ข่าวตำรวจ
(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด) ประจำวันที่.....12 ก.ย.2559
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000091271(เครดิต)
| |
 |
วันนี้ (11 ก.ย.) พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้เปิดโครงการ “เพื่อนรักนักสืบ” โดยมี พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.กันต์พงษ์ โฆษิตสุริยมณี สว.กก.สส.ภ.จว.นครปฐม นายกองโทเพเยาว์ เนียะแก้ว อดีตนายก อบจ.นครปฐม ผู้ทรงคุณวุฒิการบริหารพัฒนาองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจังหวัดนครปฐม ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครชุมชนต่างๆ เข้าร่วมในพิธีเปิดที่ห้องประชุม ชั้น 2 ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม
พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า การเปิดโครงการดังกล่าวเนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบันของประเทศไทยซึ่งได้เข้าสู่ AEC จังหวัดนครปฐมเองในปัจจุบันซึ่งมีทั้งประชากรหลัก และประชากรแฝง รวมทั้งแรงงานต่างชาติ และนักท่องเที่ยวเข้ามาพักอาศัยจำนวนมากขึ้น แนวโน้มของการเกิดอาชญากรรมก็มีมากขึ้น ทั้งในคดีประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกาย เพศ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ รวมไปถึงคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนจับกุมตัวผู้กระทำผิดทำได้ยากขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นที่เป็นปัจจุบันไม่มากพอ
กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม จึงได้เล็งเห็นว่า ความสำคัญของภาคประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นเป็นกำลังสำคัญที่ควรได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงจัดให้มีโครงการ “เพื่อนรักนักสืบ” ขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
โดยมีวัตถุประสงค์ที่ควรให้ภาคประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วม ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ในการติดตามจับกุมคนร้าย และปราบปรามการกระทำผิดต่างๆ เมื่อมีเหตุเกิด เพื่อให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการปราบปรามผู้กระทำผิด เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจกับประชาชน ระหว่างประชาชนกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้จัก และเข้าใจสถานการณ์ และปัญหาของชุมชน
ตลอดจนรู้จัก และเข้าใจความต้องการของประชาชน ส่วนเป้าหมายเพื่อให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้รับข้อมูล เบาะแสต่างๆ ในด้านการข่าว การปฏิบัติงานสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายคดีต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการดำเนินการได้ทำการคัดเลือกประชาชนที่มีจิตอาสาซึ่งมาจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชนที่มีจิตอาสา และได้รับการคัดสรรจากกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รับผิดชอบของสถานีตำรวจ 12 สถานีในจังหวัดนครปฐม สถานีละ 2 นาย เพื่อเป็นแกนนำเครือข่ายเพื่อนรักนักสืบ จัดประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติหลักการปฏิบัติให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ผลที่คาดว่าจะได้รับ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชนในการสืบสวนจับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน รู้จัก และเข้าใจสภาพปัญหาของสังคม และเข้าใจความต้องการของประชาชน
ทั้งนี้ การจัดทำโครงการดังกล่าวเป็นแนวคิด และวางนโยบายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องการจะให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างตำรวจ และผู้นำชุมชนที่มีความเข้าถึงพื้นที่ สามารถเข้ามาร่วมแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000091271(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000091299(เครดิต)
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมซิกเซ็นต์ ห้องที่ 35 เลขที่ 89 หมู่ 1 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ด.ต.วิบูลย์ กองรัตน์ อายุ 35 ปี ผบ.หมู่ ปป.สภ.เมืองชลบุรี ปัจจุบันย้ายไปประจำที่ศาลแขวงจังหวัดชลบุรี ประจำ 3 สัปดาห์ ได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม.ประจำกายยิงตนเองเสียชีวิต โดยเขียนไลน์ส่งไปถึงลูก และภรรยาว่า แม่ และลูกพ่อไปสบายแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ต่อมา วันนี้ (11 ก.ย.) พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า จากกรณีที่ ด.ต.วิบูลย์ กองรัตน์ ผบ.หมู่ ปป.สภ.เมืองชลบุรี ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตัวเองเสียชีวิตไม่ใช่เรื่องเรื่องงานตำรวจ แต่เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะกรณีที่ ด.ต.วิบูลย์ ถูกโยกย้ายสลับตำแหน่งเนื่องจากตำรวจ ผบ.หมู่ ปป.สภ.เมืองชลบุรี รายหนึ่งปลดเกษียณจากตำรวจประจำศาลแขวงจังหวัดชลบุรี ไป ทางศาลแขวงจึงขอให้ส่งตำรวจมาแทน ดังนั้น พ.ต.ท.คมน์สรณ์ มาบำรุง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชลบุรี จึงได้สลับตำแหน่งให้ ด.ต.วิบูลย์ มาทำงานที่ศาลแขวงจริง แต่ให้อยู่เพียง 1 เดือนแล้วก็จะสลับตำรวจรายอื่นมาอยู่ ดังนั้น สาเหตุนี้จึงไม่น่าจะใช่สาเหตุการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ แต่จากการสอบสวนจากเพื่อนตำรวจหลายราย ทราบว่า ด.ต.วิบูลย์ ชอบเล่นพนันฟุตบอลต่างประเทศอยู่เป็นประจำ จึงมีหนี้สินล้นพ้นตัว ทางตน และผู้บังคับบัญชาได้กล่าวตักเตือนหลายครั้งแล้ว แต่ ด.ต.วิบูลย์ ก็ไม่เชื่อฟัง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาครอบครัวต้องดูแลเลี้ยงดูภรรยาถึง 2 ครอบครัวอีกด้วย จึงอาจจะเป็นสาเหตุในการคิดสั้นในครั้งนี้ | |||
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น