youtu.be/W1UjfEzYkYU
(โปรดคลิกที่ภาษาอังกฤษ
เพื่อดูคลิปที่ลงในยูทูบ)
เรียน สื่อมวลชนทุกท่าน,
ขอเชิญสื่อมวลชนทุกท่านเข้าร่
เกี่ยวกับการแก้ไขปั
โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่
ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค. 60 เวลา16.00-18.00 น.) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น2 กระทรวงการท่องเที่
*********
วันที่ 11 กรกฎาคม 2560 นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกี
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ข่าวท่องเที่ยว 2 ข่าว (12/7/60) (ดีโพลมานิวส์สายกลางแนะนำข่าว)
รมว.ท่องเที่ยวระบุ วันหยุดยาววันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา คนไทยเที่ยววันบุญกว่า 1.17 ล้านคน ครั้ง เงินสะพัด7พันกว่าล้านบาท มุ่งคำชะโนดกว่าแสนคน
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวันหยุดยาววันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ตลอดช่วงวันที่ 8 – 10 กรกฎาคม 2560 ภาพรวมพบว่ามีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 1.17ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นการท่องเที่ยวในภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด 2 อันดับแรก และทั่วประเทศก่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 7,100 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบข้อสังเกตที่น่าสนใจดังนี้ ภาคกลาง นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเช้าไปเย็นกลับขยายตัวสูง เนื่องจากมีวัดและสถานปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงกระจายตัวในหลายจังหวัด และทำให้นักท่องเที่ยวสามารถไหว้พระได้มากกว่า 1 แห่ง สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประชาชนกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก และร่วมกับครอบครัวทำกิจกรรมทางศาสนาในวัดและสถานปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะผู้ที่ศรัทธาในพญานาค
"ทราบว่าปีนี้คนไทยนิยมตระเวนสักการะทำบุญในวัดอีกหลายๆแห่งทั้งภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคตะวันตก ส่วนที่คำชะโนดแหล่งศรัทธาในพญานาค ที่จังหวัดอุดรธานี มีคนเดินทางไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันการบริหารการจัดการบริเวณโดยรอบดีขึ้นมากทำให้ประชาชนที่มีศรัทธาเดินทางไปท่องเที่ยวในแต่ละวันหยุดยาวเป็นจำนวนหลักแสนคน ถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่มีเงินสะพัด และกระจายรายได้ในเรื่องการจับจ่ายของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด" นางกอบกาญจน์ กล่าว
นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรุงเทพฯ การท่องเที่ยวค่อนข้างทรงตัว เนื่องจากประชาชนนิยมออกเดินทางไปปฏิบัติธรรมในต่างจังหวัดและภาคต่างๆอาทิ ภาคกลาง ภาคตะวันตกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับ ภาคตะวันตก นักท่องเที่ยวแบบเดินทางเช้าไปเย็นกลับ ขยายตัวสูง เนื่องจากมีวัดและสถานปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงกระจายตัวในหลายจังหวัด นักท่องเที่ยวสามารถไหว้พระและท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้ ส่วนภาคตะวันออก แม้ว่าจะมีอุปสรรคจากมรสุม แต่การท่องเที่ยวในหลายพื้นที่คึกคัก เช่น เกาะช้าง จังหวัดตราด ที่เรือเฟอร์รี่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางใน 3 วันที่ผ่านมา (วันที่ 8-10 กรกฎาคม 2560) ถึงกว่า 12,500 คน สูงกว่าช่วงปรกติประมาณ 20%ทำให้การบริการเรือเฟอร์รี่ ไม่เพียงพอในบางช่วงเวลา แต่ก็สามารถบริหารจัดการได้ในพื้นที่ ส่วนภาคใต้ การท่องเที่ยวขยายตัวค่อนข้างต่ำเนื่องจากมีอุปสรรคจากมรสุม โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตและพังงา แต่หลายพื้นที่การท่องเที่ยวขยายตัว จากนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว เช่น ระนอง สงขลา สุราษฎร์ธานี เป็นต้น สำหรับภาคเหนือ โดยภาพรวมการท่องเที่ยวไม่คึกคัก เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าดัชนีด้านการท่องเที่ยวและบริการยังคงขับเคลื่อนและสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยได้อย่างเป็นบวกและมีทิศทางที่น่าสนใจในช่วงเวลาครึ่งปี2560 นี้
@@@@@@@@@@@@@@@@@
“ปลัดฯ พงษ์ภาณุ สั่งอุดหนุนยางพารา ขานรับนโยบายรัฐบาล”
จากการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่มีความจำเป็นต้องใช้ยางพารา สำรวจปริมาณความต้องการใช้ยางพาราสำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ หรือใช้เป็นส่วนผสมต่างๆ ภายในหน่วยงาน จัดทำแผนสำหรับการเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อยางพารา เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางพาราในประเทศมากขึ้น
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลโดยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการสำรวจความต้องการใช้ยางพารา จากการรวบรวมรายงานข้อมูลการใช้ยางพาราของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในปี 2560 พบว่า กรมพลศึกษา มีความต้องการใช้ยางพารา (ยางแห้ง) เพื่อก่อสร้างสนามกีฬา ประจำปีงบประมาณ 2560 จำนวน 195.5 ตัน งบประมาณ 741 ล้านบาท และใช้ยางพารา (ยางแห้ง) ในโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ปี 2560 เพื่อการพัฒนาเพิ่มศักยภาพของสนามกีฬาให้เป็นจุดศูนย์กลางของการทำกิจกรรมด้านกีฬาในพื้นที่ จำนวน 50 ตัน งบประมาณ 135 ล้านบาท และการกีฬาแห่งประเทศไทยมีปริมาณการใช้ยางพารา (ยางแห้ง) เพื่อก่อสร้างสนามฟุตบอล จำนวน 15 ตัน งบประมาณ 27 ล้านบาท รวมปริมาณความต้องการใช้ยางพารา จำนวน 260.5 ตัน รวมกว่า 903 ล้านบาท หลังจากนี้กระทรวงฯ จะประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับการดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ ปี 2560 เพื่อประมวลจัดทำเป็นภาพรวมเสนอสำนักงบประมาณดำเนินการต่อไป
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เล็งเห็นความสำคัญของยางพาราซึ่ง พืชเศรษฐกิจของประเทศ ได้ผลักดันให้มีการใช้ยางพาราในการดำเนินการโครงการต่างๆ ของกระทรวงฯ ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและกีฬา มาอย่างต่อเนื่อง อาทิในปี 2559 กรมการท่องเที่ยวใช้ยางพาราทำถนนในพื้นที่ 12 เมืองต้องห้ามพลาด...พลัส, กรมพลศึกษาทำสนามฟุตบอลพร้อมลู่วิ่งยางธรรมชาติ 8 ลู่ ลานกีฬาเอนกประสงค์ โรงยิมเอนกประสงค์, สถาบันการพลศึกษา ทำลู่วิ่งโรงเรียนกีฬา (วิทยาเขต), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำตุ๊กตายางเพื่อรณรงค์การท่องเที่ยว และการกีฬาแห่งประเทศไทย ใช้ยางพาราทำสนามกีฬา 120 แห่ง เป็นต้น
“แม้จำนวนยางพาราที่กระทรวงฯ นำมาใช้จะยังมีจำนวนไม่มาก แต่เราจะช่วยผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล และช่วยส่งเสริมเกษตรกร” นายพงษ์ภาณุ กล่าว
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น