รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยผลงาน 6 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศและกระจายสู่ท้องถิ่นกว่า 1.33 ล้านล้านบาท เดินเครื่องเร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism)
และการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism)
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – 27 มีนาคม 2560 สร้างรายได้รวมจากการท่องเที่ยว 1.33 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 0.86 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวชาวไทย 0.47 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.67, 2.76 และ 8.39 ตามลำดับ
นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มิติการท่องเที่ยวเรื่องการกีฬา Sports Tourism ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ผลจากการจัดงาน Air Race 1 การแข่งขัน World Jet
Ski การแข่งขันกอล์ฟ
วิ่งมาราธอน และไตรกีฬา สามารถสร้างรายได้และทำให้นักท่องเที่ยว
พำนักนานขึ้นใช้จ่ายมากขึ้นจากกิจกรรมหลายหลายประเภท ล่าสุด ได้ผลักดันนโยบายท่องเที่ยวเชิงกีฬาเข้าสู่
ครม. โดย ขออนุมัติให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก
หรือโมโตจีพี ระยะ 3 ปี ระหว่างปี 2561 – 2563 ทั้งนี้รัฐบาลมุ่งมั่นบนจุดยืน คือ ประโยชน์ของประเทศที่จะได้รับกลับมาจากโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนเป็นสำคัญ
และยังได้รับความเห็นชอบ จาก ครม. ให้ประเทศไทยเสนอตัวขอรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
Sport Accord Convention 2018 โดยหลายประเทศก็เล็งเห็นเช่นเดียวกับไทยว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลายด้านและเม็ดเงินจากผู้เข้าชมกีฬา
และคนในอุตสาหกรรมกีฬาที่เดินทางมาร่วมประชุม ซึ่งจะสามารถกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น
และเกิดการจากงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและกีฬาได้อีกมาก
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
กล่าวเพิ่มเติมว่ากระทรวงฯ เดินหน้าสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำ
(Maritime Tourism) โดยได้บูรณาการกับ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง
และประชารัฐอย่างต่อเนื่อง
สร้างการท่องเที่ยวทางน้ำในประเทศไทยมีความชัดเจนมากขึ้น พัฒนาเป็นท่าเรือหลัก ฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย ให้เป็น Home
Port และเพิ่มท่าเรือ Port of Call
ที่มีอยู่แล้วที่แหลมฉบัง และภูเก็ต ให้มากขึ้นเพื่อเติบโตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำในอาเซียน และเจรจาเพิ่มธุรกิจ เรือสำราญในประเทศไทย ทั้งนี้คาดว่าทั่วโลกจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางทางน้ำ กว่า 25.3 ล้านคนในปีนี้ ส่วนผลสำเร็จด้านการกระจายรายได้
ที่ชัดเจนคือ พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คือ มีรูปแบบการท่องเที่ยวกระจายตัว (Cluster) มากขึ้น และพบว่านักท่องเที่ยวมีการเดินทางเที่ยวรายภาค และวางแผนการเดินทางข้ามจังหวัดใกล้ๆกันอีกด้วย ต่างจากในอดีตที่มีการท่องเที่ยวแบบกระจุกตัวไม่กี่จังหวัดเท่านั้น
โดยพบรายได้เป็นบวกในทุกคลัสเตอร์
ทั้งนี้
นางกอบกาญจน์ กล่าวย้ำว่าเรายังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายหลักที่จะสร้างให้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลาง 5 อย่างในด้าน ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness), การจัดงานแต่งงาน (Wedding & Romance), การท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) และการท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ASEAN Connect) ต่อไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ททท.
จับมือ พีทีที โกลบอล เคมิคอล และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์
ผนึกกำลังแก้ปัญหาขยะในทะเลเปิดตัวโครงการ
UPCYCLING
THE OCEANS,THAILAND
บ่ายวันนี้ (29 มีนาคม 2560) ณ Central Court ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
กรุงเทพมหานคร นายยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล
เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และนายฮาเวียร์
โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ
“UPCYCLING
THE OCEANS, THAILAND” ซึ่งจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดการปัญหาขยะในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย
รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งและหมู่เกาะที่เกี่ยวเนื่องในรูปแบบที่สร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย
ในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม
นายยุทธศักดิ์
สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้ประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆของประเทศ
อย่างไรก็ตาม แต่ด้านความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวจากการประเมินของ World
Economic Forum (WEF) ได้จัดอันดับให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 35
สะท้อนให้เห็นความไม่สมดุลในการพัฒนาการท่องเที่ยว
และในแหล่งท่องเที่ยวหลายๆแห่ง ยังคงประสบปัญหาความเสื่อมโทรมของแหล่งท่องเที่ยว
และเผชิญปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ขยะ น้ำเสีย
โดยขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ในการนี้
ททท. PTTGC และ ECOALF Foundation ต่างมีความมุ่งมั่นให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โดยให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน
และการให้คืนกลับแก่สังคมและสิ่งแวดล้อม
จึงได้กำหนดแผนดำเนินโครงการร่วมกันภายใต้โครงการดังกล่าวที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย
เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจัดการขยะในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในประเทศไทย
รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งและหมู่เกาะที่เกี่ยวเนื่องอย่างสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยอาศัยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
พร้อมทั้งสร้างความตระหนักแก่นักท่องเที่ยวและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการรักษาสิ่งแวดล้อมและตอบแทนสังคม
เพื่อให้เกิดการจัดการแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอย่างยั่งยืนต่อไป”
