ข่าวตำรวจ
(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์...ถ่ายทอด) ประจำวันที่.....29 ส.ค.2559
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=792491(เครดิต)
พงศพัศเผยปฏิรูปองค์กรตำรวจ10ด้านผบ.ตร.เตรียมการตลอด
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2559 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนและประสานงานการปฏิรูปองค์กรตำรวจ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าคณะทำงาน และ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานตามแนวทางการปฏิรูประบบงานสอบสวนและนิติวิทยาศาสตร์ที่ สภ.เมืองชลบุรี มี พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก. บรรยายสรุปความคืบหน้าในการดำเนินการ ซึ่งพบว่า ได้มีการปรับระบบงานสอบสวนและรับแจ้งความเป็นทีมบูรณาการเรียบร้อยแล้ว โดยมีหัวหน้าพนักงานสอบสวน ทำหน้าที่บริหารคดี พร้อมทีมงานทุกฝ่าย และมีเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุอยู่ประจำตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า สถานีตำรวจทั่วประเทศ 514 แห่ง ที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบงานสอบสวนและนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนี้การดำเนินการเป็นไปตามแผนงานและกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 มีสถานีตำรวจที่จะต้องปฏิรูปทั้งหมด 65 แห่ง และ สภ.เมืองชลบุรี ถือเป็นโรงพักแห่งแรกในพื้นที่ภาค 2 ที่มีชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุอยู่ประจำ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร ที่ต้องการเห็นชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุไปถึงที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปด้วยความรอบคอบและมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น
พล.ต.อ.พงศพัศ ยังได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าว กรณีร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่กำลังจะประกาศใช้ ซึ่งได้กำหนดให้มีการปฏิรูปตำรวจด้วยว่า ในเรื่องนี้ ท่าน ผบ.ตร.ได้มีการเตรียมการมาโดยตลอด โดยก่อนที่จะมีการกำหนดแนวทางการปฏิรูปองค์กรตำรวจทั้ง 10 ด้านขึ้น ก็ได้มีการนำเนื้อหาจากร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในหมวดการปฏิรูปประเทศ มาตรา 258 ข้อ ง. ที่ได้กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรมรวม 4 ด้าน มาพิจารณาอย่างรอบคอบ และได้กำหนดกระบวนการต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนในแนวทางการปฏิรูปองค์กรตำรวจทั้ง 10 ด้าน ซึ่งในระหว่างนี้ แม้จะยังไม่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่ ท่าน ผบ.ตร. ก็ได้เร่งรัดและดำเนินการปฏิรูปตามแนวทางทั้ง 10 ด้านอย่างเต็มที่ โดยเป็นไปตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 259 ที่ได้กำหนดให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการปฏิรูปโดยอาศัยหน้าที่และอำนาจที่มีอยู่แล้วไปพลางก่อน
สำหรับกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 260 ได้กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่งซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพื่อเข้ามาดำเนินการตามกรอบของ มาตรา 258 ง.(๔) ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ อำนาจ และภารกิจของตำรวจ และการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลในมิติต่างๆ ซึ่งจะต้องแล้วเสร็จใน 1 ปี นั้น พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ท่าน ผบ.ตร. ก็ได้ริเริ่มดำเนินการมาแล้วในหลายส่วนด้วยกัน และอยู่ในกรอบของการปฏิรูปองค์กรตำรวจที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะในด้านการบริหารงานบุคคลและเส้นทางการเจริญเติบโต ด้านการกระจายอำนาจและพัฒนาการบริหารงานตำรวจ และ ด้านการถ่ายโอนภารกิจ โดยเชื่อว่าหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่แล้ว รัฐบาลคงจะตั้งคณะกรรมการคณะดังกล่าวขึ้นโดยเร็ว โดยในส่วนของ ท่าน ผบ.ตร. ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการคณะนี้ ก็คงจะได้นำเสนอแนวทางและข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับความคืบหน้าของการปฏิรูปองค์กรตำรวจให้คณะกรรมการได้รับทราบและร่วมกันพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยขอยืนยันว่า ทั้ง ท่าน ผบ.ตร. และตำรวจทุกนายในทุกระดับและในทุกหน่วยงาน ต่างก็พร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ในทุกๆ เรื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิรูปองค์กรตำรวจเป็นไปตามความคาดหวังของสังคม เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ และเป็นไปเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป
พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า สถานีตำรวจทั่วประเทศ 514 แห่ง ที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบงานสอบสวนและนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนี้การดำเนินการเป็นไปตามแผนงานและกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 มีสถานีตำรวจที่จะต้องปฏิรูปทั้งหมด 65 แห่ง และ สภ.เมืองชลบุรี ถือเป็นโรงพักแห่งแรกในพื้นที่ภาค 2 ที่มีชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุอยู่ประจำ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร ที่ต้องการเห็นชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุไปถึงที่เกิดเหตุด้วยความรวดเร็ว การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปด้วยความรอบคอบและมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น
พล.ต.อ.พงศพัศ ยังได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าว กรณีร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่กำลังจะประกาศใช้ ซึ่งได้กำหนดให้มีการปฏิรูปตำรวจด้วยว่า ในเรื่องนี้ ท่าน ผบ.ตร.ได้มีการเตรียมการมาโดยตลอด โดยก่อนที่จะมีการกำหนดแนวทางการปฏิรูปองค์กรตำรวจทั้ง 10 ด้านขึ้น ก็ได้มีการนำเนื้อหาจากร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในหมวดการปฏิรูปประเทศ มาตรา 258 ข้อ ง. ที่ได้กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรมรวม 4 ด้าน มาพิจารณาอย่างรอบคอบ และได้กำหนดกระบวนการต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนในแนวทางการปฏิรูปองค์กรตำรวจทั้ง 10 ด้าน ซึ่งในระหว่างนี้ แม้จะยังไม่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ แต่ ท่าน ผบ.ตร. ก็ได้เร่งรัดและดำเนินการปฏิรูปตามแนวทางทั้ง 10 ด้านอย่างเต็มที่ โดยเป็นไปตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 259 ที่ได้กำหนดให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการปฏิรูปโดยอาศัยหน้าที่และอำนาจที่มีอยู่แล้วไปพลางก่อน
สำหรับกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 260 ได้กำหนดให้มีการตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่งซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพื่อเข้ามาดำเนินการตามกรอบของ มาตรา 258 ง.(๔) ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ อำนาจ และภารกิจของตำรวจ และการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลในมิติต่างๆ ซึ่งจะต้องแล้วเสร็จใน 1 ปี นั้น พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ท่าน ผบ.ตร. ก็ได้ริเริ่มดำเนินการมาแล้วในหลายส่วนด้วยกัน และอยู่ในกรอบของการปฏิรูปองค์กรตำรวจที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะในด้านการบริหารงานบุคคลและเส้นทางการเจริญเติบโต ด้านการกระจายอำนาจและพัฒนาการบริหารงานตำรวจ และ ด้านการถ่ายโอนภารกิจ โดยเชื่อว่าหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่แล้ว รัฐบาลคงจะตั้งคณะกรรมการคณะดังกล่าวขึ้นโดยเร็ว โดยในส่วนของ ท่าน ผบ.ตร. ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการคณะนี้ ก็คงจะได้นำเสนอแนวทางและข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับความคืบหน้าของการปฏิรูปองค์กรตำรวจให้คณะกรรมการได้รับทราบและร่วมกันพิจารณาดำเนินการต่อไป โดยขอยืนยันว่า ทั้ง ท่าน ผบ.ตร. และตำรวจทุกนายในทุกระดับและในทุกหน่วยงาน ต่างก็พร้อมที่จะร่วมมือร่วมใจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ในทุกๆ เรื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิรูปองค์กรตำรวจเป็นไปตามความคาดหวังของสังคม เป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ และเป็นไปเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=792491(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000086198(เครดิต)
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจพัทยาออกหมายจับหนุ่มอ้างตัวเป็นสารวัตรตำรวจกองปราบขืนใจสาว 17 ส่วนบ้านที่เกิดเหตุปิดเงียบ
จากกรณีนายจ้างอ้างเป็นตร.กองปราบยศสารวัตร สุดโรคจิตขืนใจลูกจ้างสาววัย 17 ปี-บังคับให้นั่งดูมีเซ็กซ์กับเมียตัวเอง จนกระทั่งเรื่องแดงหลังน.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ได้พา น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สินสมุทร์ บุญทัศนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เหตุเกิดภายในบ้านพักตั้งอยู่ภายในซอยทัพพะยา 15 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
