“สุเทพ” ปูดออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเช็กบิลชาวนา (ดีโพลมา1733)
แนะได้เงินจำนำข้าวเร็วต้องช่วยไล่ “ปู”
เลขาธิการ กปปส.ชี้รัฐบาลรักษาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ชอบธรรม อีกทั้งใช้งบพิเศษไม่ได้ เตือนทำตามคำสั่งระวังจะติดคุก ชี้บ้านเมืองสงบง่ายนิดเดียว เลิกใช้สมุนทำร้าย กังขาจะเอาไว้ปราบใคร เผยชาวนาโทร.ถาม คาดเล่นงานฝ่ายประท้วงรัฐชักดาบจำนำข้าว ฝากอย่าไว้ใจรัฐบาล อยากได้เงินเร็วให้มาช่วย สัญญาอีกครั้งใช้หนี้ให้แน่ พรุ่งนี้เดินย่านสุขุมวิท เพลินจิต
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่สี่แยกปทุมวัน เมื่อเวลา 19.10 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อใช้อำนาจตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ต้องมีสถานการณ์ฉุกเฉินให้ปรากฏเห็นเสียก่อน แต่กลับไม่มี ซึ่งไม่ชอบธรรม เพราะผู้ชุมนุม 2 เดือน 22 วัน ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดเรื่องร้ายแรงในบ้านเมือง ชุมนุมโดยสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ ชุมนุมแบบอหิงสา สู้กับรัฐบาลทรราช เพราะเป็นสิทธิของพลเมือง ของประชาชนเจ้าของประเทศ เมื่อรัฐบาลเป็นเผด็จการ ใช้อำนาจไม่ฟังเสียงประชาชน ทุจริตคอร์รัปชัน เป็นสิทธิของประชาชนที่ลุกขึ้นต่อสู้ตามหลักการ และกฎหมายรับรองสิทธิเสรีภาพ สมควรที่จะได้รับความคุ้มครอง แต่ผู้รักษากฎหมายในขณะนี้เป็นโจรห้าร้อย เป็นผู้ก่อการร้ายมาก่อน จึงไม่ทำหน้าที่ ตรงกันข้ามยังสมคบคิดเอาระเบิดปิงป้องขว้าง ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิง ขว้างระเบิดสังหารใส่ประชาชน ข่มขวัญข่มขู่ผู้ชุมนุม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเสียหาย ถ้าอยากจะแก้สถานการณ์นี้ง่ายนิดเดียว คือ เลิกใช้สมุนบริวารทำร้าย หรือเมื่อมีคนมาก่อเหตุร้ายสามารถใช้กฎหมายปกติ หาพยานหลักฐานจับกุมดำเนินคดี หรือไม่ตำรวจก็ตั้งด่านตรวจทั่วกรุงเทพฯ แต่กลับไม่ทำเพราะเป็นพวกเดียวกันจึงไม่จับ
ทั้งนี้ คนที่ได้รับอันตรายจากระเบิด มีทั้งผู้สูงอายุ สุภาพสตรี ที่ตั้งใจมาด้วยบริสุทธิ์ ไม่ได้มารบราฆ่าฟันใคร แต่กลับถูกระเบิดใส่ ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นแล้ว ถือโอกาส ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อมาจัดการกับผู้ชุมนุม ตนเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้อง จะต้องมีการดำเนินคดีในเรื่องนี้ ประการต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม วันนี้ไม่มีสภาพเป็นรัฐบาลอีกแล้ว หมดความชอบธรรมตามกฎหมาย เพราะไม่เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ บังอาจแสดงพฤติกรรมในรัฐสภาโดยไม่เคารพหลักนิติธรรม บังอาจเอากฎหมายล้างผิด นิรโทษกรรมให้คนทุจริตคอร์รัปชันที่ศาลลงโทษแล้ว ให้คนที่ฆ่าตำรวจ ทหาร ประชาชน ปล้นทรัพย์ เผาทรัพย์สินประชาชนและราชการ ไม่มีประเทศไหนหรือรัฐบาลไหนทำ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เท่ากับไม่เคารพรัฐธรรมนูญ จึงหมดความชอบธรรมทางกฎหมาย และทางการเมือง เพราะฉะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี จึงเป็นแก๊งเถื่อนแก๊งหนึ่งอยู่นอกกฎหมาย จึงไม่มีสิทธิ์ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ประการที่สาม ถ้ายังดื้อด้าน อ้างว่ายังไม่มีรัฐบาลใหม่ ต้องรักษาการอยู่ต่อไป ไปไหนไม่ได้ ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญมาตรา 181 กำหนดไว้ชัดเจน การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผิดซ้ำไปอีก ถือเป็นโมฆะ ไม่มีความหมาย บังคับไม่ได้ ใครก็ตามที่ไปตามคำสั่งนี้ ก็ต้องรับผิดติดตัวกันไปทุกคน
อีกประการหนึ่ง รัฐธรรมนูญระบุว่า การเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี จะสั่งจ่ายงบประมาณที่นอกเหนือจากงบประมาณปกติทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้ง ศรส.แล้วให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เจ้าหน้าที่ที่จะต้องมาปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ซึ่งไม่ได้มี พ.ร.บ.งบประมาณที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมา เพราะฉะนั้นรัฐบาลสั่งจ่ายไม่ได้ จ่ายเมื่อไหร่ผิดกฎหมายเมื่อนั้น ที่ทำมาทั้งหมดเถื่อนทั้งนั้น ไม่มีความชอบธรรมทางกฎหมาย ซึ่งก็จะมีคนไปดำเนินการตามกฎหมาย ตนขอเตือนเจ้าหน้าที่ว่า คำสั่งที่ออกโดย ศรส.ก็จะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ติดคุกได้ทุกคน ถ้าคนไหนบังอาจมาสลายการชุมนุม ใช้กำลังกับประชาชน ประชาชนจะฟ้องร้องดำเนินคดี กรณีนี้ต้องยกย่อง ชมเชยทหาร เพราะไม่ยอมร่วมสังฆกรรม รัฐบาลพยายามจะใช้กฎหมายฉบับนี้มานาน เพื่อเอากำลังมาเล่นงานผู้ชุมนุมนานแล้ว แต่ทหารไม่เห็นด้วย เพราะเราชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ทหารจึงไม่เล่นด้วย ศรส.จึงไม่มีทหารเข้าร่วมงานแม้แต่คนเดียว ส่วนปลัดกระทรวงกลาโหมไม่นับ ได้ดิบได้ดีมาเพราะสอพลอทักษิณ ไม่นับเป็นทหารอีกแล้ว เช่นเดียวกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ชุมนุมชุมนุมโดยสงบ ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเพราะคนที่อยู่ข้างรัฐบาล ซึ่งฝึกมาอย่างดี ตอนนี้มีฝ่ายประชาชนกับพวกยิ่งลักษณ์ ต้องเป็นฝ่ายนั้นแน่นอน ในปี 2553 ผู้ก่อเหตุฆ่าตำรวจ ฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน เป็นคนชุดดำ สมัยนายธาริตทำงานกับตนเป็นคนทำสำนวนทั้งหมด คนที่ก่อการร้ายมีอยู่ 3 พวก คือ พรรคเพื่อไทย นปช.และคนชุดดำ ที่ทำได้เพราะทักษิณจ้างมาให้กระทำ สำนวนนี้อยู่ในศาลแล้ว เพราะส่งฟ้องผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายแล้ว แกนนำ นปช.เป็นจำเลยทั้งนั้น แต่เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นำตัว นายณัฐวุฒิ มาเป็นรัฐบาล บ้านเมืองจึงวิบัติขนาดนี้ ผบ.