2)ข่าวประชาสัมพันธ์ (ผักบุ้ง...รายงาน)น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง...(ถ่ายทอด)
รพ.จุฬาลงกรณ์
โชว์!!นวัตกรรมส่องกล้อง
รักษาผู้ป่วยโรคหืดขั้นรุนแรง
แห่งเดียวในไทย
วันนี้ (2 มีนาคม 2560) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
สภากาชาดไทย ร่วมกับ หน่วยโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤติการหายใจ ฝ่ายอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จัดงานแถลงข่าว “รพ.จุฬาลงกรณ์
ส่องกล้องรักษาโรคหืด แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย” เพื่อพัฒนาวิธีการรักษาผู้ป่วยโรคหืดขั้นรุนแรง
ณ ห้องเอนกประสงค์ ระเบียงรมณีย์ ชั้น 14
อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์
ศ.นพ.สุทธิพงศ์
วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
เป็นโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์ ระดับตติยภูมิที่ให้การรักษาผู้ป่วยโรคยากและซับซ้อน
และรับส่งต่อจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่มีวิสัยทัศน์ “เป็นสถาบันต้นแบบทางการแพทย์ที่มีคุณธรรมด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติ”
มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โดยเน้นการให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสมรรถภาพ
ป้องกันโรคและสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นเลิศ ด้วยการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและการสร้างนวัตกรรมทางการแพทย์และการพยาบาล
เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
ด้วยการสนับสนุนและส่งเสริมค้นคว้าวิจัย ในการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ
ช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัย ที่สำคัญประชาชนทุกชนชั้นสามารถเข้าถึงบริการได้
และในวันนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้งที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ได้ประสบผลสำเร็จในการนำนวัตกรรมใหม่ใช้ในการรักษาโรคหืดเรื้อรังขั้นรุนแรง
ทำให้ผู้ป่วยลดปริมาณการรับประทานยาและฉีดยาได้ เป็นเวลานานถึง 5 ปี เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและงบประมาณในการรักษาผู้ป่วยปีละประมาณหลายแสนบาทต่อคน
สำหรับนวัตกรรมใหม่นี้จะขอให้แพทย์ที่ดูแลได้อธิบายและสาธิตวิธีการและขั้นตอนการรักษา
รวมทั้งเกณฑ์ในการเข้ารับการรักษาต่อไป
ศ.นพ.สมเกียรติ วงษ์ทิม นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า
โรคหืดเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม
ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยทางพันธุกรรม และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น สารก่อภูมิแพ้
ทำให้มีการอักเสบเกิดขึ้นตลอดเวลา การกระตุ้นของสารเคมี
ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการไอและหายใจไม่สะดวกจากหลอดลมตีบ จากการอักเสบ
หลังจากผู้ป่วยสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ จึงทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหอบหืดมากขึ้น
ในรายที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องการอักเสบเรื้อรังของหลอดลมนี้
อาจนำไปสู่การเกิดพังผืด และการหนาตัวอย่างมากของผนังหลอดลมที่เรียกว่ามีภาวะ airway
remodeling เกิดขึ้น ซึ่งมีผลทำให้มีการอุดกั้นของหลอดลมอย่างถาวร ในกระบวนการวินิจฉัยโรค
นอกจากมีวัตถุประสงค์ เพื่อยืนยันการป่วยเป็นโรคหืดแล้ว
ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาสาเหตุ
หรือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหอบหืดด้วย
ในส่วนของสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์
เพื่อเสริมสร้างและประสานองค์กรที่เป็นตัวแทนกลุ่มการแพทย์ กลุ่มผู้ป่วย
และหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนอื่นๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนภารกิจต่างๆ
ด้านการดูแลรักษาโรคหืด ซึ่งเป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม
ที่มีผลทำให้หลอดลมของผู้ป่วย
มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้และสิ่งแวดล้อมมากกว่าคนปกติ (bronchial
hyper-responsiveness, BHR) ผู้ป่วยมักมีอาการไอแน่นหน้าอก
หายใจมีเสียงหวีดหรือหอบเหนื่อยเกิดขึ้น เมื่อได้รับสารก่อโรคหรือสิ่งกระตุ้น
และอาการเหล่านี้อาจหายไปได้เอง หรือหายไปเมื่อได้รับยาขยายหลอดลม โรคหืดเป็นโรคที่จัดว่ามีความชุกสูง
และเป็นปัญหาสาธารณสุขอย่างหนึ่งของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2545
มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการหอบรุนแรงมากถึง 102,245 ราย และมีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าหนึ่งแสนราย ต้องเข้ารับการรักษาที่แผนกฉุกเฉินด้วยอาการหอบเฉียบพลัน
ทางสมาคมได้มีเป้าหมายที่จะควบคุมอาการของโรคในผู้ป่วยให้ได้ดีที่สุด
