ก.ตร.แต่งตั้ง 44 นายพลสีกากี(ดีโพลมา1323)
ผ่านฉลุย ดัน “หลานเขยหญิงอ้อ” นั่ง ผช.ผบ.ตร.
ก.ตร.ผ่าน แต่งตั้ง 44 นายพลตำรวจ ไม่เปลี่ยนบัญชี ผบ.ตร.ประชา ชี้ขาดโหวตแพทย์
ใหญ่ไม่ละเก้าอี้ 9:8 “อนุชัย” นั่ง ภ.4 โยก “กวี” คุม ภ.2 “ปัญญา” คุม ภ.8 ยกคำร้อง
วุฒิ โวยอาวุโส
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 สำนักงาน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 24 กรกฎาคม ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 1 สำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กำกับ ตร.เดิน
ทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2556
มีวาระสำคัญพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายระดับ ผู้บัญชาการ (ผบช.) ถึง รองผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) วาระประจำปี 2556 โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว
ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมประชุมพร้อมหน้า
ขาดเพียง นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ.และ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์
อัยการสูงสุด ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ ส่วน
พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒินั้น อยู่ระหว่างการยื่นร้องศาล
ปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวให้มีสิทธิเข้าประชุมในห้วงการพิจารณาการพ้นสถานภาพ
ก.ตร.รวม ก.ตร.ประชุม 18 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.ต.อ.ประชา เดินทางมาถึง ตร.ได้ปิดห้องรับรอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พล.ต.อ.ประชา เดินทางมาถึง ตร.ได้ปิดห้องรับรอง
หารือเป็นการส่วนตัวกับ พล.ต.อ.อดุลย์ เป็นการส่วนตัว นานกว่า 30 นาที ก่อนการ
ประชุม ก.ตร.จะเริ่มขึ้นในเวลา 11.00 น.ก่อนมีการพักรับประทานอาหารในเวลา 12.00
น.และเริ่มประชุมอีกครั้งในเวลา 13.20 น.ซึ่งในช่วงบ่ายนี้เองเริ่มต้นการพิจารณาแต่ง
ตั้งโยกย้าย เสร็จสิ้นในเวลา 14.35 น.รวมเวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที
จากนั้นเวลา 14.50 น.พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล
จากนั้นเวลา 14.50 น.พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล
ในฐานะโฆษกตร.แถลงว่า วันนี้มีวาระสำคัญ 3 เรื่อง เรื่องแรก ก.ตร.รับรองรูปแบบการ
ให้สิทธิทวีคูณสำหรับตำรวจที่ปฏิบัติงานในสังกัด ศชต.ตามแบบเดิม คือมีมติให้นับสิทธิ
นับแต่วันที่มีสิทธิ จนถึงวันที่ประชุมคณะกรรมการรับรองทวีคูณ ซึ่งเป็นไปตามหลัก
เกณฑ์เดิม โดย ก.ตร.ไม่รับรูปแบบการนับตามที่ ศชต.เสนอ ที่ว่าให้สิทธิทวีคูณตั้งแต่
วันเริ่มนับสิทธิ จนถึงวันสิ้นปีงบประมาณ 30 ก.ย.โดยให้เหตุผลว่าเพราะเป็นแนวทาง
เดิมที่ทำมาอยู่แล้ว และไม่สามารถนับล่วงหน้าได้ เรื่องที่ 2.กรณีที่ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปต
พัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) ร้องทุกข์กรณีการจัดลำดับอาวุโส โดย ก.ตร.รับคำร้องทุกข์
แต่พิจารณายกคำร้อง เพราะถือว่าเรื่องเกณฑ์การนับอาวุโสพิจารณามาก่อนแล้ว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับวาระการแต่งตั้งมีการพิจารณาอนมุติทั้งสิ้น 44
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับวาระการแต่งตั้งมีการพิจารณาอนมุติทั้งสิ้น 44
