ก.ท่องเที่ยว เร่งเดินหน้าคลัสเตอร์ “อารยธรรม
อีสานใต้”
และ “วิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง” ส่งเสริม
การกระจายรายได้สู่ชุมชน
พร้อมเชื่อมโยง
แหล่งท่องเที่ยวทุกมิติ
(โปรดคลิกที่ภาษาอังกฤษเพื่อดู)
คลิปที่ลงในยูทูบ youtube)
โดยผ.อ.เกรียงไกร(พรเทพ)
ผู้ทำข่าวส่งยูทูบ ในฐานะ)
PARTNER YOUTUBE)
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ร่วม ครม.สัญจร จ.นครราชสีมา เล็งแผนพัฒนาการท่องเที่ยว ฟื้นวิถีชุมชน
ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น
สร้างรายได้ด้วยการท่องเที่ยว ส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่
มองเห็นโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของโคราชหลายจุด โดยภาพรวมแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมีจุดเด่นด้านเชิงนิเวศและโบราณสถาน
ซึ่งทางจังหวัดได้มีการเสนอยุทธศาสตร์การดำเนินแผนงานและนำลงพื้นที่ดูงาน 2 เส้นทาง คือ 1.การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
เชื่อมโยงเส้นทางผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
กับผืนป่าวังน้ำเขียว มีความหลากหลายทางพืชพันธุ์ รวมถึงสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินบ้านโกรกเดือนห้า
หรือจีโอพาร์ค โคราช แหล่งรวบรวมซากดึกดำบรรพ์ และ 2.การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
แหล่งโบราณสถาน วัฒนธรรมประเพณีที่เป็นจุดเด่นในแต่ละพื้นที่ ซึ่งล้วนมีความน่าสนใจ
อาทิ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย มีการร่วมหารือกันว่าทำอย่างไรที่จะทำให้การท่องเที่ยวคลัสเตอร์อารยธรรมอีสานใต้และวิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขงสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า
พื้นที่อีสานใต้ของไทยมีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทุกมิติ (ASEAN Connect) เพราะมีความพร้อมทุกด้านอาทิ
สนามบินนานาชาติ ซึ่งมีเที่ยวบินที่เชื่อมโยงในทุกภูมิภาค เส้นทางรถยนต์เชื่อมต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน
สปป.ลาว และกัมพูชา รวมถึงเพื่อนบ้านในเขตลุ่มแม่น้ำโขง และเส้นทางใหม่ที่กำลังเร่งดำเนินการ คือ
เส้นทางมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช การท่องเที่ยวทางรางด้วย “รถไฟไทยขบวนใหม่
กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี” เพื่ออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวข้ามภาค
นอกจากนี้
ยังได้มีการหารือร่วมกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ถึงการพัฒนาที่จะสอดคล้องกับ
“แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12”
เพื่อให้เกิดการบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล
ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่เปิดโอกาสให้คนสูงวัยและคนทุพพลภาพ กว่า 10.7 ล้านคนทั่วประเทศ
สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ทันสมัย เป็นธรรม
เหมือนบุคคลทั่วไป
เพื่อผลักดันให้การท่องเที่ยวเป็นการท่องเที่ยวที่สร้างประโยชน์สุขให้แก่คนทุกวัย
โดยในปัจจุบันได้มีสถานที่นำร่องคือสวนนงนุช และในอนาคตจะมีการเปิดให้คนแก่และคนทุพพลภาพเข้าชมพิพิธภัณฑ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
“ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือ
การเป็นเจ้าบ้านที่ดีและการปรับสภาพภูมิทัศน์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสะอาด
รวมถึงการให้บริการที่ดี จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งยังอยากเชิญชวนให้คนไทยหันมาเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและชุมชน เพื่อเป็นการท่องเที่ยวชุมชนกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจทางตรงลงสู่พื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
โดยช่วงปลายปีนี้จะมีการจัดงานเทศกาลออกพรรษาในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน
และกิจกรรมที่สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ด้วยการจัด MOTO GP ณ จังหวัดบุรีรัมย์” นางกอบกาญจน์ กล่าวทิ้งท้าย
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness)
วันที่
๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ จ.ระนอง
เพื่อประชุมติดตามการดำเนินงานของเขต
พัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก ครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ ณ ศาลากลางจังหวัดระนอง พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดระนองที่ได้รับการส่งเสริมให้เป็นพื้นที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ตามยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก
การประชุมครั้งนี้จังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในคลัสเตอร์
เข้านำเสนอโครงการที่จะผลักดัน ได้แก่
๑. เพชรบุรี : การท่องเที่ยวเชื่อมโยงโครงการพระราชดำริ
๒. ประจวบคีรีขันธ์ : เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวครอบครัว ,
ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ , พัฒนาท่าเรือเชื่อมฝั่ง
อ่าวไทยตะวันออกและตะวันตก
, การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
๓. ระนอง : มุ่งสู่การเป็นเมืองน้ำแร่ต้นแบบ ปรับปรุงบ่อน้ำร้อน รักษะวาริน
พัฒนาเส้นทางศึกษา
ธรรมชาติ ปรับภูมิทัศน์ประตูสู่ระนอง สร้างมาตรฐาน Nice & Clean ระนอง เชื่อมกับมาตรฐาน
การท่องเที่ยวไทยของกรมการท่องเที่ยว
๔. ชุมพร : นำเสนอการเพิ่มเที่ยวบิน และขยาย Runway เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชุมพรได้
ง่ายขึ้น
ในราคาที่ถูกลง
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
"กอบกาญจน์"
เร่งกระตุ้นแคมเปญเที่ยว Royal
Coast 4
จังหวัด
ชวนเที่ยวเมืองระนองเมืองน้ำแร่
Nice& Clean
โยงเส้นรถไฟเชื่อมไปชุมพร
สร้างเส้นทางกระจายตัวให้ นทท.