จากการใช้ยาในกลุ่มควบคุมอาการ
เพื่อลดการอักเสบที่เกิดขึ้นในหลอดลมร่วมกับการใช้ยาขยายหลอดลมเพื่อบรรเทาอาการ
แต่ในวันนี้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้นำนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยรักษาโรคหืดขั้นรุนแรง
นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีต่อสาธารณสุขของประเทศไทย
ที่จะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล
และยังลดค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวและงบประมาณของรัฐบาลด้านการรักษาอีกเป็นจำนวนมาก
อ.นพ.ธิติวัฒน์ ศรีประสาธน์ หน่วยโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤติการหายใจ
ฝ่ายอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวถึง การรักษาโรคหืดด้วยนวัตกรรมใหม่
“การจี้หลอดลมด้วยความร้อน
(Bronchial
thermoplasty) ครั้งนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาผู้ป่วยโรคหืดขั้นรุนแรง
ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ ไม่เหนื่อยหอบ
และไม่ต้องนอนโรงพยาบาลบ่อย ที่สำคัญเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมารักษาตัวของคนไข้เอง
และประหยัดงบประมาณของประเทศ
วิธีรักษาโรคหืดด้วยนวัตกรรมการส่องกล้อง
ใส่สายแคสเตเตอร์หย่อนลงไปผ่านหลอดลมเข้าไปในปอด ที่มีขนาดความกว้าง 2-3 มิลลิเมตร เซนเซอร์จะเปลี่ยนจากคลื่นวิทยุเป็นความร้อนที่ 65 องศา และจี้เข้าไปที่หลอดลมส่วนปลายเพื่อทำลายกล้ามเนื้อเรียบให้บางลงไม่ให้หลอดลมตีบ
การจี้แต่ละจุดใช้เวลา 2 ชม. ในการทำ 1 ครั้ง จะต้องจี้ให้ได้ 100 จุด จุดละ 10 วินาที หรือมากที่สุดในบริเวณปอดล่างขวา ปอดล่างซ้าย
และปอดด้านบนสองข้าง ทำทั้งหมดจำนวน 3
ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 3 สัปดาห์
จากงานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศพัฒนาแล้ว
การจี้กล้ามเนื้อเรียบทำให้โรคหืดสามารถควบคุมได้ลดอาการกำเริบได้นานถึง 5 ปี
ไม่มีผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยและปอดไม่ถูกทำลาย ซึ่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นแห่งที่
3 ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองมาจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยโรคหืดด้วยวิธีการนี้
วิธีการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโรคหืดที่มีภาวะรุนแรง ที่มีความจำเป็นในการพ่นยา
รับประทานยา และฉีดยาสเตียรอยด์ในปริมาณที่มากและต่อเนื่อง ย่อมไม่เป็นผลดีกับตัวผู้ป่วยเอง
“คนไข้ที่ทำนั้นจะมีอาการในระดับที่รุนแรงมาก เราคาดหวังว่า
คนไข้จะได้ไม่ต้องมาห้องฉุกเฉินบ่อย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลเพราะโรคหืดกำเริบ ไม่ต้องกินยาสเตียรอยด์จำนวนมาก
คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม” อ.นพ.ธิติวัฒน์
กล่าว
อย่างไรก็ดี
ผลจากการที่ได้ทำการรักษากับผู้ป่วยนั้น พบว่า ลดโอกาสเกิดหอบหืดกำเริบมากกว่าครึ่งหนึ่งจากเดิม
ลดการมาพบแพทย์ห้องฉุกเฉินประมาณ 5 เท่า ลดโอกาสการมานอนโรงพยาบาลประมาณ 73%
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....ถ่ายทอด.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม.....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม.....
ปัจจุบันผู้อำนวยการ
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....
จตุพล
(นามปากกา บ.ก. 3 สื่อ)...
สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง)......
สุพัฒน์กฤต นามปากกา (ป้อม) ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย (นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์')ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม.....(ที่ปรึกษา).....
ชมรมนักข่าว2000......(ที่ปรึกษา).......
สำนักปฎิบัติธรรม
"พลังพุทโธ"(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588(ไลน์) หรือ 086 – 7928056)......
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
ท่านที่ต้องการอ่านน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....
ฟรี!ขอได้ที่....ตู้ป.ณ. 30 ป.ณ.พลับพลาไชย กทม.10100.....
คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
ทีมงานที่ได้ใส่ชื่อในคอลัมน์นี้จะต้องมีผลงานทุกเดือนเท่านั้น......
ถ้าเดือนไหนที่ไม่มีผลงานจะไม่ได้รับการใส่ชื่อ.......
และผู้ที่ขาดการประชุม
2 ครั้งติดต่อกัน จะต้องถูกปลดออก.....
ผู้ที่ไม่มีชื่อปรากฏในสื่อของเราให้ใช้บัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวแทน.....
ตรวจสอบว่าผู้สื่อข่าวคนใดถูกปลดแล้วหรือไม่?ให้โทร.086-7928056…
(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง(ถ่ายทอด).......
(ถ่ายทอดเฉพาะคลิปแรกนี้เท่านั้นคลิปอื่นต่อเนื่องที่แทรกมา
ไม่เกี่ยวข้องกับเราเป็นเรื่องของคนอื่น).....
……………………………………………………..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น