วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ข่าวตำรวจ (น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์...ถ่ายทอด) ประจำวันที่.....20 ก.ค.2559

ข่าวตำรวจ (น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์...ถ่ายทอด) ประจำวันที่.....20 ก.ค.2559

http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=789789(เครดิต)

พงศพัศย้ำใครขวางปฏิรูปตำรวจ จะเห็นผลช่วงโยกย้ายใหญ่

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงการปฏิรูปตำรวจว่า เรารู้ว่าตำรวจถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง เราตระหนักตัวเราเอง เราต้องทำด้วยตัวเองจะปล่อยให้คนอื่นมาทำไม่ได้ เราต้องทำของเราเอง ส่วนที่บอกว่าใครขวางเด้ง เป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. บอกว่า กลไกหรือกระบวนการขับเคลื่อน ตำรวจทุกคนต้องร่วมมือร่วมไม้กัน ตำรวจคนเดียวหากมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนอย่างนี้อยู่ไม่ได้ ใครที่ไม่คิดปรับตัว หรือไม่คิดทำในทางที่ถูก ไม่รู้บทบาทหน้าที่ทำนอกลู่ถือว่าท่านเป็นส่วนหนึ่งของการขัดขวางการปฏิรูปตำรวจ ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร เป็นหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ดำนเนินการตามนี้

ส่วนที่ถามว่าข่าวเรื่องการปฏิรูปตำรวจที่ปรากฏในช่วงนี้ เนื่องจากต้องการกลบข่าวตำรวจฉาว พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า เป็นการตอบสนองต่อสิ่งที่ตำรวจกำลังทำไม่ดี เพราะใช้กลไกดำเนินการกับตำรวจที่ทำไม่ถูก ตอนนี้เรากำลังเข้าวาระแต่งตั้งใหญ่ประจำปี ช่วงนี้หากมีตำรวจคนใดที่ประพฤติผิด เราจะเห็นการโยกย้ายแน่นอน

http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=789789(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=789829(เครดิต)

สั่งตำรวจชุดล่อซื้อร้านคาราโอเกะพัทยาเข้าให้ปากคำ

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2559 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เปิดเผยกรณีตำรวจสืบสวนบช.ภ.2 เข้าล่อซื้อการค้ามนุษย์ภายในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แล้วเจ้าของร้านร้องเรียนกับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ว่าถูกกลั่นแกล้ง ว่า ขณะนี้เจ้าของร้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แล้ว ให้ดำเนินคดีกับตำรวจชุดจับกุมว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยว และเรียกรับผลประโยชน์ โดยคดีดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับตำรวจที่ถูกกล่าวหา และทำคดีในส่วนความเสียหายที่เจ้าของร้านได้รับ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 สั่งให้ตำรวจทั้งหมดมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างวันหยุดราชการ จึงยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก เบื้องต้น ให้ตำรวจชุดจับกุมที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดมาช่วยราชการที่ ศปก.บช.ภ.2 ไว้ก่อนแล้ว ระหว่างการตรวจสอบ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า กรณีที่เจ้าของร้านได้โทรศัพท์ตรงถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์นั้น ตนมีความ เห็นว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับสายโทรศัพท์ทุกคน หากไม่ติดประชุม ซึ่งเป็นการโทรศัพท์ไปสอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น และทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่เข้าข้างตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบแน่นอน ซึ่งอยากนำเรียนให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวสารของตำรวจในด้านดีบ้าง เนื่องจากแม้จะเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น แต่ตำรวจที่ตั้งใจทำงานก็ยังมีอีกจำนวนมาก ไม่อยากให้บั่นทอนกำลังใจคนตั้งใจทำงาน
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=789829(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

http://news.sanook.com/2033438(เครดิต)

น.1ผลสอบตร.โยงหญิงไก่พบบกพร่องอาจมีเกิน16คน

น.1ผลสอบตร.โยงหญิงไก่พบบกพร่องอาจมีเกิน16คน

INN News
สนับสนุนเนื้อหา
(เครดิต)
'พล.ต.ท.ศานิตย์' ปัดตอบกระแสถูกย้ายออกจากตำแหน่ง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยันทำหน้าที่สุดความสามารถ พร้อมให้ความเป็นธรรมอดีตลูกจ้างหญิงไก่ 2 รายโดยข้อหาลักทรัพย์ ส่วน 16 นายตำรวจพัวพันสำนวนพรุ่งนี้รู้ผล
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ไม่ขอตอบกรณีกระแสข่าวถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่ง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยยืนยันขอทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพราะเชื่อว่าหากทำดีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวล ส่วนการโยกย้าย ก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาที่จะเป็นผู้พิจารณา ตนขอทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อประเทศ และอยากเห็นคนไทยรักสามัคคีกัน 


