วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การทวงหนี้กับการยึดรถเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่(แนะนำรายการดีๆที่ไปค้นพบมา)

การทวงหนี้กับการยึดรถเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่(แนะนำรายการดีๆที่ไปค้นพบมา) 
 
เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องการทวงหนี้ ยึดรถของบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า การยึดรถเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปไหม และพฤติกรรมของผู้เช่าซื้อที่เป็นลูกหนี้ชั้นต้นที่พยายามทำร้ายร่างกายพนักงานยึดรถมีสิทธิทำได้ไหม รวมถึงการขับรถหนีหลังจากที่มีการบอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้วทำได้หรือไม่ ท่านผู้อ่านหลายท่านอยากให้ผมอธิบายเทคนิคการทวงหนี้ เทคนิคการยึดรถและปัญหาของการยึดรถตามสัญญาเช่าซื้อว่าที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร ผมในฐานะเป็นวิทยากรฝึกอบรมพนักงานทวงหนี้และพนักงานยึดรถของสถาบันการเงิน ขอให้ความรู้กับท่านผู้อ่านดังนี้ 
1. การทวงหนี้ หมายถึง การติดตามทวงถามหนี้สินที่ค้างชำระหลังจากที่หนี้ถึงกำหนดเวลาชำระหนี้แล้ว 
จึงเป็นสิทธิเรียกร้องที่มีสิทธิเหนือบุคคล หมายถึง เหนือตัวลูกหนี้ คือผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน แต่การทวงหนี้ผู้ค้ำประกันจะต้องมีหนังสือไปถึงผู้ค้ำประกันก่อน จึงจะทวงหนี้ได้ตามกฎหมายใหม่ 
2. การยึดรถเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการทวงหนี้จึงไม่ใช่การทวงหนี้ ตามพ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 มาตรา 3 เพราะไม่ใช่เป็นการใช้สิทธิเรียกร้องเหนือบุคคลหรือเหนือตัวลูกหนี้แต่เป็นการติดตามเอาทรัพย์ของไฟแนนซ์คืนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ มีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2555 ข้อ 4(4) ผู้เช่าซื้อไม่มีสิทธิจะยึดถือรถไว้อีกต่อไป เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิติดตามและเอาคืน และถ้าผู้เช่าซื้อขับรถหนี ก็มีสิทธิขัดขวาง เช่น นำรถไปกีดขวางไม่ให้ผู้เช่าซื้อนำรถหลบหนีไปได้ ถือเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของไฟแนนซ์ ไม่จำเป็นต้องไปใช้สิทธิทางศาล เพราะไม่ใช่การบังคับชำระหนี้ ดังนั้น หากผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาโดยชอบแล้ว ผู้เช่าซื้อต้องคืนรถให้ผู้ให้เช่าซื้อ ไม่มีสิทธิครอบครองอีกต่อไป (ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1336) 
3. การแสดงตัวก่อนยึดรถหรือทวงหนี้ตามกฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่ มาตรา 9(4) ผู้รับมอบอำนาจ 
ต้องแสดงตัวให้ทราบถึงชื่อตัวและชื่อสกุล ชื่อหน่วยงานของตน ชื่อบริษัทรับจ้างทวงหนี้ และชื่อเจ้าหนี้(ไฟแนนซ์) และจำนวนหนี้ในการทวงถามหนี้ต่อหน้าและต้องแสดงหลักฐานการมอบอำนาจจากไฟแนนซ์ว่ามอบหมายให้มาทวงหนี้ จะยึดรถทันทีโดยไม่แจ้งว่าเป็นใครไม่ได้ เพราะผู้เช่าซื้ออาจสำคัญผิดในข้อเท็จจริง คิดว่าเป็นคนร้ายอาจทำร้ายร่างกายหรือใช้อาวุธปืนยิง คนยึดรถอาจตายฟรีหรือเจ็บตัวฟรีก็ได้นะครับ คนยึดรถต้องระวังไว้ (ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 มาตรา 9(4), ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาฯ พ.ศ.2555 ข้อ 4(4) 
4. หลังจากมีการยึดรถแล้วตามสัญญาเช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาฯ พ.ศ.2555 ข้อ 4 (5) ก., ข. 

