณาธิการ )โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ 
อภินันทร์(นามปากกา “อัจฉริยะ”)ปฐมภพ(นามว่า "คนสายกลาง")      
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) สุจิตรา  (นามปากกา “หญิงเหล็ก”) 
กิตกวี (นามปากกา  “clover gens”) (ยังมีต่ออีกมาก)
ตรวจสอบรายชื่อที่เหลือได้ที่โทร.081 - 7713997
ผู้ที่ไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่ผู้สื่อข่าวของเรา
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์  และ dpmnews - dmnnews - diplomanews
และข่าวชมรมนักข่าว2000, และ ข่าวศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก และ
ข่าวชมรมนักข่าวช่วยสังคม..อีเมล์...diplomanews@gmail.com
ติดตามผลงาน“ชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบันได้ใน FACEBOOK
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือนับสิบๆแว๊บไซ้ท์และพันธมิตรสื่อฯอีกนับร้อย
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อดังๆต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์หาคำว่า
“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือคำว่า  “diplomanews”ในสื่อนั้นๆ
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น