คืบหน้าล่าสุด วันนี้ (28 ส.ค.) พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภเมืองพัทยา เปิดเผยว่าทางศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 294/2559 ลงวันที่ 27 ส.ค.59 จับกุมนายโจ หรือบุคคลตามภาพ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยผู้อื่นอยู่ในสภาวะไม่สามารถขัดขืนได้
ส่วนตัวแฟนสาวของนายโจในเบื้องต้นสอบสวนแล้วยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการกำชับให้เร่งติดตามจับกุมนายโจให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และสืบสวน สภ.เมืองพัทยาลงพื้นที่ติดตามทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ที่คาดว่านายโจได้หลบหนีไปซ้อนตัว
ด้านผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านที่ผู้เสียหายอ้างเป็นบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ภายในซอยทัพพระยา 15 บ้านเลขที่ 424/98 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้า 2 ชั้น 2 คูหาติดกัน ตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวปิดเงียบและเครื่องหมายตำรวจกองปราบที่ผู้เสียหายอ้างนั้นได้ถูกเอาออกไปแล้วจากประตูหน้าบ้าน
จากการพูดคุยกะเพื่อนบ้านทราบว่า ก่อนหน้าที่จะมีผู้เสียหายมาอยู่ บ้านหลังดังกล่าวได้ว่าจ้างเพื่อนบ้านข้างๆทำความสะอาด แต่หลังจากผู้เสียหายมาอยู่ก็เอากุญแจบ้านคืนจากเพื่อนบ้าน แต่ไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และนายโจได้หายไปตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้
จากกรณีนายจ้างอ้างเป็นตร.กองปราบยศสารวัตร สุดโรคจิตขืนใจลูกจ้างสาววัย 17 ปี-บังคับให้นั่งดูมีเซ็กซ์กับเมียตัวเอง จนกระทั่งเรื่องแดงหลังน.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ได้พา น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สินสมุทร์ บุญทัศนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เหตุเกิดภายในบ้านพักตั้งอยู่ภายในซอยทัพพะยา 15 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
คืบหน้าล่าสุด วันนี้ (28 ส.ค.) พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภเมืองพัทยา เปิดเผยว่าทางศาลจังหวัดพัทยาได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 294/2559 ลงวันที่ 27 ส.ค.59 จับกุมนายโจ หรือบุคคลตามภาพ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยผู้อื่นอยู่ในสภาวะไม่สามารถขัดขืนได้
ส่วนตัวแฟนสาวของนายโจในเบื้องต้นสอบสวนแล้วยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการกำชับให้เร่งติดตามจับกุมนายโจให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี และสืบสวน สภ.เมืองพัทยาลงพื้นที่ติดตามทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ที่คาดว่านายโจได้หลบหนีไปซ้อนตัว
ด้านผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านที่ผู้เสียหายอ้างเป็นบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ภายในซอยทัพพระยา 15 บ้านเลขที่ 424/98 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นทาวน์เฮ้า 2 ชั้น 2 คูหาติดกัน ตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวปิดเงียบและเครื่องหมายตำรวจกองปราบที่ผู้เสียหายอ้างนั้นได้ถูกเอาออกไปแล้วจากประตูหน้าบ้าน
จากการพูดคุยกะเพื่อนบ้านทราบว่า ก่อนหน้าที่จะมีผู้เสียหายมาอยู่ บ้านหลังดังกล่าวได้ว่าจ้างเพื่อนบ้านข้างๆทำความสะอาด แต่หลังจากผู้เสียหายมาอยู่ก็เอากุญแจบ้านคืนจากเพื่อนบ้าน แต่ไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และนายโจได้หายไปตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000086198(เครดิต)
๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000086168(เครดิต)
MGR Online - ในที่สุดก็เกิดรายการฟ้าผ่า!!!“กรมปทุมวัน” การแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพล” ตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ถึง ผู้บังคับการ(ผบก.) วาระประจำปี2559 ที่ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559ที่ขีดเส้นใต้เอาไว้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31สิงหาคม มีอันต้องโดน “โรคเลื่อน” ออกไป อย่างน้อยๆ 1 เดือน
โดยในการประชุม ก.ตร.วันที่ 30ส.ค.ที่จะถึงนี้ เวลา 14.30 น. อาคาร 1 ชั้น 2สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมานั่งหัวโต๊ะทำหน้าที่ ประธานก.ตร. ประชุมเพื่อพิจารณาวาระขอเลื่อนการแต่งตั้ง “นายพล” ประจำปี 2559 ออกไปอีก 1 เดือน
จากเดิมต้องแล้วเสร็จในวันที่ 31 สิงหาคมเป็นไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2559 .