หน่วยซีลจึงได้บอกว่า คนชุดดำในปีนี้ กับปี 2553 คือพวกเดียวกัน ตนจึงสรุปว่าในที่สุด พรรคเพื่อไทย และพวกรัฐบาลนี่เองที่มาก่อเหตุความวุ่นวายในบ้านเมือง และปี 2553 เอาเขมรมาก่อเหตุ ปีนี้เอามาแล้ว 10 คันรถตู้ ทหารกำลังค้นหาอยู่ เจอเมื่อไหร่เสร็จเมื่อนั้น ยิ่งลักษณ์เอามาใช้จัดการประชาชน เพราะฉะนั้น ผิดกฎหมาย ทหารจึงไม่มา เพราะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่เป็นขี้ข้าเหมือน ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งมีแค่นายตำรวจที่เกษียณแล้วอย่าง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ถ้าคิดจะทำอะไรที่ไม่ดีอย่าทำ อยากเกษียณอายุอย่างมีความสุขก็อยู่เฉยๆ ดีกว่า
วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม คึกมาก จะใช้อำนาจจัดการประชุมที่กระทรวงแรงงาน ปรากฏว่าผู้ชุมนุมจากเวทีอโศก ราชประสงค์ ไปเยี่ยมกระทรวงแรงงานมาเรียบร้อย ไปตั้งเวทีหน้ากระทรวงแรงงาน เรียก ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาว่าตั้งศูนย์นี้จะมาปราบใคร ครึ่งวันไม่โผล่หน้ามาเลย นายธาริตก็ติดอยู่กับ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่กล้าออกมาชี้แจง ประชาชนไม่ได้บุกเข้าไปในกระทรวง กวักมือเรียก ไม่มา แต่ตนบอกผู้ชุมนุมว่าอย่าเสี่ยง จึงให้กลับมา นอกจากนี้ อยู่ๆ ไฟดับขึ้นมา โดยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร ถ้ายังบังอาจดื้อดึงวันหลังจะเจอหนักกว่านี้ เพราะประชาชนสงสัยว่าที่ประกาศ พ.ร.ฉุกเฉิน ตั้ง ศรส.ขึ้นมา จะเอาไว้ปราบใคร จะปราบพวกเราหรือเปล่าให้บอกมาจะได้รู้ แล้วถามกลับว่าจะปราบอย่างไร ตำรวจเขาไม่เอาแน่ โดยเฉพาะตำรวจปักษ์ใต้ไม่เอาแล้ว ถ้าจะเอาทหารก็ไม่เล่นด้วย เหลือไม่เท่าไหร่แล้ว ถ้าจะสลายการชุมนุม ตนขอถาม ร.ต.อ.เฉลิม ว่า เอาแน่หรือเปล่า จะได้ตั้งหลักสวดมนต์ จะเอาพวกตนไปคุกจะพอขังหรือไม่ หากใช้ความรุนแรงจะอัดคลิปวิดีโอเผยแพร่ไปทั่วโลก และฟ้องทุกศาลจนถึงศาลโลก
แต่ตนสงสัยว่ามีตัวแทนชาวนาโทรศัพท์มาว่าจะเล่นงานตนหรือชาวนากันแน่ ตอนนี้ชาวนาสงสัย เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ชักดาบชาวนา ไม่จ่ายค่าข้าว จำนำข้าวแล้วแต่ออกใบประทวนเอาไว้ เงินไม่จ่าย 5-6 เดือน เขาทนไม่ได้ เขาปิดถนน ปิดศาลากลางภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่างแล้ว ชาวนาจึงข้องใจว่า ตนชุมนุมมา 2 เดือนแล้ว ไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่พอชาวนาเคลื่อนไหวกลับประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนจึงฝากไปถึงชาวนาว่า ขอให้อย่าไว้ใจรัฐบาล ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจจะตั้งใจไปเล่นงานชาวนาตามที่ถามก็ได้ ก็เตรียมสวดมนต์เหมือนพวกตนเหมือนกัน อย่าไปต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เป็นอันขาด ตนสัญญากับชาวนา วันไหนที่ประชาชนของเราชนะ ยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จ เรื่องแรกที่จะทำคือ ใช้หนี้ให้ชาวนาทุกคน ถ้าอยากจะได้เงินเร็วหน่อย ก็ออกมาช่วยพวกตนมากๆ หน่อย จะเร็วยิ่งขึ้น เห็นท่าไม่ดีเมื่อไหร่ รีบบอกมา ตรงไหนที่ กปปส.ไปช่วยชาวนาก็จะระดมไปช่วยด้วย แต่ยืนยันเราจะรับผิดชอบจ่ายเงินที่รัฐบาลค้างจ่ายให้ เพราะชาวนาถูกเบี้ยวจริงๆ ไม่ใช่ความผิดของชาวนา
