ข่าวตำรวจ
(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์...ถ่ายทอด) ประจำวันที่.....23 ก.ค.2559
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=790034(เครดิต)
“พงศพัศ” เร่งรัดปฎิรูปตำรวจ514สน.ทั่วปท.
ที่สน.บางเขน เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ10) พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบตร. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. และพล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น. ร่วมกันเดินทางมาเร่งรัดเกาะติดสถานการเรื่องการปฏิรูปงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมายของสถานีตำรวจทั่วประเทศจำนวน 514 แห่ง โดยมีพ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางเขน ให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในครั้งนี้ตนเดินทางมาเพื่อเกาะติดการเร่งรัดขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรตำรวจทั้ง 10 ประเด็น โดยเน้นเรื่องการปฏิรูประบบงานสอบสวนและบังคับใช้กฎหมายของสถานีตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการอำนวยความยุติธรรมในเบื้องต้นสำหรับประชาชนจึงเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้นจะต้องร่วมกันช่วยเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ในพื้นที่บช.น. มีสถานีตำรวจเบื้องต้นทั้งหมดจำนวน 30 แห่ง ที่จะต้องจัดบูรณาการเรื่องสืบสวนสอบสวนตามแนวทางการปฏิรูปด้านระบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย และจะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งการจัดทีมบูรณาการสำหรับการปฎิบัติงานรับแจ้งความและสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต้องไม่น้อยกว่า 3 ทีม โดยในแต่ละทีมจะประกอบด้วยพนักงานสอบสวนหัวหน้าทีม พนักงานสอบสวนประจำทีม ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายป้องกันปราบปราบ ฝ่ายจราจร ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมทั้งจัดยานพาหนะและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆให้เพียงพอต่อการปฎิบัติงาน โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนหัวหน้าทีมจะต้องเป็นผู้บริหารรับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งกำกับดูแลการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด ทั้งนี้เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมในเบื้องต้นเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม เท่าเทียม และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนโดยทั่วไป ในฐานะที่เป็นองค์กรต้นธารในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการมอบหมายให้ผู้ช่วยผบ.ตร. จำนวน 10 นาย ประกอบด้วยพล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ พล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ พล.ต.ท.อนุรุต กฤษะการะเกตุ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ และพล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รับผิดชอบควบคุมและกำกับดูแลการปฏิรูปในแต่ละประเด็น อีกทั้งต้องติดตามและเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินกสนปฏิรูปตามขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จโดยกำหนดระยะเวลาเร่งด่วน 1 ปี และจะต้องรายงานผลความคืบหน้าให้ทราบทุก 15 วัน หากฝ่าฝืนไม่สามารถทำได้ตามระยะเวลาที่กำหนดทางผบ.ตร. ได้เตรียมคาดโทษไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการบูรณาการเรื่องการทำสำนวนคดีในการรับแจ้งความร้องทุกข์จากประชาชนจะต้องมีพนักงานร่วมช่วยกันทั้งหมดจำนวน 5 ฝ่าย ประกอบด้วยพนักงานสอบสวนหัวหน้าทีม พนักงานสอบสวนประจำทีม ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน เสมียนประจำวัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อความรวดเร็วในการทำสำนวนคดี หากเป็นสำนวนเกี่ยวกับเรื่องแจ้งความเอกสารสูญหายให้ผู้ช่วยเป็นผู้รับเรื่อง อีกทั้งคอยประสานห้องวิทยุเพื่อให้ฝ่ายปราบปรามลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีที่มีผู้ร้องขอความช่วยเหลือ หากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ให้ทางพนักงานสอบสวนประจำทีม พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบในทันทีเนื่องจากจะได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ในทันที ทั้งนี้ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจหรือออกเวรให้ทุกฝ่ายมาสรุปสำนวนคดีร่วมกันเพื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการของคดีนั้นๆ จนไปสู่การติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้จะต้องเร่งบูรณาการเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเรื่องการทำสำนวนอย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้งการแบ่งหน้าที่กันทำงานเพื่อช่วยเหลือทางพนักงานสอบสวนเนื่องจากการทำคดีเพียงผู้เดียวมักจะเกิดความเครียดซึ่งมีหลายเหตุการณ์ที่ทางพนักงานสอบสวนมักจะฆ่าตัวตาย
“โดยหลังจากนี้จะต้องเร่งช่วยกันบูรณาการเนื่องจากจะได้แก้ไขปัญหาในการช่วยเหลือประชาชนทั้งบุคลากร อุปกรณ์ และยานพาหนะ อยากฝากเรียนถึงพี่น้องประชาชนหากพบข้อบกพร่องในการปฎิบัติหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งความประสงค์มาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การปฏิรูปเกิดผลประโยชน์สูงสุด ต่อเนื่อง รวดเร็ว และเป็นธรรม แก่พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในครั้งนี้ตนเดินทางมาเพื่อเกาะติดการเร่งรัดขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรตำรวจทั้ง 10 ประเด็น โดยเน้นเรื่องการปฏิรูประบบงานสอบสวนและบังคับใช้กฎหมายของสถานีตำรวจทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการอำนวยความยุติธรรมในเบื้องต้นสำหรับประชาชนจึงเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้นจะต้องร่วมกันช่วยเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ในพื้นที่บช.น. มีสถานีตำรวจเบื้องต้นทั้งหมดจำนวน 30 แห่ง ที่จะต้องจัดบูรณาการเรื่องสืบสวนสอบสวนตามแนวทางการปฏิรูปด้านระบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย และจะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งการจัดทีมบูรณาการสำหรับการปฎิบัติงานรับแจ้งความและสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต้องไม่น้อยกว่า 3 ทีม โดยในแต่ละทีมจะประกอบด้วยพนักงานสอบสวนหัวหน้าทีม พนักงานสอบสวนประจำทีม ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายป้องกันปราบปราบ ฝ่ายจราจร ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมทั้งจัดยานพาหนะและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆให้เพียงพอต่อการปฎิบัติงาน โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนหัวหน้าทีมจะต้องเป็นผู้บริหารรับผิดชอบในการสืบสวนสอบสวนเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งกำกับดูแลการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด ทั้งนี้เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมในเบื้องต้นเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม เท่าเทียม และได้รับความไว้วางใจจากประชาชนโดยทั่วไป ในฐานะที่เป็นองค์กรต้นธารในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการมอบหมายให้ผู้ช่วยผบ.ตร. จำนวน 10 นาย ประกอบด้วยพล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ พล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ พล.ต.ท.อนุรุต กฤษะการะเกตุ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ และพล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รับผิดชอบควบคุมและกำกับดูแลการปฏิรูปในแต่ละประเด็น อีกทั้งต้องติดตามและเร่งรัดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินกสนปฏิรูปตามขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ อย่างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จโดยกำหนดระยะเวลาเร่งด่วน 1 ปี และจะต้องรายงานผลความคืบหน้าให้ทราบทุก 15 วัน หากฝ่าฝืนไม่สามารถทำได้ตามระยะเวลาที่กำหนดทางผบ.ตร. ได้เตรียมคาดโทษไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการบูรณาการเรื่องการทำสำนวนคดีในการรับแจ้งความร้องทุกข์จากประชาชนจะต้องมีพนักงานร่วมช่วยกันทั้งหมดจำนวน 5 ฝ่าย ประกอบด้วยพนักงานสอบสวนหัวหน้าทีม พนักงานสอบสวนประจำทีม ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน เสมียนประจำวัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อความรวดเร็วในการทำสำนวนคดี หากเป็นสำนวนเกี่ยวกับเรื่องแจ้งความเอกสารสูญหายให้ผู้ช่วยเป็นผู้รับเรื่อง อีกทั้งคอยประสานห้องวิทยุเพื่อให้ฝ่ายปราบปรามลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีที่มีผู้ร้องขอความช่วยเหลือ หากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ให้ทางพนักงานสอบสวนประจำทีม พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบในทันทีเนื่องจากจะได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ในทันที ทั้งนี้ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจหรือออกเวรให้ทุกฝ่ายมาสรุปสำนวนคดีร่วมกันเพื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการของคดีนั้นๆ จนไปสู่การติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้จะต้องเร่งบูรณาการเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเรื่องการทำสำนวนอย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้งการแบ่งหน้าที่กันทำงานเพื่อช่วยเหลือทางพนักงานสอบสวนเนื่องจากการทำคดีเพียงผู้เดียวมักจะเกิดความเครียดซึ่งมีหลายเหตุการณ์ที่ทางพนักงานสอบสวนมักจะฆ่าตัวตาย
“โดยหลังจากนี้จะต้องเร่งช่วยกันบูรณาการเนื่องจากจะได้แก้ไขปัญหาในการช่วยเหลือประชาชนทั้งบุคลากร อุปกรณ์ และยานพาหนะ อยากฝากเรียนถึงพี่น้องประชาชนหากพบข้อบกพร่องในการปฎิบัติหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแจ้งความประสงค์มาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การปฏิรูปเกิดผลประโยชน์สูงสุด ต่อเนื่อง รวดเร็ว และเป็นธรรม แก่พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=790034(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://www.manager.co.th/UpToDate/ViewNews.aspx?NewsID=9590000073205(เครดิต)