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด
(มหาชน)หรือ พีทีทีจีซี กล่าวว่า “พีทีทีจีซี
มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการดำเนินกิจกรรมเพื่อชุมชน
สังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวทาง Sustainable Business ในการดำเนินโครงการ UPCYCLING THE
OCEANS, THAILAND เพื่อลดปริมาณขยะในทะเลและลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการ
สายใยซั้งเชือก PTTGC สร้างแหล่งอาศัยสัตว์น้ำชายฝั่งทะเล
ตลอดแนวชายฝั่งทะเลจังหวัดระยองที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการและที่สำคัญ
โครงการนี้มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติกอย่างคุ้มค่าโดยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
สอดคล้องกับนโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืนของบริษัทฯพร้อมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ในการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พีทีทีจีซี ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจเคมีภัณฑ์จะเข้ามาร่วมรณรงค์การนำขยะขวดพลาสติกใสหรือขวด
PETในทะเลและพื้นที่ชายฝั่งมาใช้ซ้ำโดยการแปรรูปในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าด้วยนวัตกรรมการผลิตเป็นเส้นใยสังเคราะห์โพลิเอสเตอร์และพัฒนาและออกแบบเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีมูลค่าที่สูงขึ้นตามแนวคิดเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน
(Circular Economy)ซึ่งสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติกอย่างคุ้มค่าและช่วยประหยัดพลังงานและน้ำในการผลิตในอุตสาหกรรมช่วยลดมลพิษในทะเลและช่วยฟื้นฟูและดูแลแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม”
นายฮาเวียร์
โกเยนิเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์
กล่าวว่า “มูลนิธิอีโคอัลฟ์เป็นผู้ริเริ่มและดำเนินโครงการ UPCYCLING THE
OCEANS ที่ประเทศสเปน ตั้งแต่ปี 2555
โดยร่วมกับสมาคมเรือประมงนำขยะพลาสติกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ อีโคอัลฟ์ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
และได้ต่อยอดความสำเร็จสู่ประเทศอื่นที่มีปัญหาด้านขยะในทะเลเช่นเดียวกันสำหรับประเทศไทย
นับเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีการดำเนินโครงการUPCYCLING THE OCEANS โดยมูลนิธิได้ร่วมมือกับ
ททท. และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด
(มหาชน) เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ดำเนินการจัดเก็บขยะในทะเลไทยอย่างเป็นระบบ
โดยตลอดกระบวนการการจัดเก็บ แปรรูป
และพัฒนาเป็นเสื้อผ้าจะดำเนินการในไทยรวมทั้งการสร้างความตระหนักของปัญหาและผลกระทบของขยะในทะเลซึ่งมีขยะพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลกถึง
269,000 ตันหรือ 2.25 ล้านล้านชิ้น”
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการนั้น
จะเน้นไปที่การให้ความรู้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไปที่สนใจร่วมเป็นอาสาสมัคร
เกี่ยวกับการเก็บขยะจากท้องทะเลและพื้นที่ชายฝั่ง
รวมถึงวิธีการคัดแยกขยะที่ถูกต้อง เพื่อนำมาแปรรูปขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยพื้นที่เป้าหมายในการจัดเก็บขยะในทะเลไทยของโครงการUPCYCLING
THE OCEANS, THAILAND ได้แก่ ฝั่งทะเลตะวันออก (เกาะเสม็ด
จังหวัดระยอง) ฝั่งทะเลอ่าวไทย (เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี) และ
ฝั่งทะเลอันดามัน (จังหวัดภูเก็ต) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ
ซึ่งคาดหวังว่า โครงการ UPCYCLING THE OCEANS, THAILAND
จะเป็นการขับเคลื่อนที่นำไปสู่การลดปริมาณขยะในทะเลไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
*******
ข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ:
กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โทร.
02-250-5500
ต่อ 4520-2 Fax.
02-250-5681 Email. prdiv5@gmail.com
บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน)
จินตรัตน์
สายอินทวงศ์ โทร. 081-803-6607 Email:
chintarat.s@pttgcgroup.com
ศิริพร
สุขะปุณณพันธ์ โทร. 082-489-1199 Email:
siriporn.su@pttgcgroup.com
๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....ถ่ายทอด.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ......
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม.....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม.....
ปัจจุบันผู้อำนวยการ
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....
จตุพล
(นามปากกา บ.ก. 3 สื่อ)...
สุพรรณษา
แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง)......
สุพัฒน์กฤต นามปากกา (ป้อม) ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย (นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์')ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ....สื่อในเครือ
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม.....(ที่ปรึกษา).....สื่อในเครือ
ชมรมนักข่าว2000......(ที่ปรึกษา).......สื่อในเครือ
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลางฉบับEMAIL NEWS.....
ที่ปรึกษา....และสื่อในเครือ......
สำนักปฎิบัติธรรม
"พลังพุทโธ"(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588(ไลน์) หรือ 086 – 7928056)......
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
ท่านที่ต้องการอ่านน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง.....
ฟรี!ขอได้ที่....ตู้ป.ณ. 30 ป.ณ.พลับพลาไชย กทม.10100.....
คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
ทีมงานที่ได้ใส่ชื่อในคอลัมน์นี้จะต้องมีผลงานทุกเดือนเท่านั้น......
ถ้าเดือนไหนที่ไม่มีผลงานจะไม่ได้รับการใส่ชื่อ.......
และผู้ที่ขาดการประชุม
2 ครั้งติดต่อกัน จะต้องถูกปลดออก.....
ผู้ที่ไม่มีชื่อปรากฏในสื่อของเราให้ใช้บัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวแทน.....
ตรวจสอบว่าผู้สื่อข่าวคนใดถูกปลดแล้วหรือไม่?ให้โทร.086-7928056
(ถ่ายทอดเฉพาคลิปแรกนี้เท่านั้นคลิปอื่นต่อเนื่องที่แทรกมา
ไม่เกี่ยวข้องกับเราเป็นเรื่องของคนอื่น).....
(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง(ถ่ายทอด).......
……………………………………………………..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น