ตำแหน่ง แบ่งเป็นที่ปรึกษา (สบ10) หมุน เป็นรอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ 3 ตำแหน่ง เลื่อนผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ10) และ นรป.5 ตำแหน่ง เลื่อน ผบช.ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร.11 ตำแหน่งผบช.หมุนเวียนระดับ ผบช.9 ตำแหน่ง และ รอง ผบช.ขึ้น ผบช.16 ตำแหน่ง ที่ประชุมพิจารณาไล่ทีละตำแหน่ง มีการสอบถามเหตุผลคณะกรรมการกลั่นกรองชี้แจงทีละราย ถกกันทุกตำแหน่ง บางตำแหน่งลงคะแนนเสียงเป็นไปด้วยดี สรุปผลเป็นไปตามคณะกรรมการคัดเลือกเสนอทุกราย และรับรองให้นำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ ต่อไป
โฆษก ตร.กล่าวว่า มีการโหวตกรณีตำแหน่งระดับ ผบช.ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร.ผลออก
โฆษก ตร.กล่าวว่า มีการโหวตกรณีตำแหน่งระดับ ผบช.ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร.ผลออก
มาว่าเหมาะสมอยู่ในตำแหน่งเดิม โดยกรณีที่ พล.ต.ต.นพ.ณรงค์ศักดิ์ เสาวคนธ์ รอง
พตร.ยื่นร้องต่อ ก.ตร.กรณี พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวน์เจนพงศ์ พตร.ไม่ขอเลื่อน
ตำแหน่งเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ทั้งที่อาวุโสสูงสุด ต้องเลื่อนขึ้นตามกฎ ก.ตร.โดยประธาน
ก.ตร.หยิบเรื่องนี้มาหารือนำมาซึ่งการโหวตและมีการพิจารณาโหวตผู้ที่เหมาะสมดำรง
ตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) ซึ่งมติ ก.ตร.ให้
เป็นไปตามที่ ผบ.ตร.เสนอ สำหรับตำแหน่งที่ปรึกษา รพ.ตร.(สบ8) นั้น ที่ไม่มีการแต่ง
ตั้ง เพราะเป็นตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ผ่าตัด และการแพทย์ทางยา จึงไม่มีผู้
มีคุณสมบัติเหมาะสม ส่วนตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจนั้น ยังไม่มีการ
เสนอชื่อเข้าใน ก.ตร.ต้องรอการพิจารณาของสภาการศึกษา รร.นรต.ที่จะมีขึ้นในช่วง
ปลายเดือนนี้เสียก่อน ส่วนตำแหน่งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีการพูดถึงใน ก.ตร.
มีรายงานว่าสำหรับตำแหน่งที่มีการถกเถียงจนถึงขั้นมีการโหวตคือ กรณี 3
มีรายงานว่าสำหรับตำแหน่งที่มีการถกเถียงจนถึงขั้นมีการโหวตคือ กรณี 3
ตำแหน่ง คือ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ10) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 30
(นรต.30) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) นรต.30 เป็นรอง ผบ.ตร.
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา (สบ10) นรต.35 ขยับเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น
จเรตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ตำแหน่งว่าง 5 ตำแหน่ง ให้ พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อมาตยกุล
รองหัวหน้านายตำรวจราชสำนักประจำ (สบ9) (รอง หน.นรป.) เป็น หน.นรป.(สบ10)
พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี พล.ต.ท.อุดม รักศิลธรรม
พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ10)
ในตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่าที่ว่าง 11 ตำแหน่งนั้น บอร์ดกลั่น
ในตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่าที่ว่าง 11 ตำแหน่งนั้น บอร์ดกลั่น
กรองมีมติให้ พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ. พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผบช.รร.นรต.
พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ จตร.