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนและประสานงานการปฏิรูปองค์กรตำรวจและคณะ เดินทางลงพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน เพื่อติดตามเร่งรัดการปฏิรูปงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมายของสถานีตำรวจนครบาลบางเขน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีตำรวจนครบาลที่จะต้องมีการปฏิรูปให้แล้วเสร็จภายในระยะเร่งด่วน 1 ปี ตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการตำรวจระยะ 20 ปี พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวีระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมตรวจเยี่ยม
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการตำรวจระยะ 20 ปีทั่วประเทศ 514 สถานีตำรวจ โดยเน้นย้ำไปที่การจัดชุดพนักงานสอบสวนแบบบูรณาการ เพื่อให้การทำคดีมีความรัดกุม รอบคอบเป็นธรรมต่อคู่กรณี ทั้งในเรื่องการทำสำนวน การรวบรวมพยานหลักฐานที่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเพื่อลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ในฐานะต้นทางของกระบวนการยุติธรรม โดยจะจัดทีมพนักงานสอบสวนอยู่ประจำโรงพักตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายจราจร ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน เป็นต้น ผลัดเวรกันดูแลประจำแต่ละสถานีตำรวจ และเมื่อถึงช่วงรอยต่อของการผลัดเวรจะมีการประชุมร่วมกันทุกครั้งเพื่อรับทราบสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งเพิ่มเติมในเรื่องของยานพาหนะและอุปกรณ์ในการทำงานอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น และประชาชนที่มาใช้บริการมีความสะดวกรวดเร็วขึ้น
สำหรับแนวทางการปฏิรูปกิจการตำรวจระยะเร่งด่วน 1 ปีนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดูแลใน 10 ประเด็นหลัก และจะมีการรายงานทุกๆ 15 วัน โดยในส่วนของตำรวจนครบาลจะเริ่มดำเนินการก่อน 30 สถานี ซึ่งเป็นสถานีตำรวจที่มีพนักงานสอบสวนค่อนข้างน้อย แต่มีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำหนดกรอบเวลาไว้ 1 ปี หากการปฏิรูปยังไม่สำเร็จจะมีบทลงโทษในระดับผู้บังคับบัญชา โดยส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นทุกๆ วัน
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการตำรวจระยะ 20 ปีทั่วประเทศ 514 สถานีตำรวจ โดยเน้นย้ำไปที่การจัดชุดพนักงานสอบสวนแบบบูรณาการ เพื่อให้การทำคดีมีความรัดกุม รอบคอบเป็นธรรมต่อคู่กรณี ทั้งในเรื่องการทำสำนวน การรวบรวมพยานหลักฐานที่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเพื่อลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ในฐานะต้นทางของกระบวนการยุติธรรม โดยจะจัดทีมพนักงานสอบสวนอยู่ประจำโรงพักตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายจราจร ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน เป็นต้น ผลัดเวรกันดูแลประจำแต่ละสถานีตำรวจ และเมื่อถึงช่วงรอยต่อของการผลัดเวรจะมีการประชุมร่วมกันทุกครั้งเพื่อรับทราบสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งเพิ่มเติมในเรื่องของยานพาหนะและอุปกรณ์ในการทำงานอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น และประชาชนที่มาใช้บริการมีความสะดวกรวดเร็วขึ้น
สำหรับแนวทางการปฏิรูปกิจการตำรวจระยะเร่งด่วน 1 ปีนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดูแลใน 10 ประเด็นหลัก และจะมีการรายงานทุกๆ 15 วัน โดยในส่วนของตำรวจนครบาลจะเริ่มดำเนินการก่อน 30 สถานี ซึ่งเป็นสถานีตำรวจที่มีพนักงานสอบสวนค่อนข้างน้อย แต่มีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำหนดกรอบเวลาไว้ 1 ปี หากการปฏิรูปยังไม่สำเร็จจะมีบทลงโทษในระดับผู้บังคับบัญชา โดยส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นทุกๆ วัน
http://www.manager.co.th/UpToDate/ViewNews.aspx?NewsID=9590000073205(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://news.sanook.com/2035166(เครดิต)
ตร.ยังไม่สรุปแอร์โฮสเตสเครียดปมศัลยกรรมโดดห้างดับ
สนับสนุนเนื้อหา
(เครดิต)
โก้อดีตคนขับรถหญิงไก่พบกองปราบยันความบริสุทธิ์
สนับสนุนเนื้อหา
(เครดิต)
//////////////////////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย).....
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้(เครดิต)และ.....
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ.....
นี่คือตัวอย่างบางส่วนอ่านเพิ่มเติมได้ตามแว๊บที่อยู่ด้านบน.....
/////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์.....ถ่ายทอด.....
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร
พรเทพ.....
(พี่เทพ)
(บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์)
สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....
สุพัฒน์กฤต(ป้อม)
เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588(ไลน์)หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....
รอง
บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น