ว่ากันว่า เหตุผลที่ทำให้โผ”นายพล”สีกากี โดน”โรคเลื่อน”เล่นงานจนกลายเป็นโรคประจำของการแต่งตั้งตำรวจทุกระดับชั้น ตั้งแต่ประทวน นายพัน ยันนายพล มาจากผลพวงคำสั่งหัวหน้า คสช. ใช้มาตรา44 ให้อำนาจประธาน ศอตช.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเปรียบเทียบผลการสอบสวนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ทำให้การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ที่ ก.ตร.เพิ่งแต่งตั้ง”นายพล”ที่พ้นความผิด จากกรณี คสช.ให้ต้นสังกัดตรวจสอบความบกพร่องตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุบ่อนการพนัน และการค้ามนุษย์ในพื้นที่ ต้องรอจนกว่าการ”รีเช็ค”ของ ศอตช.จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์
การแต่งตั้ง”นายพล” นอกฤดูครั้งนั้น ก.ตร.มีมติแต่งตั้งโยกย้าย “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. เป็น ผบช.น. “บิ๊กช้าง”พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ลูกน้องก้นกุฏิ”บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. “บิ๊กโอ๋”พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา น้องเลิฟ”ผบ.แป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่ดึงตัวมาช่วยงานในการทำบัญชีแต่งตั้ง เป็น ผบก.ภ.จ.สระบุรี และ “บิ๊กกุ้น”พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร อดีตผู้การฯทะเบียนพล ที่สนิทสนมกับ”บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว เลขาฯส่วนตัว”บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร ไปเป็น ผบก.ภ.จ.นครนายก
ทั้งนี้มีกระแสข่าวลือสะพัดถึงแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมไว้หากการ “รีเช็ค” ผลการสอบสวนเกี่ยวกับความบกพร่องเหตุค้ามนุษย์ของ ศอตช. ยืดเยื้อเกิน 1 เดือน อาจมีการเสนอ ก.ตร.ในช่วงต้นๆเดือนก.ย. ถอนมติแต่งตั้ง “บิ๊กกุ้น”พล.ต.ต.สรไกร ที่ไปเป็น ผบก.ภ.จว.นครนายก แล้วให้กลับไปเป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ตามเดิม เพื่อรอให้ ศอตช.ตรวจสอบเหตุค้ามนุษย์ในพื้นที่ให้เสร็จก่อน และการแต่งตั้ง “นายพล” ที่เหลือจะได้เดินหน้าไปได้ ก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ช่วงปลายๆเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี แม้การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 จะถูกเลื่อนออกไป โผรายชื่อแต่ละตำแหน่งยังคงไม่นิ่ง เพราะต้องรอดูผลการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูประกอบ เนื่องจากหากการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ยังไม่สิ้นสิ้นสมบูรณ์ การแต่งตั้งวาระประจำปีบางตำแหน่งก็จะมีผลกระทบ อย่างเช่นตำแหน่ง “ผบช.น” ที่ก.ตร.แต่งตั้งพล.ต.ท.ศานิตย์ เป็น ผบช.น. ในการแต่งตั้งนอกฤดูและให้มีผลย้อนหลังไป 9 เดือนที่เคยทำหน้าที่ รักษาการผบช.น. ถ้าจะมีการย้ายไปเป็น ผบช.ภ.2ตามกระแสข่าวลือที่ออกมา นั่นก็หมายถึงพล.ต.ท.ศานิตย์จะไม่ได้เป็น ผบช.น.เลย จะย้ายจาก ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ไปเป็น ผบช.ภ.2
แล้วเก้าอี้ “ผบช.น.”ที่ ก.ตร.เคยมีมติแต่งตั้งจะตอบสังคมอย่างไร!?