แต่คนที่อยู่กรุงเทพฯ ยังจะเดินหน้าปิดสถานที่ราชการต่อไป วันนี้ผู้ชุมนุมเวทีอโศกและราชประสงค์ไปที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับหนีหัวซุกหัวซุน เพราะคิดว่าจะได้ผล ซึ่งต้องติดตามต่อไป พรุ่งนี้ตนจะเดินไปยังถนนสุขุมวิท หลังสวน ชิดลม ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยต่อไป ส่วนแต่ละเวทีวางแผนไว้แล้ว ตนก็เดินท้า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้เห็นว่ามวลมหาประชาชนไม่กลัวขี้ข้าอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม มันจนแต้มทุกวัน หงายไพ่ใบสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวจะมีข้าราชการติดต่อมาแล้วว่าจะขึ้นเวทีแสดงตัวว่าไม่เอาระบอบทักษิณแล้ว เพราะฉะนั้นข้าราชการหน่วยไหนพร้อม มาแสดงตัวยืนอยู่ข้างประชาชน เหมือนบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข มาเร็วๆ จบเร็วๆ จะได้กลับไปทำงานปกติ บ้านเมืองจะได้สงบเรียบร้อย
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่สี่แยกปทุมวัน เมื่อเวลา 19.10 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อใช้อำนาจตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ต้องมีสถานการณ์ฉุกเฉินให้ปรากฏเห็นเสียก่อน แต่กลับไม่มี ซึ่งไม่ชอบธรรม เพราะผู้ชุมนุม 2 เดือน 22 วัน ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดเรื่องร้ายแรงในบ้านเมือง ชุมนุมโดยสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ ชุมนุมแบบอหิงสา สู้กับรัฐบาลทรราช เพราะเป็นสิทธิของพลเมือง ของประชาชนเจ้าของประเทศ เมื่อรัฐบาลเป็นเผด็จการ ใช้อำนาจไม่ฟังเสียงประชาชน ทุจริตคอร์รัปชัน เป็นสิทธิของประชาชนที่ลุกขึ้นต่อสู้ตามหลักการ และกฎหมายรับรองสิทธิเสรีภาพ สมควรที่จะได้รับความคุ้มครอง แต่ผู้รักษากฎหมายในขณะนี้เป็นโจรห้าร้อย เป็นผู้ก่อการร้ายมาก่อน จึงไม่ทำหน้าที่ ตรงกันข้ามยังสมคบคิดเอาระเบิดปิงป้องขว้าง ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิง ขว้างระเบิดสังหารใส่ประชาชน ข่มขวัญข่มขู่ผู้ชุมนุม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเสียหาย ถ้าอยากจะแก้สถานการณ์นี้ง่ายนิดเดียว คือ เลิกใช้สมุนบริวารทำร้าย หรือเมื่อมีคนมาก่อเหตุร้ายสามารถใช้กฎหมายปกติ หาพยานหลักฐานจับกุมดำเนินคดี หรือไม่ตำรวจก็ตั้งด่านตรวจทั่วกรุงเทพฯ แต่กลับไม่ทำเพราะเป็นพวกเดียวกันจึงไม่จับ
ทั้งนี้ คนที่ได้รับอันตรายจากระเบิด มีทั้งผู้สูงอายุ สุภาพสตรี ที่ตั้งใจมาด้วยบริสุทธิ์ ไม่ได้มารบราฆ่าฟันใคร แต่กลับถูกระเบิดใส่ ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นแล้ว ถือโอกาส ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใช้อำนาจตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อมาจัดการกับผู้ชุมนุม ตนเห็นว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้อง จะต้องมีการดำเนินคดีในเรื่องนี้ ประการต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม วันนี้ไม่มีสภาพเป็นรัฐบาลอีกแล้ว หมดความชอบธรรมตามกฎหมาย