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง 
พระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 
มาตรา 9 การทวงถามหนี้ ให้ผู้ทวงถามหนี้ปฏิบัติดังต่อไปนี้ 
(4) ในกรณีที่เป็นผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ ผู้รับมอบอำนาจช่วงในการทวงถามหนี้ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ หรือผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ ให้ผู้ทวงถามหนี้แจ้งให้ทราบถึงชื่อตัวและชื่อสกุล หรือชื่อหน่วยงานของตนและของเจ้าหนี้ และจำนวนหนี้ และถ้าผู้รับมอบอำนาจดังกล่าวทวงถามหนี้ต่อหน้า ให้แสดงหลักฐานการมอบอำนาจให้ทวงถามหนี้ด้วย 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 
มาตรา 1336 ภายในบังคับแห่งกฎหมาย เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอยและจำหน่ายทรัพย์สินของตนและได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น กับทั้งมีสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และมีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 

ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2555 
ข้อ 4 สัญญาเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผู้ประกอบธุรกิจทำกับผู้บริโภค ต้องมีข้อความเป็นภาษาไทยที่สามารถเห็นและอ่านได้ชัดเจน มีขนาดตัวอักษรไม่เล็กกว่าสองมิลลิเมตร โดยมีจำนวนไม่เกินสิบเอ็ดตัวอักษรในหนึ่งนิ้ว และจะต้องใช้ข้อสัญญาที่มีสาระสำคัญและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ 
(4) ผู้ให้เช่าซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อได้ ในกรณีผู้ให้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อรายงวดสามงวดติดๆ กัน และผู้ให้เช่าซื้อมีหนังสือบอกกล่าวผู้เช่าซื้อให้ใช้เงินรายงวดที่ค้างชำระนั้น ภายในกำหนดเวลาอย่างน้อยสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้เช่าซื้อได้รับหนังสือ และผู้เช่าซื้อละเลยเสียไม่ปฎิบัติตามหนังสือบอกกล่าวนั้น 
(5) เมื่อผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อโดยแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้เช่าซื้อ และกลับเข้าครอบครองรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่ให้เช่าซื้อ เพื่อนำออกขายให้แก่บุคคลอื่น 
ก. ก่อนขายให้แก่บุคคลอื่น ผู้ให้เช่าซื้อต้องแจ้งล่วงหน้าให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน(ถ้ามี) ทราบ เป็นหนังสือไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน เพื่อให้ผู้เช่าซื้อใช้สิทธิซื้อได้ตามมูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อ โดยผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าซื้อตามอัตราและการคิดคำนวณตาม (10) 
ข. ในกรณีที่ผู้ให้เช่าซื้อนำรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์อกขาย แต่หากได้ราคาน้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ตามสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจะรับผิดส่วนที่ขาดนั้น 
ผู้เช่าซื้อถ้าผิดนัดชำระค่างวดอย่าหลบหนี อย่าหลบหน้า ควรรับโทรศัพท์และเข้าไปคุยกับผู้ให้เช่าซื้อเพื่อระงับข้อพิพาท เพราะการหลบหน้าเป็นการหนีปัญหาไม่ทำให้หนี้ระงับ ส่วนผู้ให้เช่าซื้อ การทวงหนี้หรือการยึดรถต้องสุภาพ ให้เกียรติลูกค้า ไม่ใช้ความรุนแรง ข่มขู่ คุกคาม ซึ่งตามกฎหมายทวงหนี้ใหม่ ถือเป็นการทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม 

ด้วยความปรารถนาดี 
จาก ทีมงานทนายคลายทุกข์ 

ขอแนะนำคอลัมน์/รายการ/คลิป/ที่น่าสนใจ/น่าอ่าน/
น่าชม/ซึ่งมีชื่ออยู่ด้านบนนี้         
ขอขอบคุณที่มาของข่าว/ภาพจากผู้ที่มีชื่ออยู่ด้านล่าง
และด้านบนนี้ทุกๆท่าน     (แนะนำรายการดีๆที่ไปค้นพบมา)       

เดชา กิตติวิทยานันท์ ผ่าน decha.com


การทวงหนี้กับการยึดรถเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่(แนะนำรายการดีๆที่ไปค้นพบมา)  
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา 13558 )ถ่ายทอด
ดังมีรายนามดังนี้.... บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ)
นามปากกา เดอะกะตะ”(บ.ก.สื่อสยามข่าวมวลชน) 
จตุพล (บ.ก.บริหาร สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง
(คนเดลิมิเร่อร์) ผู้ช่วย บ.ก.
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์)
สุจิตรา(นามปากกา หญิงเหล็ก”) 
ปฐมภพ(นามปากกา "คนสายกลาง")
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ
(ที่ปรึกษากฎหมาย)ไม่มีเงินจ้างทนายเราช่วยได้
(รับปรึกษาปัญหากฎหมายฟรี!)
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ)
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ)
รับปรึกษาเรื่องการเงินในระบบฟรี!
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056)
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่ง
เช่น น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ฉบับที่1,2,3,4,5,6,7
และอีกนับสิบๆสื่อในเครือของเรา
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
..อีเมล์...diplomanews@gmail.comและ
คอลัมนิสต์ นามปากกา “คนพิเศษ”
(ผู้ตรวจข่าวฉบับที่1.)
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”)
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ
(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น