หรือถ้าไม่ขยับพล.ต.ท.ศานิตย์ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามมติ ก.ตร.แต่งตั้ง นอกฤดูเดิม พล.ต.ท.ศานิตย์ ก็จะเป็น ผบช.น. ก็จะไปกระทบกับการจัดวางตัวนายพลวาระประจำปี ที่มีการวางตัวพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7เพื่อนร่วมรุ่นพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โยกมาคุมเมืองหลวง ก็เป็นอันสะดุด
บัญชีแต่งตั้งที่จัดเอาไว้ก็ต้องมีการรื้อกันใหม่ ดังนั้นทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ ก็ยังคงต้องร้องเพลง “รอ” ไปก่อน ยังไม่มีความแน่นอน บนความไม่แน่นอนเช่นเคย
ทว่าถึงจะยังไม่มีการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ก็ใช่ว่าไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ให้ลุ้น ให้จับตา เพราะแม้ตัวคนจะยังไม่สามารถวางเอาไว้ได้ชัดเจน แต่สิ่งที่น่าสนใจในการแต่งตั้ง “นายพล” ปีนี้ คือ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559ฉบับที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2559ซึ่งจะนำมาใช้ในการแต่งตั้งครั้งนี้
ในบทที่ 3วิธีการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งของผู้มีอำนาจ มีการระบุการคัดเลือกแต่งตั้งระดับ “นายพล”ไว้ที่แตกต่างไปจากการแต่งตั้ง “นายพล”ที่ผ่านๆมา
โดยข้อ 28การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้พิจารณาดังนี้
(1) ข้าราชการตำรวจที่จะคัดเลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึงระดับ ผู้บังคับการ ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนร้อยละสามสิบสามของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่งในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นั่นย่อมแสดงความแต่งตั้ง “นายพล” ปีนี้ ไม่ใช่แค่พวกแก่พรรษาเท่านั้นที่จะได้ขยับสูงขึ้น กลุ่ม”ดาวรุ่ง” ประเภทมีผู้สนับสนุนดีมีดอการพุ่งตำแหน่งสูงขึ้น ตั้งแต่ระดับ รองผบ.ตร.ลงมาถึง ผบก.เลย ไม่ได้เรียงแถวอาวุโสขึ้นแบบเดิมๆที่ระดับ “ผู้ช่วยผบ.ตร.” ขึ้น “รองผบ.ตร.”และ” ผบช.”ขึ้น “ผู้ช่วยผบ.ตร.”จะยึดอาวุโสทั้งหมด
คราวนี้เมื่อจัดกลุ่มให้พวกอาวุโส 33% และที่เหลือพิจารณาจากความรู้ความสามารถ พวกดาวรุ่งพุ่งแรงต่างก็วิ่งกันฝุ่นตลบ”กรมปทุมวัน” โดยเฉพาะระดับ ผบช.ที่เหลืออายุราชการอีก 3ปีขึ้นไปต่างก็ต่างพยายามขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ไว้ เพราะนั่นย่อมหมายถึงการจ่อติดยศ พล.ต.อ. ก่อนเกษียณอายุราชการแน่ๆ อย่างน้อยๆก็ต้องนั่งเก้าอี้ รองผบ.ตร. หรือจับพลัดจับผลูอาจได้เป็น ผบ.ตร.
ไม่ว่าจะเป็นพล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ. เกษียณปี 2566 พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. เกษียณปี 2564หรือพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1เกษียณปี 2562 เป็นต้น
การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ครั้งนี้จึงน่าสนใจทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ เชื่อว่าต้องมีตัวจี๊ดๆ ตัวเจ็บๆ พุ่งทะยานออกมาสั่นสะเทือนกรมปทุมวันแน่นอน. .