ส่วนกรณีพบส่วยสติกเกอร์ ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 6 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ตนเคยย้ำเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงาน และหากตรวจสอบพบก็จะมีคำสั่งให้ย้ายออกนอกพื้นที่ทันที
ส่วนกรณีแม่บ้านใช้อาวุธปืนของผู้กำกับการ ยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ในวันพรุ่งนี้ ตำรวจ สน.บางเขน จะเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ ส่วน พันตำรวจเอก เจ้าของปืน ที่เคยเป็นผู้กำกับการ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่เป็นผู้ประสาน
พลตำรวจโท ศานิตย์ ยังเปิดเผยว่าพร้อมให้ความเป็นธรรมกับอดีตลูกจ้าง 2 ราย ที่ถูกนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือ นางไก่ แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ เมื่อปี 2554 ก่อนจะหลบหนีหมายจับไปยังประเทศบ้าน โดยขอให้ทั้งสองคนอย่ากังวลในเรื่องที่ถูกดำเนินคดี เพราะเบื้องต้นได้มีการประสานกับกระทรวงยุติธรรม ในการช่วยเหลือเรื่องการประกันตัว และช่วยทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงและให้ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง หากทั้งสองคน มีความประสงค์จะให้ตำรวจเข้าไปสอบปากคำในพื้นที่ภาคเหนือที่อยู่ใกล้ประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจก็พร้อมจะประสานหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ทั้งสองคนสามารถให้ข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ย้ำตำรวจไทยพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนผลการสอบสวน 16 นายตำรวจ ที่ทำคดีนางไก่ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุ ว่า ขณะนี้ ผลการสอบสวนออกมาแล้ว จะส่งมาที่ตนภายในวันพรุ่งนี้ โดยเบื้องต้นพบว่า ไม่มีการตรวจสำนวน ปล่อยปละละเลย จึงมีความผิดตามคำสั่ง ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 960 และ 419 ซึ่งเป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรงแต่หากพบว่าการทำสำนวนมีการช่วยเหลือนางไก่ จริง ตำรวจที่ทำสำนวนก็จะมีความผิด ตาม มาตรา157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และจะนำเข้าสู่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อทำการสืบสวนให้ความจริงปรากฏต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่า ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีของนางไก่ อาจจะมีมากกว่า16 คน แต่ได้โยกย้ายออกจาก พื้นที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553
http://news.sanook.com/2033438(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://www.manager.co.th/UpToDate/ViewNews.aspx?NewsID=9590000071996(เครดิต)
    พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 มีหนังสือคำสั่งให้ พ.ต.อ.อิทธิ ชำนาญหมอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมสั่งการให้ตำรวจภูธร จ.กำแพงเพชร ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาข้อบกพร่องข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง แล้วให้รายงานผลให้ตำรวจภูธรภาค 6 ทราบโดยเร็วที่สุด
        ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้จับกุมเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.2 โรงเรียนวชิรสารศึกษา จ.กำแพงเพชร จำนวน 2 คน กรณีฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติ ที่ปิดประกาศไว้ภายบริเวณโรงเรียน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำแล้วเด็กทั้งสองคนรับสารภาพว่า มูลเหตุจูงใจในการฉีกบัญชีรายชื่อ เนื่องจากเห็นว่าสีสวยเลยดึงมาฉีกเล่น จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าทำให้เสียทรัพย์ และดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี ไม่มีการรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาระดับภาค 6 ทราบ โดยผู้บังคับบัญชาทราบเหตุดังกล่าวจากสื่อมวลชน 
http://www.manager.co.th/UpToDate/ViewNews.aspx?NewsID=9590000071996(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000072038(เครดิต)
สามพี่น้องชีวิตสุดรันทด เข้าป่าเก็บเศษไม้เผาถ่าน เลี้ยงแม่ตาบอดวัย 80 ปี เจอยัดคดีมีไม้พะยูงในครอบครอง พบสำนวนมีพิรุธ
        กาฬสินธุ์ - ผู้ใหญ่บ้านโต้นยืนยันสามพี่น้องชาวอำเภอยางตลาด กาฬสินธุ์เข้าไปเก็บเศษไม้ทำฟืนเผาถ่านจริง ส่วนไม้ของกลางไม่ใช่ไม้ของสามพี่น้อง ด้านที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรมตำบลคลองขามเตรียมเดินสายขอความเป็นธรรมยื่นหนังสือต่ออัยการ จ.กาฬสินธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ขอรื้อคดีใหม่ ด้านสามพี่น้องเผยสภาพชีวิตสุดรันทด เบาหวานกำเริบ แม่วัย 80 ที่ตาบอด ป่วยโรคซึมเศร้า 
       
