วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

29)ข่าวประชาสัมพันธ์ (ผักบุ้ง...รายงาน)น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง...(ถ่ายทอด)

29)ข่าวประชาสัมพันธ์ (ผักบุ้ง...รายงาน)น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง...(ถ่ายทอด)


รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยผลงาน 6 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศและกระจายสู่ท้องถิ่นกว่า 1.33 ล้านล้านบาท เดินเครื่องเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism)
และการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism)

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 255927 มีนาคม 2560 สร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 1.33 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 0.86      ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวชาวไทย 0.47 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.67, 2.76 และ 8.39 ตามลำดับ

นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มิติการท่องเที่ยวเรื่องการกีฬา Sports Tourism ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ผลจากการจัดงาน Air Race 1        การแข่งขัน World Jet Ski การแข่งขันกอล์ฟ วิ่งมาราธอน และไตรกีฬา สามารถสร้างรายได้และทำให้นักท่องเที่ยว พำนักนานขึ้นใช้จ่ายมากขึ้นจากกิจกรรมหลายหลายประเภท ล่าสุด ได้ผลักดันนโยบายท่องเที่ยวเชิงกีฬาเข้าสู่ ครม. โดย ขออนุมัติให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ระยะ 3 ปี ระหว่างปี 2561 – 2563 ทั้งนี้รัฐบาลมุ่งมั่นบนจุดยืน คือ ประโยชน์ของประเทศที่จะได้รับกลับมาจากโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนเป็นสำคัญ และยังได้รับความเห็นชอบ จาก ครม. ให้ประเทศไทยเสนอตัวขอรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Sport Accord Convention 2018 โดยหลายประเทศก็เล็งเห็นเช่นเดียวกับไทยว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลายด้านและเม็ดเงินจากผู้เข้าชมกีฬา และคนในอุตสาหกรรมกีฬาที่เดินทางมาร่วมประชุม ซึ่งจะสามารถกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น และเกิดการจากงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและกีฬาได้อีกมาก

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่ากระทรวงฯ เดินหน้าสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) โดยได้บูรณาการกับ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง และประชารัฐอย่างต่อเนื่อง สร้างการท่องเที่ยวทางน้ำในประเทศไทยมีความชัดเจนมากขึ้น พัฒนาเป็นท่าเรือหลัก ฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย ให้เป็น Home Port  และเพิ่มท่าเรือ Port of Call ที่มีอยู่แล้วที่แหลมฉบัง และภูเก็ต       ให้มากขึ้นเพื่อเติบโตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำในอาเซียน และเจรจาเพิ่มธุรกิจ    เรือสำราญในประเทศไทย ทั้งนี้คาดว่าทั่วโลกจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางทางน้ำ กว่า 25.3 ล้านคนในปีนี้ ส่วนผลสำเร็จด้านการกระจายรายได้ ที่ชัดเจนคือ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คือ มีรูปแบบการท่องเที่ยวกระจายตัว (Cluster) มากขึ้น  และพบว่านักท่องเที่ยวมีการเดินทางเที่ยวรายภาค และวางแผนการเดินทางข้ามจังหวัดใกล้ๆกันอีกด้วย ต่างจากในอดีตที่มีการท่องเที่ยวแบบกระจุกตัวไม่กี่จังหวัดเท่านั้น โดยพบรายได้เป็นบวกในทุกคลัสเตอร์




ทั้งนี้ นางกอบกาญจน์ กล่าวย้ำว่าเรายังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายหลักที่จะสร้างให้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลาง 5 อย่างในด้าน ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism)  การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness), การจัดงานแต่งงาน (Wedding & Romance), การท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) และการท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ASEAN Connect) ต่อไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ททท. จับมือ พีทีที โกลบอล เคมิคอล และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์
ผนึกกำลังแก้ปัญหาขยะในทะเลเปิดตัวโครงการ UPCYCLING THE OCEANS,THAILAND

                 บ่ายวันนี้ (29 มีนาคม 2560) ณ Central Court ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)                นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)  และนายฮาเวียร์ โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “UPCYCLING THE OCEANS, THAILAND”  ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งและหมู่เกาะที่เกี่ยวเนื่องในรูปแบบที่สร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม

                     นายยุทธศักดิ์ สุภสร  ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้ประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆของประเทศ อย่างไรก็ตาม แต่ด้านความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวจากการประเมินของ World Economic Forum (WEF) ได้จัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35 สะท้อนให้เห็นความไม่สมดุลในการพัฒนาการท่องเที่ยว และในแหล่งท่องเที่ยวหลายๆแห่ง ยังคงประสบปัญหาความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว และเผชิญปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ขยะ น้ำเสีย โดยขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพ  ในการนี้ ททท. PTTGC และ ECOALF Foundation ต่างมีความมุ่งมั่นให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และการให้คืนกลับแก่สังคมและสิ่งแวดล้อม จึงได้กำหนดแผนดำเนินโครงการร่วมกันภายใต้โครงการดังกล่าวที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจัดการขยะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในประเทศไทย รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งและหมู่เกาะที่เกี่ยวเนื่องอย่างสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยอาศัยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสร้างความตระหนักแก่นักท่องเที่ยวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการรักษาสิ่งแวดล้อมและตอบแทนสังคม เพื่อให้เกิดการจัดการแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอย่างยั่งยืนต่อไป”      
                        นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่    บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ พีทีทีจีซี กล่าวว่า “พีทีทีจีซี มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการดำเนินกิจกรรมเพื่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวทาง Sustainable Business ในการดำเนินโครงการ UPCYCLING THE OCEANS, THAILAND เพื่อลดปริมาณขยะในทะเลและลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการ สายใยซั้งเชือก PTTGC สร้างแหล่งอาศัยสัตว์น้ำชายฝั่งทะเล ตลอดแนวชายฝั่งทะเลจังหวัดระยองที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการและที่สำคัญ โครงการนี้มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติกอย่างคุ้มค่าโดยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ สอดคล้องกับนโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืนของบริษัทฯพร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง   พีทีทีจีซี ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์จะเข้ามาร่วมรณรงค์การนำขยะขวดพลาสติกใสหรือขวด PETในทะเลและพื้นที่ชายฝั่งมาใช้ซ้ำโดยการแปรรูปในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าด้วยนวัตกรรมการผลิตเป็นเส้นใยสังเคราะห์โพลิเอสเตอร์และพัฒนาและออกแบบเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีมูลค่าที่สูงขึ้นตามแนวคิดเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (Circular Economy)ซึ่งสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติกอย่างคุ้มค่าและช่วยประหยัดพลังงานและน้ำในการผลิตในอุตสาหกรรมช่วยลดมลพิษในทะเลและช่วยฟื้นฟูและดูแลแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม”


