“รพ.จุฬาลงกรณ์” ชวนประชาชนร่วมงาน
วันโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Day)
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดย ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร แห่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับฝ่ายการพยาบาล ฝ่ายสวัสดิการสังคม และชมรมคนรู้ทันอัมพาต ที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง ขอเชิญประชาชนทั่วไป ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบและครอบครัว ตลอดจนผู้สนใจ เข้าร่วมงาน “เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7รอบ 84 พรรษา” และวันโรคหลอดเลือดสมองโลก “ครั้งที่ 8” World Stroke Day ในวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 08.30-15.00 น. ณ อาคาร อปร ห้องประชุมเฉลิมพรมมาสติดต่อลงทะเบียนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 085-119-6150, 02-256-4655ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
0-2256-4669 FAX.0-2256-4669
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
การแห่ปราสาทผึ้ง
เป็นประเพณีสำคัญงานหนึ่งในฮีตเดือนสิบเอ็ด
การแห่ปราสาทผึ้งนั้นเป็นการถวายแด่องค์พระธาตุเชิงชุม
สำหรับตำนานของการทำปราสาทผึ้ง
มาจากคติที่เชื่อว่าเป็นการทำบุญเพื่อให้ได้ไปเกิดในภพหน้า เช่น
การไปเกิดในสวรรค์ก็จะมีปราสาทอันสวยงามแวดล้อมด้วยนางฟ้าเป็นบริวาร
ถ้าเกิดใหม่ในโลกมนุษย์จะมีแต่ความมั่งมีศรีสุขแต่ปัจจุบันคนอีสานถือว่าประเพณีนี้เป็นการร่วมงานบุญบนความรื่นเริงอันยิ่งใหญ่ในรอบปี
เนื่องจากเป็นช่วงที่ว่างจากงาน และตามตำนานอีกเรื่องหนึ่งมีว่า
ในสมัยพุทธกาลเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาเป็นปีที่ 7 บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ประทับที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์
ทรงแสดงอภิธรรมปฏิกรณ์แก่พุทธมารดา
เป็นการตอบแทนพระคุณจนกระทั่งบรรลุถึงโสดาบัน ครั้นถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งเป็นวัน “มหาปวารณาออกพรรษา พระพุทธเจ้ากำหนดเสด็จสู่เมืองมนุษย์
พระอินทร์จึงเนรมิตบันได 3 ชนิด คือ….
บันไดทองคำ อยู่เบื้องขวา สำหรับทวยเทพเทวดาลง
บันไดเงิน อยู่เบื้องซ้าย สำหรับพระพรหมลง
บันไดแก้วมณี อยู่ตรงกลาง เพื่อให้พระพุทธองค์เสด็จ
เชิงบังไดทั้ง 3
นี้ ตั้งอยู่ที่ประตูเมืองสังกัสสนครในโลกมนุษย์
หัวบันไดอยู่ที่เขาสิเนคุราช บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ก่อนเสด็จลงพระพุทธเจ้าประทับยืนบนบอดเขาสิเนรุราช ทำ “โลกนิวรณ์ปาฏิหาริย์”
โดยทรงแลดูเบื้องบนปรากฏมีเนินเป็นอันเดียวกันถึงพรหมโลก
ทรงแลดูข้างล่างก็ปรากฏมีเนินเป็นอันเดียวกันถึงอเวจีนคร
ทรงแลดูรอบทิศจักรวาลหลายแสน ก็ปรากฏเนินอันเดียวกัน (สวรรค์ มนุษย์ และนคร
ต่างมองเห็นกัน) ซึ่งเรียกวันนี้ว่า
“วันพระเจ้าเปิดโลก”
๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
ททท. เชิญร่วมชมประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม
สัมผัสความงดงามและศรัทธาอันยิ่งใหญ่บนสายน้ำโขง
“ไหลเรือไฟ”
เป็นพิธีกรรมที่พุทธศาสนิกชนชาวอีสานยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ
มักนิยมจัดขึ้นในวันออกพรรษา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11)
โดยมีความเชื่อว่าการไหลเรือไฟเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธองค์ประทับไว้
ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทานที ครั้งที่พญานาคได้ทูลอาราธนาพระพุทธองค์ไปแสดงธรรมในพิภพของนาคใต้เมืองบาดาล
รวมทั้งความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาพญานาคในลำน้ำโขง การระลึกถึงพระคุณของพระแม่คงคา
ขอขมาลาโทษต่อแม่น้ำ ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในแม่น้ำ
และยังถือเป็นการลอยเคราะห์ลอยโศก ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข มีโชคมีลาภ
นางสาวบุณยานุช
วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครพนม
กล่าวว่า ประเพณีไหลเรือไฟ
ถือเป็นประเพณี
ที่เป็นเอกลักษณ์จังหวัดนครพนมและร่วมสืบต่อกันตั้งแต่สมัยโบราณด้วยความเชื่อและความศรัทธา
ประเพณีไหลเรือไฟอยู่ใน ฮีตเดือน 11 คืองานบุญออกพรรษา ซึ่งมีประเพณีไหลเรือไฟ
หรือไหลเฮือไฟ รวมอยู่ด้วย
เป็นพิธีกรรมเพื่อเป็นการบูชาต่อแม่น้ำโขงที่ชาวบ้านในลุ่มน้ำโขงได้ใช้สอยแม่น้ำในการดำรงชีวิตและขอขมาต่อแม่น้ำที่ได้ทำการล่วงล้ำก้ำเกิน
และถือเป็น การบูชารอยพระพุทธบาทตามความเชื่อในตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา
นอกจากนั้นในตำนานยังเล่าขานกันว่าในแม่น้ำโขง เป็นที่สิงสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
เช่น พญานาค เจ้าพ่อเหล็กซีด้ามแตก เจ้าพ่อคำแดง เจ้าพ่อหมื่น เจ้าพ่อสัมมะติ เจ้าพ่อสิบสอง
ต้องทำการบรวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น เพื่อให้ท่านปกปักรักษาบ้านเมือง
ประชาชนให้มีความสงบสุขร่มเย็น ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และขอให้มีโชคลาภ
การทำมาหากินให้มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรือง
ททท.สำนักงานนครพนม
ขอเชิญเที่ยวชมงานประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประจำปี 2559 ณ
บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร และสนามศาลากลางจังหวัดนครพนม
ในระหว่างวันที่ 9 - 17 ตุลาคม 2559 อิ่มบุญ อิ่มใจ
พร้อมร่วมสืบสานอนุรักษ์ประเพณีพื้นถิ่นอีสานตาม "ฮีตสิบสอง คองสิบสี่"
สืบสานความเชื่อและความศรัทธา คู่แม่น้ำโขง
ท่องเที่ยวและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น
ในปีท่องเที่ยววิถีไทย 2559
๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓
ไทย-จีน ร่วมมือ MOU เสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวคุณภาพ
จัดตั้งคณะทำงานกลไกดูแลด้านการท่องเที่ยวของทั้ง2 ประเทศ
เน้นชูความความปลอดภัยและความเป็นธรรมจากบริษัทนำเที่ยว เดินหน้าวาระหารือ CNTA หาแนวทางปราบปรามบริษัททัวร์ที่ผิดกฎหมาย
นางกอบกาญจน์
วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือกับ นายหวัง
เสี่ยวเฟิง รองประธานสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (China
National Tourism Administration : CNTA) ว่าได้ร่วมกันหาแนวทางในการปราบปรามบริษัททัวร์ที่ผิดกฎหมาย
และดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเจรจาส่งเสริมแลกเปลี่ยนสินค้าด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน
โดยการประชุมครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือด้วย ได้แก่ กองมาตรฐานและกำกับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว
สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 ณ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก
ภายหลังการหารือดังกล่าว
ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวานนี้
(20 ก.ย. 59) ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยความร่วมมือในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ซึ่งเป็นการลงนามระหว่าง นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และ นายหวัง เสี่ยวเฟิง รองประธาน CNTA โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามดังกล่าว สำหรับบันทึกความเข้าใจฯ
มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.
จัดตั้งกลไกในด้านการสื่อสารและความร่วมมือในการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ
โดยการจัดตั้งคณะทำงานความร่วมมือไทย - จีน เพื่อดูแลด้านการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้ได้รับความปลอดภัยในการท่องเที่ยวและได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทนำเที่ยว
2.
สร้างกลไกในความร่วมมือ และสนับสนุนซึ่งกันและกันในการควบคุมดูแลและจัดการด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งการรับมือเมื่อเกิดเหตุร้ายกับนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ
3.
สร้างกลไกในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพและการฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ
รวมทั้งร่วมกันจัดการฝึกอบรมมัคคุเทศก์และหัวหน้าทัวร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบรรยาย
ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน พร้อมกำกับดูแลความเรียบร้อยของนักท่องเที่ยว
การลงนาม MOU นี้จะเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมกันกำกับดูแลการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
รวมทั้งเพิ่มคุณภาพการบริการ และมาตรการด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ รองประธาน CNTA และคณะ
ได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่สำคัญหลายแห่งที่มีภารกิจในการกำกับดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อาทิ
สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวและศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวประจำสนามบินสุวรรณภูมิ
สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวและศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวประจำสนามบินนานาชาติจังหวัดภูเก็ต
รวมทั้งไปศึกษาดูงานสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในจังหวัดภูเก็ต
เช่น วัดฉลอง ร้านขายอัญมณีและของที่ระลึก หาดในจังหวัดภูเก็ต และภูเก็ตแฟนตาซี เป็นต้น
รายละเอียด มติคณะรัฐมนตรี
วันที่ 20 กันยายน 2559
เรื่อง
ขออนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการกำกับดูแลความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการกำกับดูแลความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและ
กก. แห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้
หากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้ กก. พิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
2. อนุมัติให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายพงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์) เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ (โดยระบุตำแหน่ง)
สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อการขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน
ซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เช่น การดูแลความเรียบร้อยในการท่องเที่ยว
เพิ่มคุณภาพการบริการด้านการท่องเที่ยว
และสนับสนุนให้เกิดความเรียบร้อยในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ
ได้แก่ 1) การจัดตั้งกลไกในด้านการสื่อสารและความร่วมมือ 2)
การสร้างกลไกในความร่วมมือและการปฏิบัติ และ 3) การสร้างกลไกในความเข้าใจกันและฝึกอบรม
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงาน(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด).......
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
ผู้อำนวยการน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....
สุพัฒน์กฤต(ป้อม)
เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588(ไลน์)หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....
รอง
บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
……………………………………………………………….
(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์และน.ส.พ.สายกลาง(นครสวรรค์)ถ่ายทอด).......
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น