โดยในการประชุม ก.ตร.วันที่ 30ส.ค.ที่จะถึงนี้ เวลา 14.30 น. อาคาร 1 ชั้น 2สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมานั่งหัวโต๊ะทำหน้าที่ ประธานก.ตร. ประชุมเพื่อพิจารณาวาระขอเลื่อนการแต่งตั้ง “นายพล” ประจำปี 2559 ออกไปอีก 1 เดือน
จากเดิมต้องแล้วเสร็จในวันที่ 31 สิงหาคมเป็นไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2559 .
ว่ากันว่า เหตุผลที่ทำให้โผ”นายพล”สีกากี โดน”โรคเลื่อน”เล่นงานจนกลายเป็นโรคประจำของการแต่งตั้งตำรวจทุกระดับชั้น ตั้งแต่ประทวน นายพัน ยันนายพล มาจากผลพวงคำสั่งหัวหน้า คสช. ใช้มาตรา44 ให้อำนาจประธาน ศอตช.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเปรียบเทียบผลการสอบสวนพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ทำให้การแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ที่ ก.ตร.เพิ่งแต่งตั้ง”นายพล”ที่พ้นความผิด จากกรณี คสช.ให้ต้นสังกัดตรวจสอบความบกพร่องตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุบ่อนการพนัน และการค้ามนุษย์ในพื้นที่ ต้องรอจนกว่าการ”รีเช็ค”ของ ศอตช.จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์
การแต่งตั้ง”นายพล” นอกฤดูครั้งนั้น ก.ตร.มีมติแต่งตั้งโยกย้าย “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. เป็น ผบช.น. “บิ๊กช้าง”พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ลูกน้องก้นกุฏิ”บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. เป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. “บิ๊กโอ๋”พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา น้องเลิฟ”ผบ.แป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่ดึงตัวมาช่วยงานในการทำบัญชีแต่งตั้ง เป็น ผบก.ภ.จ.สระบุรี และ “บิ๊กกุ้น”พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร อดีตผู้การฯทะเบียนพล ที่สนิทสนมกับ”บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว เลขาฯส่วนตัว”บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร ไปเป็น ผบก.ภ.จ.นครนายก
ทั้งนี้มีกระแสข่าวลือสะพัดถึงแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมไว้หากการ “รีเช็ค” ผลการสอบสวนเกี่ยวกับความบกพร่องเหตุค้ามนุษย์ของ ศอตช. ยืดเยื้อเกิน 1 เดือน อาจมีการเสนอ ก.ตร.ในช่วงต้นๆเดือนก.ย. ถอนมติแต่งตั้ง “บิ๊กกุ้น”พล.ต.ต.สรไกร ที่ไปเป็น ผบก.ภ.จว.นครนายก แล้วให้กลับไปเป็น ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ตามเดิม เพื่อรอให้ ศอตช.ตรวจสอบเหตุค้ามนุษย์ในพื้นที่ให้เสร็จก่อน และการแต่งตั้ง “นายพล” ที่เหลือจะได้เดินหน้าไปได้ ก่อนที่จะมีการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ช่วงปลายๆเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี แม้การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 จะถูกเลื่อนออกไป โผรายชื่อแต่ละตำแหน่งยังคงไม่นิ่ง เพราะต้องรอดูผลการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดูประกอบ เนื่องจากหากการแต่งตั้ง “นายพล” นอกฤดู ยังไม่สิ้นสิ้นสมบูรณ์ การแต่งตั้งวาระประจำปีบางตำแหน่งก็จะมีผลกระทบ อย่างเช่นตำแหน่ง “ผบช.น” ที่ก.ตร.แต่งตั้งพล.ต.ท.ศานิตย์ เป็น ผบช.น. ในการแต่งตั้งนอกฤดูและให้มีผลย้อนหลังไป 9 เดือนที่เคยทำหน้าที่ รักษาการผบช.น. ถ้าจะมีการย้ายไปเป็น ผบช.ภ.2ตามกระแสข่าวลือที่ออกมา นั่นก็หมายถึงพล.ต.ท.ศานิตย์จะไม่ได้เป็น ผบช.น.เลย จะย้ายจาก ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ไปเป็น ผบช.ภ.2
แล้วเก้าอี้ “ผบช.น.”ที่ ก.ตร.เคยมีมติแต่งตั้งจะตอบสังคมอย่างไร!?
