ททท. จับมือผู้ประกอบการท่องเที่ยวตลาดจีน
แถลงข่าว “แนวทางการแก้ไขปัญหาขายทัวร์ออนไลน์ต่ำกว่าราคาทุน”
---------------------------------------------------------------
เช้าวันนี้ (31 พฤษภาคม 2560) ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เป็นประธานในงานแถลงข่าว “แนวทางการแก้ไขปัญหาขายทัวร์ออนไลน์ต่ำกว่าราคาทุน” ซึ่งจัดขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการทั้งบริษัทนำเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว
ที่เน้นเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT ผ่านทางออนไลน์ ได้ทราบถึงความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไข ปัญหาการขายทัวร์ออนไลน์ราคาต่ำกว่าทุน เพื่อให้เกิดการแข่งขัน
อย่างเสรี และเป็นธรรมไม่ทำลายกลไก ราคา โดยมีนายนิพนธ์
บุญมาสุวราญ ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์
(ประเทศไทย) และ
นางศรีสุดา วณภิญโญศักดิ์
รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เข้าร่วมแถลงข่าว
นายยุทธศักดิ์
กล่าวว่า “ทิศทางหลักของการส่งเสริมตลาดต่างประเทศของ ททท. ในปี 2560
มุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมหรือ Preferred
Destination สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก
มุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ
ปรับโครงสร้างตลาดสู่กลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลาง-บน และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนจากการเติบโตของค่าใช้จ่ายมากกว่าจำนวน
ด้วยการนำเสนอ Unique Local Experience ทั้งนี้กำหนดเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ
10 กอปรกับตลาดจีน เป็นตลาด ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย
และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนดำเนินการเพื่อปรับโครงสร้างนักท่องเที่ยว
จากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องพบว่าราคาทัวร์มาท่องเที่ยวประเทศไทยปรับตัวไปในทิศทางที่น่าพอใจ
ในขณะที่นักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ของจีนกำลังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างนั้น
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวออนไลน์ที่เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Free Independent
Traveler (FIT) ของจีน ก็ได้รับผลกระทบจากการขาย สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตัดราคาของ
Online Travel Agent (OTA) จีน
ททท.
ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ในไทยร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหา
จนในที่สุดได้รวมตัวกันตั้งชมรมธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ (ประเทศไทย) หรือ Online
Tourism Club Thailand เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560 ปัจจุบันมีสมาชิก 44
ราย ประกอบด้วยผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวตลาดออนไลน์จำนวน 19 ราย และผู้ประกอบการแหล่งท่องเที่ยวจำนวน
25 ราย”
ทั้งนี้ ททท. มีแนวทางสนับสนุนการดำเนินงานของชมรมธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ ได้แก่
1. ช่วยประชาสัมพันธ์ Walk In Rate ของสมาชิกชมรมในทุกช่องทางสื่อสารที่
ททท. มีอยู่
2. จัด Road show เฉพาะกลุ่มที่ขายผ่าน Online 3 เมืองในสาธารณรัฐประชาชนจีน
ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว เพื่อให้มีโอกาสพบปะเจรจาธุรกิจกับ buyers
(10 website ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน)
3. ททท. จะเป็นพยานในการลงนาม MOU ระหว่างชมรมธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์
(ประเทศไทย) กับ OTA ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยให้ สนง.
ททท. 5 แห่ง ช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวดังกล่าว
4.
เปิดโอกาสให้มีการรับรู้ในวงกว้างเกี่ยวกับชมรมธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์
(ประเทศไทย) ในงานต่าง
ๆ อาทิ TTM Plus 2017 จ.เชียงใหม่ ,CITM นครคุนหมิง, งาน Road show / Trade show
นายยุทธศักดิ์
กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือของภาคเอกชนและ ททท.