เพราะไม่เคารพกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ บังอาจแสดงพฤติกรรมในรัฐสภาโดยไม่เคารพหลักนิติธรรม บังอาจเอากฎหมายล้างผิด นิรโทษกรรมให้คนทุจริตคอร์รัปชันที่ศาลลงโทษแล้ว ให้คนที่ฆ่าตำรวจ ทหาร ประชาชน ปล้นทรัพย์ เผาทรัพย์สินประชาชนและราชการ ไม่มีประเทศไหนหรือรัฐบาลไหนทำ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เท่ากับไม่เคารพรัฐธรรมนูญ จึงหมดความชอบธรรมทางกฎหมาย และทางการเมือง เพราะฉะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี จึงเป็นแก๊งเถื่อนแก๊งหนึ่งอยู่นอกกฎหมาย จึงไม่มีสิทธิ์ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ประการที่สาม ถ้ายังดื้อด้าน อ้างว่ายังไม่มีรัฐบาลใหม่ ต้องรักษาการอยู่ต่อไป ไปไหนไม่ได้ ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญมาตรา 181 กำหนดไว้ชัดเจน การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผิดซ้ำไปอีก ถือเป็นโมฆะ ไม่มีความหมาย บังคับไม่ได้ ใครก็ตามที่ไปตามคำสั่งนี้ ก็ต้องรับผิดติดตัวกันไปทุกคน
อีกประการหนึ่ง รัฐธรรมนูญระบุว่า การเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี จะสั่งจ่ายงบประมาณที่นอกเหนือจากงบประมาณปกติทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้ง ศรส.แล้วให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เจ้าหน้าที่ที่จะต้องมาปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ซึ่งไม่ได้มี พ.ร.บ.งบประมาณที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมา เพราะฉะนั้นรัฐบาลสั่งจ่ายไม่ได้ จ่ายเมื่อไหร่ผิดกฎหมายเมื่อนั้น ที่ทำมาทั้งหมดเถื่อนทั้งนั้น ไม่มีความชอบธรรมทางกฎหมาย ซึ่งก็จะมีคนไปดำเนินการตามกฎหมาย ตนขอเตือนเจ้าหน้าที่ว่า คำสั่งที่ออกโดย ศรส.ก็จะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ติดคุกได้ทุกคน ถ้าคนไหนบังอาจมาสลายการชุมนุม ใช้กำลังกับประชาชน ประชาชนจะฟ้องร้องดำเนินคดี กรณีนี้ต้องยกย่อง ชมเชยทหาร เพราะไม่ยอมร่วมสังฆกรรม รัฐบาลพยายามจะใช้กฎหมายฉบับนี้มานาน เพื่อเอากำลังมาเล่นงานผู้ชุมนุมนานแล้ว แต่ทหารไม่เห็นด้วย เพราะเราชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ทหารจึงไม่เล่นด้วย ศรส.จึงไม่มีทหารเข้าร่วมงานแม้แต่คนเดียว ส่วนปลัดกระทรวงกลาโหมไม่นับ ได้ดิบได้ดีมาเพราะสอพลอทักษิณ ไม่นับเป็นทหารอีกแล้ว เช่นเดียวกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ
นายสุเทพ กล่าวว่า พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ชุมนุมชุมนุมโดยสงบ ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเพราะคนที่อยู่ข้างรัฐบาล ซึ่งฝึกมาอย่างดี ตอนนี้มีฝ่ายประชาชนกับพวกยิ่งลักษณ์ ต้องเป็นฝ่ายนั้นแน่นอน ในปี 2553 ผู้ก่อเหตุฆ่าตำรวจ ฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน เป็นคนชุดดำ สมัยนายธาริตทำงานกับตนเป็นคนทำสำนวนทั้งหมด คนที่ก่อการร้ายมีอยู่ 3 พวก คือ พรรคเพื่อไทย นปช.