หรือถ้าไม่ขยับพล.ต.ท.ศานิตย์ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามมติ ก.ตร.แต่งตั้ง นอกฤดูเดิม พล.ต.ท.ศานิตย์ ก็จะเป็น ผบช.น. ก็จะไปกระทบกับการจัดวางตัวนายพลวาระประจำปี ที่มีการวางตัวพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.7เพื่อนร่วมรุ่นพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โยกมาคุมเมืองหลวง ก็เป็นอันสะดุด
บัญชีแต่งตั้งที่จัดเอาไว้ก็ต้องมีการรื้อกันใหม่ ดังนั้นทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ ก็ยังคงต้องร้องเพลง “รอ” ไปก่อน ยังไม่มีความแน่นอน บนความไม่แน่นอนเช่นเคย
ทว่าถึงจะยังไม่มีการแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ก็ใช่ว่าไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น ให้ลุ้น ให้จับตา เพราะแม้ตัวคนจะยังไม่สามารถวางเอาไว้ได้ชัดเจน แต่สิ่งที่น่าสนใจในการแต่งตั้ง “นายพล” ปีนี้ คือ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559ฉบับที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2559ซึ่งจะนำมาใช้ในการแต่งตั้งครั้งนี้
ในบทที่ 3วิธีการคัดเลือกหรือการแต่งตั้งของผู้มีอำนาจ มีการระบุการคัดเลือกแต่งตั้งระดับ “นายพล”ไว้ที่แตกต่างไปจากการแต่งตั้ง “นายพล”ที่ผ่านๆมา
โดยข้อ 28การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นให้พิจารณาดังนี้
(1) ข้าราชการตำรวจที่จะคัดเลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึงระดับ ผู้บังคับการ ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนร้อยละสามสิบสามของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับตำแหน่งในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นั่นย่อมแสดงความแต่งตั้ง “นายพล” ปีนี้ ไม่ใช่แค่พวกแก่พรรษาเท่านั้นที่จะได้ขยับสูงขึ้น กลุ่ม”ดาวรุ่ง” ประเภทมีผู้สนับสนุนดีมีดอการพุ่งตำแหน่งสูงขึ้น ตั้งแต่ระดับ รองผบ.ตร.ลงมาถึง ผบก.เลย ไม่ได้เรียงแถวอาวุโสขึ้นแบบเดิมๆที่ระดับ “ผู้ช่วยผบ.ตร.” ขึ้น “รองผบ.ตร.”และ” ผบช.”ขึ้น “ผู้ช่วยผบ.ตร.”จะยึดอาวุโสทั้งหมด
คราวนี้เมื่อจัดกลุ่มให้พวกอาวุโส 33% และที่เหลือพิจารณาจากความรู้ความสามารถ พวกดาวรุ่งพุ่งแรงต่างก็วิ่งกันฝุ่นตลบ”กรมปทุมวัน” โดยเฉพาะระดับ ผบช.ที่เหลืออายุราชการอีก 3ปีขึ้นไปต่างก็ต่างพยายามขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ไว้ เพราะนั่นย่อมหมายถึงการจ่อติดยศ พล.ต.อ. ก่อนเกษียณอายุราชการแน่ๆ อย่างน้อยๆก็ต้องนั่งเก้าอี้ รองผบ.ตร. หรือจับพลัดจับผลูอาจได้เป็น ผบ.ตร.
ไม่ว่าจะเป็นพล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ. เกษียณปี 2566 พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. เกษียณปี 2564หรือพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1เกษียณปี 2562 เป็นต้น
การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2559 ครั้งนี้จึงน่าสนใจทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ เชื่อว่าต้องมีตัวจี๊ดๆ ตัวเจ็บๆ พุ่งทะยานออกมาสั่นสะเทือนกรมปทุมวันแน่นอน. .
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000086168(เครดิต)
๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓
//////////////////////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย).....
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้(เครดิต)และ.....
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ.....
นี่คือตัวอย่างบางส่วนอ่านเพิ่มเติมได้ตามแว๊บที่อยู่ด้านบน.....
/////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์.....ถ่ายทอด.....
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
ผู้อำนวยการน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....
สุพัฒน์กฤต(ป้อม)
เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588(ไลน์)หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....
รอง
บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น