นางกอบกาญจน์
วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กล่าวในการประชุมคณะกรรมการการท่องเที่ยว
ประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก ในกลุ่ม Royal Coast เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร
ระนอง ภาคเอกชนว่าปี 2561 รัฐบาลกำหนดให้เป็นปีท่องเที่ยวแห่งชาติ ภายใต้แคมเปญ "ปีท่องเที่ยววิถีไทย
เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน" ที่ผ่านมาพบว่าการท่องเที่ยวในกลุ่ม Royal Coast เพชรบุรี
ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง นั้น เป็นการท่องเที่ยวยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะเพชรบุรี
ประจวบคีรีขันธ์ แต่ชุมพร ระนอง ยังน้อยไม่เชื่อมโยงกัน
ในส่วนจังหวัดระนอง
นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้นำเสนอ
ความเป็นเมืองน้ำแร่ต้นแบบ พัฒนาสิ่งที่มีอยู่
ใช้สิ่งที่มีอยู่ยกระดับให้ได้มาตรฐานสากลเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
โดยขณะนี้มีการทำข้อตกลง MOU
กับมหาวิทยาลัยสวนสุนันทา
และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาด้านน้ำแร่
และการจับคู่ Sister City กับเมืองมินาคามิ ประเทศญีปุ่น รวมถึงของบประมาณในการปรับปรุงบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน
จากกลุ่มคลัสเตอร์ จำนวน 25 ล้านบาท เพื่อยกระดับมาตรฐาน และนอกจากนี้ ยังนำแพทย์ทางเลือกเข้ามาจัดโปรแกรมสุขภาพ
เชื่อมโยงกับท้องถิ่น ชุมชน สถานศึกษา
และมีการของบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติป่ากลางเมือง เส้นทางจักรยานและจุดต้อนรับประตูสู่ระนอง
รวมถึงโครงการรถไฟเชื่อมโยงชุมพรระนอง นอกจากนี้ ยังเตรียมเมืองระนองให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
"Nice and Clean"
นางกอบกาญจน์
ยังกล่าวต่อไปว่าได้เร่งให้คณะทำงานในกลุ่มคลัสเตอร์นี้ขับเคลื่อนโครงการต่างๆ
เพื่อเขื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวได้แก่
1)
เพชรบุรี: การท่องเที่ยวเชื่อมโยงโครงการในพระราชดำริ
2)
ประจวบคีรีขันธ์: เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวครอบครัว และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
พัฒนาท่าเรือเชื่อมฝั่งอ่าวไทยตะวันออกและตะวันตก การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
วิทยาศาสตร์ สร้างหอดูดาว เนื่องจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เป็นจุดที่สามารถดูดาวได้ดีที่สุด มองออกไปเป็นท้องฟ้าเหนือท้องทะเล
ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง
3)
ระนอง: มุ่งสู่การเป็นเมืองน้ำแร่ต้นแบบ ปรับปรุงบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน
พัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ปรับภูมิทัศน์ประตูสู่ระนอง สร้างมาตรฐาน Nice & Clean ระนองเชื่อมกับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยของกรมการท่องเที่ยว
4)
ชุมพร: เพิ่มเที่ยวบิน และขยาย runway
เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชุมพรได้ง่ายขึ้น
ในราคาถูกลง
นางกอบกาญจน์
กล่าวด้วยว่า จากนี้เราต้องทำงานร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว
เชื่อมโยง 2-3 จังหวัด แต่ละเส้นทางเน้นการซื้อของท้องถิ่น
และการท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น