ครั้งนี้มีความสำคัญยิ่ง
เนื่องจากเป็นการตอกย้ำและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ
การซื้อขายสินค้าออนไลน์เป็นไปตามกลไกการตลาด
อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการขายตัดราคาในตลาดออนไลน์
ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยต่อไป”
ผู้ประกอบการท่องเที่ยวออนไลน์ที่เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม FIT ของจีน สนใจเข้าร่วมชมรมฯ
สามารถติดต่อได้ที่ Email : info@onlinetourismclub.org
หรือ เฟซบุคแฟนเพจ Online
Tourism Club Thailand
………………………………………………………….
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
ชวนคนท้องถิ่นร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
และการท่องเที่ยวเชิงอาหารกระจายรายได้ตรงสู่ชุมชน
นางกอบกาญจน์
วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
เปิดเผยว่าได้ร่วมมือกับกลุ่มประชารัฐ
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
จัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน “วิ่งทะเลน้อย ร้อยรัน”
ในวันอาทิตย์ ที่ 23 กรกฎาคม 2560
ชมทะเลน้อยบนสะพานยาว
ที่สุดในประเทศไทย
ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เส้นทาง
เชื่อมต่ออำเภอระโนด จังหวัดสงขลา
ในทะเลน้อยเราได้เห็นควายน้ำและนกน้ำท้องถิ่นในย่านนี้
การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
หลักเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตจังหวัดพัทลุง
และ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ ประสบปัญหาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามีน้ำท่วมพัทลุงนานนับเดือน
และทำให้ควายทะเลน้อยล้มตายกว่า 200 ตัว
คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมวิ่งกว่า 2,000 คน
เดินทางข้ามภาคมาจากหลากหลายจังหวัด มีทีมกองเชียร์แต่งตัวเป็นหนังตะลุง
ให้กำลังใจนักวิ่งตลอดเส้นทางและ การแสดงดนตรีจากชาวบ้านในท้องถิ่นใช้กระเป๋ากระจูด
ใช้ถ้วยรางวัลทำจากกระจูด ส่วนอาหารที่จัดเลี้ยง
เป็นขนมท้องถิ่น อาทิ ขนมปำ, ขนมลา, ขนมฝักบัว, ขนมโคหัวล้าน
และ ข้าวต้มมัดอัญชัญ เป็นต้น
เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่นโดยตรง
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าส่งเสริม
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร ( Gastronomy Tourism ) ขับเคลื่อน โครงการ Amazing
Thai Taste โดยกลุ่มประชารัฐ ร่วมกับร้านอาหารไทย 10 แห่ง
คัดเลือกพันธุ์ข้าวท้องถิ่น จำนวน 4 พันธุ์
สร้างวัตกรรมข้าวท้องถิ่นพร้อมรับประทาน ได้แก่ 1.ข้าวหอมมะลินิลสุรินทร์
2.ข้าวเหนียวลืมผัว 3.ข้าวสังข์หยด และ
4.ข้าวหอมมะลิแดง
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเลือกรับประทานข้าวถิ่นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
พร้อมนำเสนอเมนูเด็ดของแต่ละร้านให้เลือกรับประทาน
รมว.ท่องเที่ยวฯ
ยังได้กล่าวสรุปรายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวว่า สถิติจนถึงปัจจุบัน ( 29
พฤษภาคม 2560 ) มีนักท่องเที่ยวสะสมรวมกว่า 14
ล้านคนแล้ว ก่อให้เกิดรายได้ 719,286 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.63
และ 4.35 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ททท.