       จากกรณี น.ส.ประดิษฐ์ ภูนามูล อายุ 50 ปี นายถนอม ภูนามูล อายุ 49 ปี และนางทองผุด แจ้งเณร อายุ 42 ปี ชาว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทั้ง 3 คนเป็นพี่น้องกัน พร้อมชาวบ้านรวมตัวกันร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อ นายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรมตำบล และ ร.ต.ประธาน ประไชยโย หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย ม.พัน.14 จ.กาฬสินธุ์ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาดจับกุมในข้อหามีไม้พะยูงหวงห้ามในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยทั้งสามคนระบุว่าถูกกลั่นแกล้ง พร้อมขอความช่วยเหลือในกระบวนการยุติธรรม ให้ตรวจสอบการทำสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รื้อคดีและคืนความเป็นธรรม ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
       
       ล่าสุดวันนี้ (20 ก.ค. 59) นายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรมตำบลคลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังได้รับการร้องทุกข์จากสามพี่น้อง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารตรวจสอบหลักฐานจับกุมดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด พร้อมลงพื้นที่พิสูจน์ที่ตอต้นพะยูงในบริเวณป่าช้าท้ายหมู่บ้านที่สามพี่น้องเข้าไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่าน และไปที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาของกลาง พบความผิดปกติหลายประการ ส่อถึงความไม่โปร่งใสในการทำสำนวน จึงได้เตรียมทำหนังสือร้องทุกข์ไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพื่อคืนความเป็นธรรมให้สามพี่น้องโดยเร็ว
       
       หนังสือร้องทุกข์ที่กำลังรวบรวมข้อมูลนี้จะนำไปยื่นต่อสำนักงานควบคุมความประพฤติ จ.กาฬสินธุ์ เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ และอัยการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่ออุทธรณ์และเลื่อนระยะเวลาส่งฟ้องคดีของสามพี่น้องตามความเหมาะสม ตนมั่นใจว่าสามพี่น้องไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นชาวบ้านธรรมดา ฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำไร้ที่ทำกิน ไม่เคยมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายและไม้พะยูง ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าอาวาสวัดเห็นว่าเป็นครอบครัวที่น่าสงสาร ตั้งใจทำมาหากินโดยสุจริต จึงอนุญาตให้เข้าไปเอาเศษไม้ในป่าช้ามาทำฟืนเผาถ่านเท่านั้น
       
       ไม่ได้เข้าไปลักลอบตัดหรือขนย้ายไม้พะยูงมาแปรรูปหรือครอบครองแต่อย่างใด โดยเฉพาะเศษไม้พะยูงที่สามพี่น้องนำออกมาจากป่าช้านั้น ทุกคนต่างยืนยันเป็นเศษปลายไม้แห้งๆ ผุๆ แต่หลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ประกอบสำนวนแจ้งข้อหากลับเป็นไม้ท่อนขนาดใหญ่ถึง 10 ท่อน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านที่อนุญาตให้เข้าไปเอาไม้ก็ยืนยันว่าของกลางที่เห็นเป็นท่อนๆ นี้ไม่ใช่เศษไม้ในป่าช้า เมื่อเป็นอย่างนี้ตนก็ยอมไม่ได้ ในฐานะผู้นำชุมชนและเป็นที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรมตำบลจึงต้องผดุงความยุติธรรมให้ชาวบ้าน
       
       ด้าน น.ส.ประดิษฐ์ ภูนามูล อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 83 หมู่ 5 บ้านโต้น ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พี่สาวคนโต หนึ่งในผู้ต้องหากล่าวว่า หลังจากที่พวกตนสามพี่น้องถูกแจ้งข้อหาหนักดังกล่าวแทบไม่เป็นอันทำมาหากิน ซึ่งตนมีโรคประจำตัวป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว อาการยิ่งทรุดหนักแทบช็อกเสียชีวิตเพราะเบาหวานขึ้นสูงถึง 700 กังวลเรื่องที่เกิดขึ้นถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
       
