วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

ข่าวตำรวจ (น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด) ประจำวันที่.....21 ก.ย.2559

ข่าวตำรวจ (น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด) ประจำวันที่.....21 ก.ย.2559
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094172(เครดิต)

สิงห์มอเตอร์ไซค์ขยาด ตำรวจจีนยุคใหม่ใช้ “โดรน” ออกลาดตระเวน จับตามองทุกฝีก้าว !
โดรนสามารถบินได้ด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ควบคุมได้ภายในรัศมี 15 กิโลเมตร (ภาพกรมตำรวจเสฉวน)
        เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงาน (19 ก.ย.) ตำรวจเสฉวนนำโดรนติดกล้องออกลาดตระเวน ตรวจจับสิงห์มอเตอร์ไซค์ฝ่าฝืนกฎจราจร
       
       ในช่วงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 3 วัน (15 -17 ก.ย.) ประชาชนชาวจีนต่างพากันเดินทางกลับบ้านเพื่อฉลองเทศกาลประจำปี ทำให้การจราจรบนท้องถนนสายต่างๆแน่นขนัดไปด้วยรถยนต์ 
       
       ในการนี้ รัฐบาลท้องถิ่นมณฑลเสฉวนได้ส่งกำลังตำรวจ 12,600 นาย พร้อมรถตำรวจอีก 4,000 คันออกดูแลความปลอดภัยและคอยตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร นอกจากนี้ ยังได้นำหุ่นอากาศยานสอดแนมไร้คนขับ (โดรน) ติดกล้องออกลาดตระเวนบนเส้นทางสำคัญอีกด้วย 
       
       เจ้าหน้าที่กระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ประจำเมืองเสฉวนเผยว่า โดรนสามารถบินได้ด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ควบคุมได้ภายในรัศมี 15 กิโลเมตร สามารถบินไปกลับได้ในเวลา 40 นาที และสามารถถ่ายภาพเลขทะเบียนรถอย่างชัดเจนได้ในระยะ 100 เมตร โดยโดรนสามารถส่งวิดีโอหรือภาพถ่ายกลับมายังศูนย์ควบคุมได้แบบแบบเรียลไทม์ (Real-time) ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น และจะวางแผนแก้ปัญหาอย่างไร นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดสดวิดิโอผ่านบัญชีเวยปั๋ว (ทวิตเตอร์ภาคจีน) ของรัฐบาลท้องถิ่นอีกด้วย
       
       รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมักนำโดรนออกร่วมอำนวยการจราจร โดยเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมให้นักขี่มเตอร์ไซค์เคารพกฎจราจร โดยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา หุ่นโดรนสามารถตรวจจับสิงห์มอเตอร์ไซค์ผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรได้มากถึง 90 ราย และทำให้บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนต่างเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้ไม่มีอุบัติเหตุใหญ่และไม่มีรถติดยาว
       
        “โดรน” ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจจีน เช่น ตำรวจในเมืองหนันจิง มณฑลเจียงซู ได้นำหุ่นโดรนออกบินสำรวจเขตก่อสร้างผิดกฎหมาย ซึ่งใหญ่เกินกว่าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบด้วยตนเอง ส่วนตำรวจในเมืองสิงไถ มณฑลเหอเป่ย ก็ใช้โดรนเข้าตรวจสอบพื้นที่ซึ่งไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ในอดีต 


http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094172(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094723(เครดิต)
หนุ่มโวย ตร.เพิกเฉยแก๊งขอทาน ยึด Walking Street หากิน
         
       MGR Online - หนุ่มหิ้วป้ายร้องหน้า สตช. โวยแก๊งขอทานจับเด็กมานั่งหากินย่าน Walking Street ทั้งที่แจ้งให้จับกุมแล้วแต่เรื่องเงียบหาย วอนให้มีการปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง
       
       วันนี้ (20 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายธันวา ไกรฤกษ์ อายุ 36 ปี ชาว กทม. ได้เดินทางมาที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมถือป้ายข้อความเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจ โดยให้แก้ไขปัญหาขอทานที่ขโมยเด็กเล็กมานั่งขอทานริมทาง หลังพบเด็กถูกแก๊งขอทานอุ้มเวียนมานั่งข้างถนนทั้งวันทั้งคืนที่ Walking Street พัทยา
       
       นายธันวากล่าวว่า ตนมาเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใส่ใจปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการขโมยเด็กมาอุ้มนั่งขอทานริมทาง เนื่องจากเมื่อหลายเดือนก่อนตนเดินทางไปที่ Walking Street พัทยา พบเห็นแก๊งขอทานเวียนกันอุ้มเด็กที่คาดว่าน่าจะถูกมิจฉาชีพขโมยมานั่งขอทานทั้งวันทั้งคืน ตนในฐานะพ่อคนหนึ่งจึงทนดูไม่ได้ โดยจากการสังเกตลักษณะการอุ้ม การส่งต่อเด็ก ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นเด็กที่ถูกขโมยมานำมานั่งขอทานเป็นช่วงเวลา พอหมดช่วงเวลาของตัวเองก็ส่งต่อเด็กให้กับขอทานอีกคน แต่ที่แปลกใจมากกว่านั้นคือตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณดังกล่าวไม่ดำเนินการใดๆ ต่อกลุ่มคนดังกล่าว ทั้งที่บริเวณดังกล่าวมีป้อมตำรวจถึง 3 แห่ง จากนั้นตนจึงตัดสินใจเข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในป้อมตำรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกปัดว่าเป็นหน้าที่ของเทศบาลไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง
       