เปิดแคมเปญ Thailand
Shopping and Dining Paradise 2017 ณ 3 ห้างใหญ่ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายช่วงกรีนซีซั่นเสริมการท่องเที่ยวให้คึกคักตลอดปี
|
เย็นวันนี้
(2 มิถุนายน 2560) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ Thailand Shopping and Dining
Paradise 2017 โดยมี นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด นายปรีชา เอกคุณากูล
กรรมการผู้จัดการใหญ่
และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้า ดิ
เอ็มโพเรี่ยม และดิ เอ็มควอเทียร์ ผู้บริหารจากหน่วยงานพันธมิตร แบ่งพิธีเปิดเป็น 3
แห่ง ตามแนวคิด Travelling
Paradise นำเสนอโดย มาริโอ้ เมาเร่อ Shopping Paradise นำเสนอโดย มิน พีชญา และ Dining Paradise นำเสนอโดย
ใหม่ ดาวิกา ณ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
และศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กล่าวว่า โครงการ Thailand
Shopping and Dining Paradise 2017 จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวซื้อสินค้าและบริการในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว
(Green Season) ของประเทศไทย พร้อมสร้างการรับรู้ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งซื้อสินค้าที่สะดวกมีคุณภาพและหลากหลายแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนและการกระจายรายได้สู่
ภูมิภาค
โดยเฉพาะเมืองชายแดนซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและเมืองสำคัญของภูมิภาค ได้แก่
อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อำเภออรัญประเทศ
จังหวัดสระแก้ว อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
และกรุงเทพมหานคร กำหนด จัดโครงการดังกล่าวฯ
พร้อมกัน ในวันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2560 โดยแต่ละพื้นที่
มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายที่แตกต่างกันออกไป
ตามความเหมาะสมของพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
นายนพดล กล่าวในรายละเอียดว่า
การจัดงาน Thailand
Shopping and Dining Paradise 2017 กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศร้อยละ
40 (ประเทศในภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออก เอเชียใต้และโอเชียเนีย)
และนักท่องเที่ยวชาวไทย ร้อยละ 60 มีแนวคิดในการจัดงานและรายละเอียดการจัดช่วงเวลาพิเศษเพื่อกระตุ้นการขายที่แตกต่างกันไป
กล่าวคือ
- อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ใช้ชื่องาน “กิน ช็อป เที่ยว @ อรัญประเทศ” แนวคิด งานเดียว ที่ “กิน ช็อป เที่ยว ...
เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร” จัดกิจกรรมส่งเสริมพิเศษในวันที่ 16 - 17
มิถุนายน 2560 ณ ลานสยามมินทร์ เทศบาลอรัญประเทศ และพบกับนักแสดงมากมาย
อาทิ ตั๊กแตน ชลดา ปอ-หนิม แห่งบ้าน AF ยุ้ย จีรนันท์ มโนแจ่ม
- อำเภอแม่สอด
จังหวัดตาก ใช้ชื่องาน ช้อปถูกใจ กินเที่ยวเก๋ไก๋ สไตล์แม่สอด แนวคิด “กิน ช็อป เที่ยว” ครั้งแรกที่แม่สอดจัดกิจกรรมส่งเสริมพิเศษในวันที่ 30 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2560
ณ ห้างโรบินสัน แมคโคร เทสโก้โลตัส และพิธีเปิดงาน Thailand Shopping &
Dining Paradise ที่ห้างโรบินสัน ในวันที่ 30 มิถุนายน 2560 พบกับศิลปินนักร้องดังชาวเมียนมา ที่จะมาสวัสดี “มิงกะลาบา” ส่งความสุขผ่านเสียงเพลงพร้อมกับนักร้องสาวชาวไทย
มินท์ AF ร่วมกับ นายชิ สุวิชาน
นักร้องจากเผ่าปกาเกอะญอ
และการแสดงทางวัฒนธรรมหลากหลาย
- อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีโปรโมชั่นส่วนลดและสิทธิพิเศษตลอด 2 เดือนเต็ม โดยจัดงานฯ ในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมโครงการ อาทิ เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ลีการ์เด้นส์ พลาซ่า โอเดียน แฟชั่นมอลล์ ไดอาน่า คอมเพล็กซ์ หาดใหญ่ และรับส่วนลดจากโรงแรม สวนน้ำ สวนสนุก เช่น เซ็นทารา โฮเทล บุรี ศรีภู บูทีค โฮเทล The Pirates Park โดยสังเกตจากสัญลักษณ์ Thailand Shopping & Dining Paradise 2017 และพิธีเปิดงาน Hat Yai ใน Shopping & Dining Paradise 2017 ในวันที่ 10 มิถุนายน 2560 ณ หน้าห้างโอเดียน แฟชั่นมอลล์ ช็อปแล้วร่วมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินจาก Thai Air Asia 3 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง เส้นทาง หาดใหญ่ – กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ และของรางวัลอีกเพียบ
และการแสดงทางวัฒนธรรมหลากหลาย
- อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีโปรโมชั่นส่วนลดและสิทธิพิเศษตลอด 2 เดือนเต็ม โดยจัดงานฯ ในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมโครงการ อาทิ เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ลีการ์เด้นส์ พลาซ่า โอเดียน แฟชั่นมอลล์ ไดอาน่า คอมเพล็กซ์ หาดใหญ่ และรับส่วนลดจากโรงแรม สวนน้ำ สวนสนุก เช่น เซ็นทารา โฮเทล บุรี ศรีภู บูทีค โฮเทล The Pirates Park โดยสังเกตจากสัญลักษณ์ Thailand Shopping & Dining Paradise 2017 และพิธีเปิดงาน Hat Yai ใน Shopping & Dining Paradise 2017 ในวันที่ 10 มิถุนายน 2560 ณ หน้าห้างโอเดียน แฟชั่นมอลล์ ช็อปแล้วร่วมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินจาก Thai Air Asia 3 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง เส้นทาง หาดใหญ่ – กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ และของรางวัลอีกเพียบ
- อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
โดยจัดกิจกรรมในวันที่ 1 - 2 กรกฎาคม 2560 ณ ห้างเซ็นทรัลขอนแก่น ซึ่งจะพบกับขบวนร้านค้า
ทั้งอาหารร้านเด็ด บูธสายการบินไทย สมายล์ ห้างทอง สวนสัตว์ขอนแก่นมาร่วมจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษและออกบูธให้นักช้อป
นักชิม นักเที่ยว พร้อมลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินจากสายการบิน Thai Air Asia 3 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง เส้นทางขอนแก่น – กรุงเทพฯ – ขอนแก่น โดยผู้ประกอบการในจังหวัด เช่น โรงแรมที่พักในจังหวัดขอนแก่น
จัดโปรโมชั่นพิเศษตลอดสองเดือน
และ
กรุงเทพมหานคร จัดงาน Thailand
Shopping and Dining Paradise 2017 ในแนวคิด “The World’s Longest
Shopping and Dining Route” เนื่องจากห้างสรรพสินค้าที่ร่วมกิจกรรมจะตั้งอยู่ตั้งแต่ถนนพระราม
1 ถนนสุขุมวิท จนถึง ถนนบางนา-ตราด ได้แก่
MBK Center Siam Discovery
Siam Center Siam Paragon Central Department Store
and ZEN Central Group CentralWorld สมาคม ผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เทอร์มินอล
21 อโศก ชอปปิ้ง มอลล์ บริหาร
ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม และ ดิ เอ็มควอเทียร์ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ร่วมด้วย เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ Show
DC ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง
สาขาบางลำพู เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ และ RIVER
CITY BANGKOK
ทั้งนี้ สินค้าที่นำมาร่วมโครงการจะเน้นสินค้าช็อปปิงและบริการท่องเที่ยว
สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ Transportation (การเดินทาง
