วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

'นิรโทษวรชัยชื่อเดียวกฎหมายก็ตกแล้ว'(ดีโพลมา1435)

'นิรโทษวรชัยชื่อเดียวกฎหมายก็ตกแล้ว' (ดีโพลมา1435) :                               

 เกาะติด พ.ร.บ.นิรโทษกรรม               


ถ่ายทอดจากบทความของ.......   สมถวิล  เทพสวัสดิ์ @somthawin_kcl 


 การประชุม "คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด

เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ...." นัดล่าสุดได้ขอ

ให้ 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานป้องกันและ

ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, กรมราชทัณฑ์, กระทรวงยุติธรรม, อัยการสูงสุด, กรมคุ้มครองสิทธิ

เสรีภาพ ส่งข้อมูลเกี่ยวกับคดีการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 19 กันยายน 2549-10 พฤษภาคม 2554 

มาให้สภา เพื่อส่งต่อคณะกรรมาธิการ

              โดยให้ 7 หน่วยงานนำรายละเอียดของคดีส่งมอบทั้งหมด เพื่อจะได้ทราบว่าคนตกเป็น

จำเลย ผู้ต้องหา มีกี่คน ชื่ออะไรบ้าง อยู่ศาลไหน คดีดำเลขอะไร ใครเป็นโจทก์ ข้อหาอะไร พร้อมให้

ถ่ายสำเนาศาลมาประกอบ

              ทำให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้น่าจับตาเป็นพิเศษ เพราะหากพบว่าผู้ต้องหาในช่วงเวลาดังกล่าวมีชื่อ

ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อเสนอกฎหมายฉบับนี้ด้วยอาจจะทำให้กฎหมายฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญเรื่องผลประโยชน์

ทับซ้อน โดยเฉพาะมาตรา 122 ที่ระบุว่า "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้


แทนปวงชนชาวไทย โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ และต้อง

ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัด

กันแห่งผลประโยชน์"

              เกี่ยวกับเรื่องนี้ "บุญจง วงศ์ไตรรัตน์" ส.ส.นครราชสีมา รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ

กรรมาธิการ บอกว่า กฎหมายฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะคนเสนอกฎหมายตกเป็นผู้กระทำความผิดใน

ช่วงเหตุการณ์ชุมุนมทางการเมือง ดูจากรายชื่อผู้เสนอกฎหมายที่ตกเป็นผู้ต้องหาเช่น นายวรชัย เหมะ 

ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จากคดีล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่พัทยา, นายก่อแก้ว พิกุล

ทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาในคดีก่อการร้าย ส่วนที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าวว่าการยื่นเสนอ

กฎหมายเป็นการยื่นในฐานะทำหน้าที่ส.ส.ไม่ใช่ฐานะ "ผู้ก่อการร้าย" ในเรื่องนี้ "บุญจง" บอกว่า ถ้าจะ

ตีความแบบนั้นก็เป็นสิทธิ แต่กฎหมายสูงสุดของประเทศได้ระบุไว้ชัดเจน พูดอย่างไรก็เข้าข่ายมาตรา 

122 ขัดรัฐธรรมนูญ 100%

              "ส่วนตัวคิดว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ใช้ เพราะไปเสนอกฎหมายเพื่อทำลายระบบศาล คำ

พิพากษาของศาลจะจบก็เพราะคำพิพากษาของศาล ไม่ใช่สภาไปออกกฎหมายยกเลิกความผิด เว้น

ศาลตัดสินแล้ว และมีการติดคุกจึงค่อยออกกฎหมายนิรโทษภายหลัง"

              มีกรรมาธิการบางคนในห้องประชุมระบุว่าในอดีตเคยทำกฎหมายนิรโทษกรรมมาแล้วทำไม

ครั้งนี้จะทำไม่ได้  "รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย" กล่าวว่า คนละประเด็น คำว่านิรโทษกรรมต้องรอให้

กระบวนการยุติธรรมเดินจนสิ้นสุดก่อน เช่น ผิดชุมนุมทางการเมือง ตำรวจจับ อัยการฟ้อง ศาลตัดสินจำ

คุก 2 ปี จากนั้นจึงมาเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้

              "การเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ต่างจากในอดีต เพราะหลายคดีอยู่ในกระบวนการของ

ตำรวจ  ศาล แล้วมาออกกฎหมายยกเลิกความผิดทั้งหมดถือว่าไม่ใช่ จึงเชื่อว่าสุดท้ายพ.ร.บ.ฉบับนี้จะ

ถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแน่นอน การขอข้อมูลไปที่ 7 หน่วยงานจะได้คำตอบทันทีว่าส.ส.ใน

สภาที่ร่วมลงชื่อเสนอกฎหมายและตกเป็นผู้ต้องหามีอยู่กี่คน ผมถามคุณวรชัย ซึ่งเขาก็ยอมรับในห้อง

