วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2560

25)ดีโพลมานิวส์สายกลางข่าวกทม.




กทม.ปรับลดเวลาออกใบรับรองการก่อสร้าง จาก 30 วัน เหลือ 15 วัน หวังเอื้อประกอบธุรกิจในไทย




(25 เม.ย.60) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายจรูญ มีธนาถาวร รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนายณัฏฐ์ ศรีสุคนธนันท์ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. เข้าร่วมการประชุมรายงานผลการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง
ในที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ ตามตัวชี้วัดของธนาคารโลก จำนวน 10 ด้าน ได้แก่ การเริ่มต้นธุรกิจ การขออนุญาตก่อสร้าง การขอใช้ไฟฟ้า การจดทะเบียนทรัพย์สิน การได้รับสินเชื่อ การคุ้มครองผู้ลงทุน การชำรับภาษี การค้าระหว่างประเทศ การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง และการแก้ปัญหาการล้มละลาย ซึ่งธนาคารโลกจะนำไปจัดทำรายงาน Doing Business เสนอผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ว่าเอื้อต่อผู้ประกอบธุรกิจเพียงใด
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการขออนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดด้านหนึ่ง โดยธนาคารโลกได้สำรวจและสอบถามจำนวนขั้นตอนกับหน่วยงานราชการเพื่อรับใบอนุญาตให้ก่อสร้าง ได้ข้อสรุปว่า ประเทศไทยมีจำนวนขั้นตอนการทำรายการทั้งหมด 17 ขั้นตอน ใช้เวลา 103 วัน ดังนั้น เพื่อให้ระยะเวลาในการตรวจสอบการก่อสร้างและออกใบรับรองการก่อสร้างอาคารเหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน  และเพื่อเป็นการยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการ กรุงเทพมหานครได้เสนอให้ลดระยะเวลาการออกใบรับรองอาคารขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงต่ำ จากเดิม 30 วัน ลดเหลือ 15 วัน จะทำให้จำนวนวันที่ใช้ในการดำเนินงานจากเดิม 103 วัน เหลือ 84 วัน (ลดเวลาออกใบรับรอง และเวลาการตรวจสอบ) นอกจากนี้ยังเสนอแก้ไขระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการขออนุญาตและการควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2525 โดยให้ตรวจสอบการก่อสร้างเหลือ 3 ครั้ง จากเดิมตรวจทุก 15 วัน จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ได้แก่ ครั้งที่ 1 ตรวจสอบเมื่ออาคารเริ่มทำการก่อสร้าง  ครั้งที่ 2 ตรวจสอบระหว่างการก่อสร้าง และครั้งที่ 3 ตรวจสอบเมื่ออาคารทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ  สำหรับการออกใบรับรองการก่อสร้างอาคารจะกำหนดให้อาคารประเภทควบคุมการใช้ที่ไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่ ต้องดำเนินการออกใบรับรองการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ซึ่งกรุงเทพมหานครหวังว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการประกอบธุรกิจในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
--------------------------------
(เครดิต)(ภวนพร...กปส.รายงาน)
 (ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง (ถ่ายทอด)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

 