และคนชุดดำ ที่ทำได้เพราะทักษิณจ้างมาให้กระทำ สำนวนนี้อยู่ในศาลแล้ว เพราะส่งฟ้องผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายแล้ว แกนนำ นปช.เป็นจำเลยทั้งนั้น แต่เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นำตัว นายณัฐวุฒิ มาเป็นรัฐบาล บ้านเมืองจึงวิบัติขนาดนี้ ผบ.หน่วยซีลจึงได้บอกว่า คนชุดดำในปีนี้ กับปี 2553 คือพวกเดียวกัน ตนจึงสรุปว่าในที่สุด พรรคเพื่อไทย และพวกรัฐบาลนี่เองที่มาก่อเหตุความวุ่นวายในบ้านเมือง และปี 2553 เอาเขมรมาก่อเหตุ ปีนี้เอามาแล้ว 10 คันรถตู้ ทหารกำลังค้นหาอยู่ เจอเมื่อไหร่เสร็จเมื่อนั้น ยิ่งลักษณ์เอามาใช้จัดการประชาชน เพราะฉะนั้น ผิดกฎหมาย ทหารจึงไม่มา เพราะมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่เป็นขี้ข้าเหมือน ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งมีแค่นายตำรวจที่เกษียณแล้วอย่าง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ถ้าคิดจะทำอะไรที่ไม่ดีอย่าทำ อยากเกษียณอายุอย่างมีความสุขก็อยู่เฉยๆ ดีกว่า
วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม คึกมาก จะใช้อำนาจจัดการประชุมที่กระทรวงแรงงาน ปรากฏว่าผู้ชุมนุมจากเวทีอโศก ราชประสงค์ ไปเยี่ยมกระทรวงแรงงานมาเรียบร้อย ไปตั้งเวทีหน้ากระทรวงแรงงาน เรียก ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาว่าตั้งศูนย์นี้จะมาปราบใคร ครึ่งวันไม่โผล่หน้ามาเลย นายธาริตก็ติดอยู่กับ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่กล้าออกมาชี้แจง ประชาชนไม่ได้บุกเข้าไปในกระทรวง กวักมือเรียก ไม่มา แต่ตนบอกผู้ชุมนุมว่าอย่าเสี่ยง จึงให้กลับมา นอกจากนี้ อยู่ๆ ไฟดับขึ้นมา โดยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร ถ้ายังบังอาจดื้อดึงวันหลังจะเจอหนักกว่านี้ เพราะประชาชนสงสัยว่าที่ประกาศ พ.ร.ฉุกเฉิน ตั้ง ศรส.ขึ้นมา จะเอาไว้ปราบใคร จะปราบพวกเราหรือเปล่าให้บอกมาจะได้รู้ แล้วถามกลับว่าจะปราบอย่างไร ตำรวจเขาไม่เอาแน่ โดยเฉพาะตำรวจปักษ์ใต้ไม่เอาแล้ว ถ้าจะเอาทหารก็ไม่เล่นด้วย เหลือไม่เท่าไหร่แล้ว ถ้าจะสลายการชุมนุม ตนขอถาม ร.ต.อ.เฉลิม ว่า เอาแน่หรือเปล่า จะได้ตั้งหลักสวดมนต์ จะเอาพวกตนไปคุกจะพอขังหรือไม่ หากใช้ความรุนแรงจะอัดคลิปวิดีโอเผยแพร่ไปทั่วโลก และฟ้องทุกศาลจนถึงศาลโลก
แต่ตนสงสัยว่ามีตัวแทนชาวนาโทรศัพท์มาว่าจะเล่นงานตนหรือชาวนากันแน่ ตอนนี้ชาวนาสงสัย เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ชักดาบชาวนา ไม่จ่ายค่าข้าว จำนำข้าวแล้วแต่ออกใบประทวนเอาไว้ เงินไม่จ่าย 5-6 เดือน เขาทนไม่ได้ เขาปิดถนน ปิดศาลากลางภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่างแล้ว ชาวนาจึงข้องใจว่า ตนชุมนุมมา 2 เดือนแล้ว ไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่พอชาวนาเคลื่อนไหวกลับประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนจึงฝากไปถึงชาวนาว่า ขอให้อย่าไว้ใจรัฐบาล ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจจะตั้งใจไปเล่นงานชาวนาตามที่ถามก็ได้ ก็เตรียมสวดมนต์เหมือนพวกตนเหมือนกัน อย่าไปต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เป็นอันขาด ตนสัญญากับชาวนา วันไหนที่ประชาชนของเราชนะ ยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จ เรื่องแรกที่จะทำคือ ใช้หนี้ให้ชาวนาทุกคน ถ้าอยากจะได้เงินเร็วหน่อย ก็ออกมาช่วยพวกตนมากๆ หน่อย จะเร็วยิ่งขึ้น เห็นท่าไม่ดีเมื่อไหร่ รีบบอกมา ตรงไหนที่ กปปส.