เช่น สายการบิน เรือยอร์ช) Dining (ภัตตาคาร-ร้านอาหารสไตล์เก๋ไก๋) Entertainment/Theme Parks (สวนสนุก-ศูนย์การเรียนรู้) Department
Stores/Shopping Malls/Shop (ห้างสรรพสินค้า-ศูนย์การค้า/ร้านค้า) Health
& Wellness, Beauty (สุขภาพและความงาม) Accommodation
(ที่พักหรู ระดับ 4-5 ดาว) Gem
& Jewelry & Accessories (อัญมณีและเครื่องประดับ) ซึ่งจะมีการนำเสนอสิทธิพิเศษในรูปแบบ “ลด
แลก แจก แถม” เช่น
การลดราคาสินค้า-บริการ แจกคูปองส่วนลด การให้ของแถม (Premiums
& Gifts) การชิงโชครางวัล การแลกซื้อสินค้า ในช่วงการจัดกิจกรรมให้กับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
โดยได้รับความร่วมมืออย่างดี
จากพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ บัตรเครดิต
เช่น VISA,
Mastercard, UnionPay ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า/
ศูนย์การค้าทั่วประเทศ สายการบิน
เช่น Thai
Smile, Thai AirAsia, Bangkok Airways, Nok Air ผู้ประกอบจากสมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมสปาไทย
สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ
นายนพดล กล่าวตอนท้ายว่า โครงการ Thailand Shopping and Dining Paradise
2017 นี้เป็นโครงการที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 โดยปรับเปลี่ยนจากโครงการ Amazing Thailand Grand Sale เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงการเป็นแหล่งสินค้าคุณภาพสูงของภูมิภาค
ซึ่งในปี 2559 รายได้ที่เกิดจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างประเทศในโครงการฯ
เป็นเงิน 2,756,609,228 บาท เป็นค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวภูมิภาคอาเซียน และอินเดีย สินค้าที่ได้รับความนิยม คือ เสื้อผ้า/เครื่องแต่งกาย ร้านอาหาร ที่พัก/โรงแรมเครื่องใช้ไฟฟ้า/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ งานฝีมือ/งานหัตถกรรม และสปา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandshoppingdining.com Facebook: thailandshoppingdining หรือ 1672
เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย
-----------------------------------------------------
ปลัดฯท่องเที่ยวฯยกระดับ
ปางช้างไทย..ปลุกกระแส
"พังนิ้งหน่อง" ชูช้างไทย
ดังไกลไปทั่วโลก
จากกรณีโลกออนไลน์
กล่าวถึง "พังนิ้งหน่อง"
ช้างไทยที่เคยช่วยชีวิต
เด็กหญิงนักท่องเที่ยว
ชาวอังกฤษตอนเกิด
เหตุการณ์ "ซือนามิ"
ที่ภูเก็ต เมื่อปี 2547 จน
เป็นข่าวดังไปทั่วโลกนั้น
ต่างมีกระแสทั้งเชิงบวก
และเชิงลบเกี่ยวกับการดูแล
และอนุรักษ์ช้างไทย
กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ด้านการท่องเที่ยวโดยตรง
ไม่ได้นิ่งนอนใจในจุดนี้
กระทรวงฯ พยายาม
สนับสนุนและส่งเสริม
โครงการอนุรักษ์ช้างไทย
และช่วยเหลือช้างที่บาดเจ็บ
ช้างชรา ช้างเร่ร่อน
โดยจะบูรณาการทุก
ภาคส่วนเพื่อสร้างภาพลักษณ์
ที่ดีของการท่องเที่ยวไทย
"วันนี้ตนมาตรวจราชการ
ที่จังหวัดกาญจนบุรี และ ได้มี
โอกาสมาเยี่ยมชมปางช้าง
ซึ่งจากการตรวจสอบร่วมกับ
ตร.ทท. พบเอกสารหลักฐาน
ถูกต้องทุกอย่าง และ สภาพแวดล้อมของช้างก็อยู่ใน
สภาพที่มีความสุขตาม
สมควร"
"ช้าง" เป็นสัตว์คู่บ้าน
คู่เมืองมีบุญคุณต่อแผ่นดิน
ไทยตั้งแต่ครั้งประวัติศาสตร์
สมัยกรุงศรีอยุธยา
ดังนั้นการดูแลช้าง
ถ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเราก็
พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ถ้า
ทำไม่ถูกต้องเราก็จะบูรณาการ
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อบังคับใช้กฎหมายเพื่อ
จัดระเบียบให้ถูกต้องต่อไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น