(สบ8) พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผบช.สง.ก.ตร. พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ จตร.(สบ8)
พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ จตร.(สบ8) และ
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์
กุล จตร.(สบ8) นรต.รุ่น 34 สายตรง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร
ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ขึ้นเป็นรอง จตช.(สบ9) และ พล.ต.ต.เจษฎา
อินทรสถิตย์ ผบช.สง.นรป.(สบ8) ขึ้นเป็นรอง หน.นรป.(สบ9)
สำหรับระดับ ผบช. พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รอง ผบช.ภ.7 เป็น จตร.(สบ8)
สำหรับระดับ ผบช. พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รอง ผบช.ภ.7 เป็น จตร.(สบ8)
พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข รอง ผบช.ภ.9 เป็น จตร.(สบ8) โยก พล.ต.ท.วัฒนา สักวัตร
ผบช.กมค.เป็น หัวหน้า จตร.(สบ8) พล.ต.ท.จุตติ ธรรมโนวานิช ผบช.ประจำสำนักงาน
ผบ.ตร.ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน เป็นผบช.กมค. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา
รอง ผบช.น.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าทีี่เชี่ยวชาญด้านสืบสวน พล.ต.ต.อนันต์ ศรี
หิรัญ รอง ผบช.สพฐ.ตร.ขึ้นเป็น ผบช.สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญ
บูรณะ นรป.(สบ8) ขยับเข้าไลน์หลักเป็น ผบช.สง.นรป.โดยมี พล.ต.ต.ดุสิต สังขะเมฆะ
นรป.(สบ7) ขึ้นเป็น นรป.(สบ8) พล.ต.ต.พนมศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบช.ประจำ
สง.ผบ.ตร.(ทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านการข่าว) ขึ้นเป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.ปิยะ สอน
ตระกูล รอง ผบช.ภ.1 อาวุโสอันดับ 6 ได้รับความไว้วางใจให้เป็น ผบช.สกบ.
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 โยกเป็น ผบช.ภ.2 โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 โยกเป็น ผบช.ภ.2 โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง
รอง ผบช.น. นรต.28 มือทำคดีเสื้อแดง ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.วิชาญ ทองประชาญ
รอง ผบช.สง.กตร.ขึ้นเป็น ผบช.สง.กตร. พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร จตร.(สบ8) เป็น
ผบช.ภ.6 โดย พล.ต.ต.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รอง ผบช.ศชต.ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)
แทน พล.ต.ต.ศักดา ชื่นภักดี รอง ผบช.สตม.ขึ้นเป็นจตร.(สบ8) พล.ต.ต.ทวีชัย วิริยะ
โกศล รอง ผบช.สกบ.เป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.อรรถชัย เกิดมงคล รอง ผบช.ตชด.ขึ้น
เป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส.ขึ้นเป็น ผบช.ปส. พล.ต.ท.ธีระ
ศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ทำหน้าทีี่บริหารงานด้านป้องกัน เป็น ผบช.ภ.3
โดยมี พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชุม รอง ผบช.ศชต.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.แทน
พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ภ.8 เป็น ผบช.ศชต. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น
ผบช.สพฐ.ตร.เป็นผบช.ภ.8 พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว จตร.(สบ8) เป็น
ผบช.สพฐ.ตร.แทน พล.ต.ต.กฤษฎิ์ศักดิ์ วิชชารยะ รอง ผบช.ส.ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)
ส่วนตำแหน่งที่ไม่มีการเสนอเปลี่ยนแปลงในการแต่งตั้งครั้งนี้ คือ พล.ต.ท.คำรณ
ส่วนตำแหน่งที่ไม่มีการเสนอเปลี่ยนแปลงในการแต่งตั้งครั้งนี้ คือ พล.ต.ท.คำรณ
วิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา
ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผบช.ภ.9
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก. พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.
พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผบช.ส. พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผบช.สทส. พล.ต.ท.สุ
วินะ ทรงเมตตา ผบช.ศ. พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญญา ผบช.สงป. พล.ต.ท.สุชีพ
หนูนาง ผบช.สตส.@@@ที่ พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวน์เจนพงศ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตร.ที่ไม่
ขอขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.โดย ก.ตร.18 คน งดออกเสียง 1 คน คะแนนเสียงเป็น 8 ต่อ 8
ก่อนที่ประธาน ก.ตร.จะโหวตตัดสินเห็นชอบตาม ผบ.ตร.เสนอคือให้แพทย์ใหญ่อยู่ใน
ตำแหน่งเดิม นอกจากนี้ยังมีการโหวตกรณีวางตัว พล.ต.ต.อนันต์ สรีหิรัญ รอง
ผบช.สพฐ.ตร.เป็น ผบช.สยส.ตร.โดยมีการเสนอว่าควรขึ้นเป็น ผบช.สพฐ.ตร.มากกว่า
แต่เมื่อมีการโหวตก็มีมติ 10 ต่อ 8 ควรให้ พล.ต.ต.อนันต์ ขึ้นในตำแหน่ง
ผบช.สยส.ตร.ตามที่ ผบ.ตร.เสนอ
สำหรับรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาโดย ก.ตร.ดังนี้ 3 ตำแหน่ง คือ พล.ต.อ.รชต
สำหรับรายชื่อที่ผ่านการพิจารณาโดย ก.ตร.ดังนี้ 3 ตำแหน่ง คือ พล.ต.อ.รชต
เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ10) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 30 (นรต.30) พล.ต.อ.ชัชวาล
ย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) นรต.30 เป็นรอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวร
ขาน ที่ปรึกษา (สบ10) นรต.35 ขยับเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ ขณะที่
ตำแหน่งว่าง 5 ตำแหน่ง ให้ พล.ต.ท.ไตรรัตน์ อมาตยกุล รองหัวหน้านายตำรวจราช
สำนักประจำ (สบ9) (รอง หน.นรป.) เป็น หน.นรป.(สบ10) พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี พล.ต.ท.อุดม รักศิลธรรม พล.ต.ท.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ผู้ช่วย
ผบ.ตร.ขึ้นเป็นที่ปรึกษา (สบ10)
ในตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่าที่ว่าง 11 ตำแหน่งนั้น บอร์ดกลั่น
ในตำแหน่งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.และเทียบเท่าที่ว่าง 11 ตำแหน่งนั้น บอร์ดกลั่น
กรองมีมติให้ พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผบช.สกบ. พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผบช.รร.นรต.
พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ จตร.
(สบ8) พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผบช.สง.ก.ตร. พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ จตร.(สบ8)
พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 พล.ต.ท.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ จตร.(สบ8) และ
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 เลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธ์
กุล จตร.(สบ8) นรต.รุ่น 34 ขึ้นเป็นรอง จตช.(สบ9) และ พล.ต.ต.เจษฎา อินทรสถิตย์
ผบช.สง.นรป.(สบ8) ขึ้นเป็นรอง หน.นรป.(สบ9) ทั้งนี้การแต่งตั้งระดับนี้เป็นไปตาม
อาวุโส แต่เนื่องจาก พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงศ์ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร.และ
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก.ขออยู่ตำแหน่งเดิม แม้จะมีอาวุโสสูงก็ตาม จึงมี
การขยับ พล.ต.ท.วินัย และพล.ต.ท.พันธ์ศักดิ์ เลื่อนขึ้นแทนตามความเหมาะสม ซึ่ง
ประเด็นนี้เองประธานบอร์ดกลั่นกรองตั้งข้อสังเกตถึงการไม่เลื่อนตำแหน่งขึ้นของ
พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ ทั้งที่มีอาวุโสอันดับที่ 1 และอยู่ในตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่มา 4
ปีแล้ว ซึ่งใช้เวลาอภิปรายกันนานจึงจะให้ผ่านในที่สุด
สำหรับระดับ ผบช.มีเก้าอี้ว่างจากการเกษียณอายุราชการและเลื่อนตำแหน่งขึ้น
สำหรับระดับ ผบช.มีเก้าอี้ว่างจากการเกษียณอายุราชการและเลื่อนตำแหน่งขึ้น
19 ตำแหน่ง และโยกย้ายสับเปลี่ยนดังนี้ พล.ต.ท.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รอง ผบช.ภ.7
เป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข รอง ผบช.ภ.9 เป็น จตร.(สบ8) โยก
พล.ต.ท.วัฒนา สักวัตร ผบช.กมค.เป็น หัวหน้า จตร.(สบ8) พล.ต.ท.จุตติ ธรรมโน
วานิช ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร.ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน เป็นผบช.กมค.
พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าที่เชี่ยวชาญด้าน
สืบสวน พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช.สพฐ.ตร.ขึ้นเป็น ผบช.สำนักยุทธศาสตร์
ตำรวจ พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ นรป.(สบ8) ขยับเข้าไลน์หลักเป็น
ผบช.สง.นรป.โดยมี พล.ต.ต.ดุสิต สังขะเมฆะ นรป.(สบ7) ขึ้นเป็น นรป.(สบ8)
พล.ต.ต.พนมศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.(ทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านการ
ข่าว) ขึ้นเป็น จตร.(สบ8) พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภ.1 อาวุโสอันดับ 6 ได้
รับความไว้วางใจให้เป็น ผบช.สกบ.
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 โยกเป็น ผบช.ภ.2 โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง
พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.4 โยกเป็น ผบช.ภ.2 โดย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง
รอง ผบช.น. นรต.28 มือทำคดีเสื้อแดง ขึ้นเป็น ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.วิชาญ ทองประชาญ
รอง ผบช.สง.กตร.ขึ้นเป็น ผบช.สง.กตร. พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร จตร.(สบ8) เป็น
ผบช.ภ.6 โดย พล.ต.ต.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รอง ผบช.ศชต.ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)
แทน พล.ต.ต.ศักดา ชื่นภักดี รอง ผบช.สตม.ขึ้นเป็นจตร.(สบ8) พล.ต.ต.ทวีชัย วิริยะ
โกศล รอง ผบช.สกบ.เป็น จตร.(สบ8)
พล.ต.ต.อรรถชัย เกิดมงคล รอง ผบช.ตชด.ขึ้นเป็น ผบช.ตชด. พล.ต.ต.สุรพล
ทวนทอง รองผบช.ปส.ขึ้นเป็น ผบช.ปส. พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ประจำ
สง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารงานด้านป้องกัน เป็น ผบช.ภ.3 โดยมี พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญ
ชุม รอง ผบช.ศชต.ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.แทน พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช
ผบช.ภ.8 เป็น ผบช.ศชต. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.สพฐ.ตร.เป็น ผบช.ภ.8
พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว จตร.(สบ8) เป็น ผบช.สพฐ.ตร.แทน พล.ต.ต.กฤษฎิ์ศักดิ์
วิชชารยะ รอง ผบช.ส.ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)
ขอขอบพระคุณข้อมูลข่าว/ภาพจากผู้มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
รายงานข่าวโดย.....ทีมงาน (ดีโพลมา1323) ดังมีรายนามดังนี้....
บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ ( บรรณาธิการ )โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ
อภินันทร์(นามปากกา “อัจฉริยะ”)ปฐมภพ(นามว่า "คนสายกลาง")
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) สุจิตรา (นามปากกา “หญิงเหล็ก”)
กิตกวี (นามปากกา “clover gens”) (ยังมีต่ออีกมาก)
ตรวจสอบรายชื่อที่เหลือได้ที่โทร.081 - 7713997
ผู้ที่ไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่ผู้สื่อข่าวของเรา
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews - dmnnews - diplomanews
และข่าวชมรมนักข่าว2000, และ ข่าวศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก และ
ข่าวชมรมนักข่าวช่วยสังคม..อีเมล์...diplomanews@gmail.com
ติดตามผลงาน“ชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบันได้ใน FACEBOOK
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือนับสิบๆแว๊บไซ้ท์และพันธมิตรสื่อฯอีกนับร้อย
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อดังๆต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์หาคำว่า
“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือคำว่า “diplomanews”ในสื่อนั้นๆ
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น