ไปช่วยชาวนาก็จะระดมไปช่วยด้วย แต่ยืนยันเราจะรับผิดชอบจ่ายเงินที่รัฐบาลค้างจ่ายให้ เพราะชาวนาถูกเบี้ยวจริงๆ ไม่ใช่ความผิดของชาวนา
แต่คนที่อยู่กรุงเทพฯ ยังจะเดินหน้าปิดสถานที่ราชการต่อไป วันนี้ผู้ชุมนุมเวทีอโศกและราชประสงค์ไปที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับหนีหัวซุกหัวซุน เพราะคิดว่าจะได้ผล ซึ่งต้องติดตามต่อไป พรุ่งนี้ตนจะเดินไปยังถนนสุขุมวิท หลังสวน ชิดลม ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยต่อไป ส่วนแต่ละเวทีวางแผนไว้แล้ว ตนก็เดินท้า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้เห็นว่ามวลมหาประชาชนไม่กลัวขี้ข้าอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม มันจนแต้มทุกวัน หงายไพ่ใบสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวจะมีข้าราชการติดต่อมาแล้วว่าจะขึ้นเวทีแสดงตัวว่าไม่เอาระบอบทักษิณแล้ว เพราะฉะนั้นข้าราชการหน่วยไหนพร้อม มาแสดงตัวยืนอยู่ข้างประชาชน เหมือนบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข มาเร็วๆ จบเร็วๆ จะได้กลับไปทำงานปกติ บ้านเมืองจะได้สงบเรียบร้อย
ขอขอบคุณที่มาของข่าว/ภาพจากผู้ที่มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9570000008452
ถ่ายทอดโดย.....
ทีมงาน น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา1733) มีรายนามดังนี้....
บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ ( บรรณาธิการ )
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ
และ รักษาการ หัวหน้าข่าวการเมือง
อภินันทร์(นามปากกา “อัจฉริยะ”)ปฐมภพ(นามว่า "คนสายกลาง")
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) สุจิตรา (นามปากกา “หญิงเหล็ก”)
กิตกวี (นามปากกา “clover gens”) (ยังมีต่ออีกมาก)
ผู้ที่ไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่ผู้สื่อข่าวของเรา
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews - dmnnews - diplomanews
และข่าวชมรมนักข่าว2000, และ ข่าวศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก และ
ข่าวชมรมนักข่าวช่วยสังคม..อีเมล์...diplomanews@gmail.com
ติดตามผลงาน“ชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบันได้ใน FACEBOOK
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือนับสิบๆแว๊บไซ้ท์และพันธมิตรสื่อฯอีกนับร้อย
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อดังๆต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์หาคำว่า
“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือคำว่า “diplomanews”ในสื่อนั้นๆ
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น