       “เรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีการออก พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน เพิ่มระดับโทษของผู้ที่ทำผิด ซึ่งในกฎหมายระบุชัดเจนแล้วว่าให้ตำรวจเป็นผู้ปราบปรามจับกุม ด้วยความสงสารเด็กและไม่อยากให้เกิดปัญหานี้แบบนี้อีกต่อไป ผมจึงเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้มีการดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง หน่วยงานราชการอีกหลายแห่ง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็พบว่ามีการโยนเรื่องกันไปมาว่าเรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง และล่าสุดเมื่อติดต่อไปก็พบว่าหนังสือที่ยื่นร้องเรียนของผมนั้นหายไปจากระบบแล้ว” นายธันวากล่าว
       
       นายธันวากล่าวด้วยว่า ส่วนตัวคิดว่าทางตำรวจควรให้ความสำคัญต่อขบวนการขอทาน เพราะเป็นส่วนที่เชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ เด็กที่ถูกนำมาขอทานนั้นเป็นเด็กที่ขโมยมาจากที่ต่างๆ รวมทั้งบริเวณชายแดน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของมุษย์และภาพลักษณ์ของประเทศ มากกว่าการจับคนเล่นโปเกมอน 
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000094723(เครดิต)
๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
http://news.sanook.com/2070126(เครดิต)

สงขลาขึ้นป้ายผตห.ป่วนใต้กลางสี่แยกให้แจ้งเบาะแส

สงขลาขึ้นป้ายผตห.ป่วนใต้กลางสี่แยกให้แจ้งเบาะแส

INN News
สนับสนุนเนื้อหา
(เครดิต)
ตำรวจขึ้นป้ายผู้ต้องหาเหตุระเบิดในพื้นที่ภาคใต้กลางสี่แยกเมืองหาดใหญ่ ให้ชาวบ้านแจ้งเบาะแส - กดดันไล่ล่า
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงพยายามทุกวิถีทางในการไล่ล่าติดตามจับกุมและหาเบาะแสกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะงานด้านมวลชน ล่าสุดวันนี้ ตำรวจสันติบาลใน จ.สงขลา ได้นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นภาพของผู้ต้องหาคนสำคัญตามหมายจับเหตุระเบิดภาคใต้จำนวน 10 คน มาติดไว้บริเวณสี่แยกควนลังถนนเพชรเกษมตัดถนนสายเอเชีย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่แยกหลักที่เชื่อมต่อการเดินทางทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่ภาคใต้ตอนบนและ จ.สตูล เพื่อขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสทั้งสายด่วน 191 หรือ ตำรวจในพื้นที่ โดยแยกเป็นผู้ต้องที่ก่อเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัด 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน จำนวน 5 คน และเหตุระเบิดที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2558 จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงนำมาใช้เพื่อไล่ล่าและกดดันกลุ่มก่อความไม่สงบที่อาจเข้ามาแฝงตัวในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่ยังคงมีการเฝ้าระวังและเป็นเมืองหลัก และศูนย์กลางที่กลุ่มก่อความไม่สงบ กระจายตัวเดินทางไปลงมือก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ประกอบด้วย นายอัสมีน กาเต็มมาดี, นายฮากีม ดอเลาะ, นายเสรี แวมามุ, นายรุสลัน ใบมะ, นายอาหามะ เลงฮะ นายอัสมีน กาเต็มมาดี, นายฮากีม ดอเลาะ, นายอัลดุลเลาะ สาแม, นายอัมมัร แวดาราแม, นายมูหาหมัดยากี สาแล๊ะ และนอกจากสี่แยกควนลังแล้ว ทางตำรวจสันติบาลจะดำเนินการติดตั้งป้ายแบบเดียวกันนี้ บริเวณทางแยกและจุดสำคัญอีกหลายจุดเพื่อให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด
http://news.sanook.com/2070126(เครดิต)
๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓
//////////////////////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย).....
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้(เครดิต)และ.....
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ.....
นี่คือตัวอย่างบางส่วนอ่านเพิ่มเติมได้ตามแว๊บที่อยู่ด้านบน.....
/////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงาน(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด).......
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
ผู้อำนวยการน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....
สุพัฒน์กฤต(ป้อม) เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588(ไลน์)หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกาคนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกาผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
……………………………………………………………….
(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด).......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น