       “พี่น้องคนอื่นก็เป็นทุกข์หนัก เพราะต่างเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว และมีลูกหลานเล็กๆ ในอุปการะรวมถึง 10 ชีวิต ยังต้องคอยสับเปลี่ยนกันดูแลแม่ตาบอดอายุ 80 ปี ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เมื่อรู้ว่าลูกสามคนถูกแจ้งข้อหาหนักก็เกิดโรคเครียด ซึมเศร้า น่าเวทนามาก ยิ่งซ้ำเติมสภาพจิตใจให้ล้มป่วยกันทั้งครอบครัว ต้องอุ้มลูกจูงหลานเสียค่ารถไปขึ้นศาลอีก หากถูกศาลตัดสินให้ติดคุกคงตรอมใจตาย จริงๆ แล้วเข้าไปเอาเศษไม้แห้งมาทำฟืนเผาถ่านใช้ในครัวเรือน ส่วนที่เห็นเป็นท่อนๆ ที่ตำรวจอ้างว่าเป็นไม้ที่พวกเรานำออกมาจากป่าช้านั้น ยืนยันไม่ใช่แน่นอน” น.ส.ประดิษฐ์กล่าว
       
       ขณะที่นายวิชัย ภูวาดสาย ผู้ใหญ่บ้านโต้น ม.5 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คณะกรรมการหมู่บ้านได้ประชุมกันมีมติให้ชาวบ้านที่มีฐานนะยากจน ไม่มีที่ทำกินสามารถเข้าไปในป่าช้าเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่านได้ ตนและเจ้าอาวาสอนุญาตให้ทั้งสามพี่น้องเข้าไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่านเพราะเห็นว่ามีฐานะยากจน การเข้าไปเก็บไม้ดังกล่าวเป็นเพียงเก็บเศษปลายไม้เก่าผุมาทำฟืน ส่วนลำต้นไม้พะยูงถูกคนร้ายลักลอบตัดไปนานแล้วตั้งแต่ปี 2556 เหลือแต่ตอผุพัง ไม่เข้าใจว่าทำไมชาวบ้านจึงมาถูกจับ ตนยืนยันว่าไม้ของกลางที่ยึดไว้และนำมาเป็นของกลางนั้นไม่ใช่ไม้ที่สามพี่น้องเก็บมา
       
       ด้านนายวิทยา บุญตาโลก นายก อบต.คลองขาม ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์ยุติธรรม ต.คลองขาม แจ้งว่า การเดินสายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมนั้น นอกจากจะยื่นต่อสำนักงานควบคุมความประพฤติ จ.กาฬสินธุ์, เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ และอัยการ จ.กาฬสินธุ์แล้ว ยังจะทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยื่นต่อ สภ.ยางตลาด ซึ่งเป็นเจ้าของคดี รวมทั้ง พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และ พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อขอให้รื้อคดีใหม่ โดยจะเริ่มยื่นหนังสือตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) เป็นต้นไป 
สามพี่น้องชีวิตสุดรันทด เข้าป่าเก็บเศษไม้เผาถ่าน เลี้ยงแม่ตาบอดวัย 80 ปี เจอยัดคดีมีไม้พะยูงในครอบครอง พบสำนวนมีพิรุธ
        
สามพี่น้องชีวิตสุดรันทด เข้าป่าเก็บเศษไม้เผาถ่าน เลี้ยงแม่ตาบอดวัย 80 ปี เจอยัดคดีมีไม้พะยูงในครอบครอง พบสำนวนมีพิรุธ
นายวิชัย ภูวาดสาย ผู้ใหญ่บ้านโต้น ม.5 ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ยืนยันว่าไม้ของกลาง ไม่ใช่ไม้ของสามพี่น้อง ที่เข้าไปเก็บเศษไม้มาทำฟืนเผาถ่าน

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000072038(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑


//////////////////////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย).....
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้(เครดิต)และ.....
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ.....
นี่คือตัวอย่างบางส่วนอ่านเพิ่มเติมได้ตามแว๊บที่อยู่ด้านบน.....
/////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์.....ถ่ายทอด.....
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....
สุพัฒน์กฤต(ป้อม) เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกาคนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกาผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
……………………………………………………………….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น