ประชุมว่าตัวเองตกเป็นจำเลยในคดีล้มการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยาและยังมีส.ส.อีกหลายคนที่ร่วม

โหวต ผมจึงบอกว่ากฎหมายฉบับนี้แค่นิรโทษชื่อคุณวรชัยคนเดียวกฎหมายก็ตกแล้ว เชื่อว่ายังมีส.ส.ที่มี

ส่วนได้เสียอีกหลายคน แต่ไม่อยากคิดไปเองรอการยืนยันจากสำเนา 7 หน่วยงานชัดเจนกว่า"

              ส่วนการอ้างโดยนำไปเทียบเคียงกับอภัยโทษ "บุญจง" กล่าวว่า การอภัยโทษ กับนิรโทษ

กรรมคนละเรื่อง การอภัยโทษเกิดขึ้นได้เมื่อคดีนั้นๆ เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว จำเลยติดคุกแล้ว หน่วย

งานของรัฐเห็นว่าจำเลยประพฤติดี จึงทำเรื่องเสนอในวโรกาสสำคัญของสถาบัน ต่างจากนิรโทษกรรม

ที่กำลังทำอยู่ "บุญจง" มองไม่เห็นข้อดีของการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายอยู่

แล้ว ถ้าประเทศไทยปล่อยให้มีกฎหมายนิรโทษกรรมในลักษณะนี้ออกมาจะทำเกิดปัญหาถือเป็นการ

ทำลายระบบกฎหมายบ้านเมือง และจะเป็นบรรทัดฐานหากสังคมไม่พอใจรัฐบาลก็จะชุมนุมทำฝ่าฝืน

กฎหมายเกิดการเลียนแบบ

              "ถ้ากฎหมายลักษณะนี้เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ต่อไปประเทศเราจะไม่เหลืออะไรเลย เวลาสู้

กันทำลายให้หมด เมื่อได้อำนาจรัฐ ก็เสนอกฎหมายล้างผิด ประเทศจะเหลืออะไร ถ้าต่อไปรัฐบาลแก้ไข

ปัญหาไม่ได้ ก็ชุมนุม ไม่ยอมก็เผา กดดันทุกรูปแบบ บ้านเมืองวุ่นวายแน่ วิธีปรองดองที่สุดในวันนี้คือ

ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้าแน่ใจตัวเองบริสุทธิ์ก็หลุด ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายลักษณะ

นี้" สำหรับข้อถกเถียงเรื่องกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ "กรรมาธิการ สัดส่วน

พรรคภูมิใจไทย" กล่าวว่า คนรู้กฎหมายจะเห็นชัดเจนว่าพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้เป็นกฎหมายการเงิน

แน่นอน โดยเฉพาะมาตรา 4 ระบุชัด อยู่ชั้นตำรวจต้องหยุดการสอบสวน อยู่ชั้นอัยการหยุดฟ้อง อยู่ชั้น

ศาลต้องจำหน่ายคดี อยู่ราชทัณฑ์ต้องปล่อยตัว และลบประวัติไม่เคยกระทำความผิด ดังนั้นทุกคดีใน

ช่วงเวลา 19 กันยายน 2549-10 พฤษภาคม 2554 ผู้ที่เคยทำผิดไม่มีความผิด เมื่อพ้นผิดต้องคืนเงิน 

การคืนเงินต้องถือว่าเป็นกฎหมายการเงิน พ.ร.บ.ฉบับนี้มีจุดให้ยื่นตีความมากมาย ไม่ใช่เรื่องง่าย

ขอขอบคุณที่มาของข่าว/ภาพจากผู้ที่มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
http://www.komchadluek.net/detail/20130916/168317/                                                            
ทีมงาน น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา1435) มีรายนามดังนี้....   
บ.ก.เกรียงไกร   พรเทพ ( บรรณาธิการ )โทร.081 – 7713997
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ 
อภินันทร์(นามปากกา อัจฉริยะ)ปฐมภพ(นามว่า "คนสายกลาง")      
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) สุจิตรา  (นามปากกา หญิงเหล็ก) 
กิตกวี (นามปากกา  “clover gens”) (ยังมีต่ออีกมาก)
ตรวจสอบรายชื่อที่เหลือได้ที่โทร.081 - 7713997
ผู้ที่ไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่ผู้สื่อข่าวของเรา
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์  และ dpmnews - dmnnews - diplomanews
และข่าวชมรมนักข่าว2000, และ ข่าวศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก และ
ข่าวชมรมนักข่าวช่วยสังคม..อีเมล์...diplomanews@gmail.com
ติดตามผลงานชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบันได้ใน FACEBOOK
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือนับสิบๆแว๊บไซ้ท์และพันธมิตรสื่อฯอีกนับร้อย
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อดังๆต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์หาคำว่า
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ หรือคำว่า  “diplomanews”ในสื่อนั้นๆ
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น