ปรับพื้นที่เตรียมจัดสวนป้อมมหากาฬคาดแล้วเสร็จ 30 พ.ค. นี้




(25 เม.ย. 60) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสาโรจน์ สามารถ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณป้อมมหากาฬ โดยมีคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักการโยธา สำนักงานเขตพระนคร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ ณ บริเวณป้อมมหากาฬ เขตพระนคร
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากที่กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการรื้อถอนบ้านที่รุกล้ำออกไปแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ใช้เวลาประมาณ 7 วันดำเนินการปรับพื้นที่และขนย้ายเศษวัสดุเศษปูนออกไปจนเสร็จ ในวันนี้ สำนักการโยธาได้เริ่มทยอยนำดินมาถมเพื่อปรับพื้นที่ ซึ่งจะใช้ดินทั้งหมดประมาณ 400 คิว ในขณะนี้ได้นำดินมาลงแล้วประมาณ 130 คิว คาดว่าภายในวันอาทิตย์นี้จะนำดินมาลงได้เรียบร้อยทั้งหมด 400 คิว หลังจากนั้นตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปสำนักสิ่งแวดล้อมจะเริ่มเข้ามาดำเนินการปลูกต้นไม้และจัดทำสวนหย่อม ส่วนการปูทางเดินนั้นสำนักการโยธาจะเป็นผู้ดำเนินการ โดยจะใช้เวลาดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 30 พ.ค. นี้ เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาพักผ่อนใช้สอย
สำหรับในส่วนของบ้านโบราณขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ชุมชน ฝ่ายความมั่นคง ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันแล้วรอบหนึ่ง ส่วนในรอบที่สองจะพูดคุยเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ที่จะใช้พิจารณาบ้านโบราณนั้นมีหลักเกณฑ์อะไรบ้าง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้หลักเกณฑ์ จากนั้นจะมีการพิจารณาเป็นรายหลัง ว่าหลังไหนบ้างที่อยู่ในเกณฑ์ที่ควรอนุรักษ์ไว้บ้าง ซึ่งหากบ้านหลังไหนไม่อยู่ในเกณฑ์ก็ต้องดำเนินการรื้อถอนออกไป
-----------------                  (จิรัฐคม...กปส. รายงาน)(เครดิต)
(ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง (ถ่ายทอด)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

กทม.จัดพิธีมอบโอวาทแก่เยาวชนโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนเมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2560


(25 เม.ย. 60) เวลา 10.00 น. นางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีมอบโอวาทแก่เยาวชนตามโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนเมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2560 โดยมีนางอณุสรา ชื่นทรวง ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ข้าราชการกองการต่างประเทศ และเยาวชนที่ผ่านคัดเลือก จำนวน 65 คน เข้าร่วมพิธี ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

กรุงเทพมหานคร โดยกองการต่างประเทศ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร จัดโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนเมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ตามกรอบความร่วมมือเมืองพี่เมืองน้อง ส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญในวัฒนธรรมของตนเองและวัฒนธรรมหลากหลายจากเพื่อนชาวต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากประสบการณ์จริง และกระตุ้นให้เยาวชนได้ใส่ใจในเรื่องความสัมพันธ์กับมิตรประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนเมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพมหานครได้เริ่มครั้งแรกเมื่อปี 2551 โดยเริ่มจากการแลกเปลี่ยนกับกรุงโซลเป็นเมืองแรก จากนั้นได้ดำเนินโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกับเมืองต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยมาจนถึงในปี 2560 มีจำนวนเมืองทั้งสิ้น 8 เมือง ได้แก่ กรุงโซล เมืองปูซานและเมืองแตกู จากสาธารณรัฐเกาหลี กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และนครอู่ฮั่น จากสาธารณรัฐประชาชนจีน และจังหวัดฟูกูโอกะ จังหวัดไอจิ จากประเทศญี่ปุ่น โดยผลจากการดำเนินการสอบสัมภาษณ์เยาวชนเมื่อวันที่ 13-15 มี.ค. และวันที่ 21 มี.ค. 60 ปรากฏว่ามีจำนวนเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้นจำนวน 65 คน แบ่งตามโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกับกรุงโซล 30 คน เมืองแตกู 4 คน กรุงปักกิ่ง 4 คน นครเซี้ยงไฮ้ 5 คน นครอู่ฮั่น 2 คน และจังหวัดไอจิ 20 คน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในนามของกรุงเทพมหานคร ขอแสดงความยินดีกับน้องๆเยาวชนทั้ง 65 คน ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้แทนเยาวชนของกรุงเทพมหานครในการเดินทางเยือนเมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเชื่อว่าในระยะเวลาเพียงสั้นๆที่เยาวชนแต่ละโครงการจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในต่างประเทศนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกช่วงเวลาหนึ่งของทุกคน ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนำวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยไปเผยแพร่ให้ชาวต่างประเทศได้เรียนรู้ รวมทั้งช่วยกันส่งเสริมภาพลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่เหมาะสมจากเมืองในต่างประเทศมาใช้กับตนเอง การเรียน ครอบครัว และสังคม รวมถึงการพัฒนาประเทศในอนาคตู
-------------------------------- (นักบุญ...กปส.รายงาน)(เครดิต)
(ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง (ถ่ายทอด)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น