          นายฮาเวียร์ โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ กล่าวว่า “มูลนิธิอีโคอัลฟ์เป็นผู้ริเริ่มและดำเนินโครงการ UPCYCLING THE OCEANS ที่ประเทศสเปน ตั้งแต่ปี 2555 โดยร่วมกับสมาคมเรือประมงนำขยะพลาสติกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าภายใต้แบรนด์              อีโคอัลฟ์ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค และได้ต่อยอดความสำเร็จสู่ประเทศอื่นที่มีปัญหาด้านขยะในทะเลเช่นเดียวกันสำหรับประเทศไทย นับเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีการดำเนินโครงการUPCYCLING THE OCEANS โดยมูลนิธิได้ร่วมมือกับ ททท. และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ดำเนินการจัดเก็บขยะในทะเลไทยอย่างเป็นระบบ โดยตลอดกระบวนการการจัดเก็บ แปรรูป และพัฒนาเป็นเสื้อผ้าจะดำเนินการในไทยรวมทั้งการสร้างความตระหนักของปัญหาและผลกระทบของขยะในทะเลซึ่งมีขยะพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลกถึง 269,000 ตันหรือ 2.25 ล้านล้านชิ้น

         สำหรับขั้นตอนการดำเนินการนั้น จะเน้นไปที่การให้ความรู้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไปที่สนใจร่วมเป็นอาสาสมัคร เกี่ยวกับการเก็บขยะจากท้องทะเลและพื้นที่ชายฝั่ง รวมถึงวิธีการคัดแยกขยะที่ถูกต้อง เพื่อนำมาแปรรูปขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยพื้นที่เป้าหมายในการจัดเก็บขยะในทะเลไทยของโครงการUPCYCLING THE OCEANS, THAILAND ได้แก่ ฝั่งทะเลตะวันออก (เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง) ฝั่งทะเลอ่าวไทย (เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี) และ ฝั่งทะเลอันดามัน (จังหวัดภูเก็ต) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งคาดหวังว่า โครงการ UPCYCLING THE OCEANS, THAILAND จะเป็นการขับเคลื่อนที่นำไปสู่การลดปริมาณขยะในทะเลไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
*******


ข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ:     
กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โทร. 02-250-5500 ต่อ 4520-2     Fax. 02-250-5681    Email. prdiv5@gmail.com
บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน)
จินตรัตน์  สายอินทวงศ์     โทร.  081-803-6607  Email: chintarat.s@pttgcgroup.com
ศิริพร  สุขะปุณณพันธ์       โทร.  082-489-1199  Email: siriporn.su@pttgcgroup.com
๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....ถ่ายทอด.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ......
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....

อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม.....
ปัจจุบันผู้อำนวยการ น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....
จตุพล (นามปากกา บ.ก. 3 สื่อ)...                                    
สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง)......            
สุพัฒน์กฤต นามปากกา (ป้อม) ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
ปฐมภพ(นามปากกา คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย (นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์')ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ....สื่อในเครือ
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม.....(ที่ปรึกษา).....สื่อในเครือ
ชมรมนักข่าว2000......(ที่ปรึกษา).......สื่อในเครือ
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลางฉบับEMAIL NEWS.....
ที่ปรึกษา....และสื่อในเครือ......
สำนักปฎิบัติธรรม "พลังพุทโธ"(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....    
โทร.099-2612588(ไลน์) หรือ 086 – 7928056)......
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
ท่านที่ต้องการอ่านน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....
ฟรี!ขอได้ที่....ตู้ป.ณ. 30 ป.ณ.พลับพลาไชย กทม.10100.....
คอลัมนิสต์นามปากกาคนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกาผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
ทีมงานที่ได้ใส่ชื่อในคอลัมน์นี้จะต้องมีผลงานทุกเดือนเท่านั้น......
ถ้าเดือนไหนที่ไม่มีผลงานจะไม่ได้รับการใส่ชื่อ.......
และผู้ที่ขาดการประชุม 2 ครั้งติดต่อกัน จะต้องถูกปลดออก.....
ผู้ที่ไม่มีชื่อปรากฏในสื่อของเราให้ใช้บัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวแทน.....
ตรวจสอบว่าผู้สื่อข่าวคนใดถูกปลดแล้วหรือไม่?ให้โทร.086-7928056
 (ถ่ายทอดเฉพาคลิปแรกนี้เท่านั้นคลิปอื่นต่อเนื่องที่แทรกมา
ไม่เกี่ยวข้องกับเราเป็นเรื่องของคนอื่น).....           

(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง(ถ่ายทอด).......
……………………………………………………..




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น