วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ข่าวท่องเที่ยว 2 ข่าว(30/6/60) (ดีโพลมานิวส์สายกลางข่าวท่องเที่ยว/ข่าวโรงพยาบาล/ข่าวบันเทิง (ผักบุ้ง...รายงาน)

 รมว.ท่องเที่ยว  ประกาศใช้แนวคิดการท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ ( Value Added  Tourism)  (ดีโพลมานิวส์สายกลางข่าวท่องเที่ยว/ข่าวโรงพยาบาล/ข่าวบันเทิง (ผักบุ้ง...รายงาน)


รมว.ท่องเที่ยว  ประกาศใช้แนวคิดการท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ ( Value Added  Tourism)  สินค้า-บริการท้องถิ่น เพื่อกระจายรายได้ ดันสร้างรายได้ไทยให้และผลัก GDP ไทยให้โตต่อเนื่อง
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ภาพรวมรอบครึ่งปีขณะนี้ (ม.ค.-มิ.ย.2560) พบว่าการท่องเที่ยวไทยมีการขยับเพิ่มทั้งรายได้ 852,038.62 ล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยว 16,818,556 คน เติบโตขึ้นกว่าปี 2559 กว่า 5.61% และ 3.91ตามลำดับ โดยข้อมูลมีความสอดคล้องกับการคาดการณ์ ของ World Travel and Tourism Council ( WTTC) ที่ได้วิเคราะห์ว่า ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยเติบโตอย่างมาก และมีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้นใน 10 ปีข้างหน้า นับจากปี 2016 เป็นต้นมา โดยในปี ค.ศ. 2016 ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (Visitor exports) รวมมูลค่า 53.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 78.6 ของรายได้จากมูลค่าการส่งออกด้านการบริการ (Service exports) ของประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ 19.1 ของรายได้จากมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการ (Goods and Services) โดยรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็น 17% ของ GDP ในปี 2559
ทั้งนี้ WTTC ยังคาดการณ์อีกว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้ามูลค่าเพิ่มสาขาการท่องเที่ยวจะขยายตัวสูงที่สุด ซึ่งจะขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 6.7 ส่วนมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจะขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.7 ซึ่งเป็นโจทย์ข้อใหญ่นับจากนี้ ในการที่ประเทศไทยจะต้องมีการวางยุทธศาสตร์รากฐานการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวไว้อย่างครอบคลุมรอบด้าน และเติบโตอย่างยั่งยืน
"วันนี้เป้าหมายสำคัญคือ เราต้องทำให้การท่องเที่ยวสร้างรายได้ กระจายรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในประเทศได้ เห็นได้ชัดว่าการท่องเที่ยวมีความสำคัญในการขับเคลื่อน GDP ประเทศไทย และในอีก 10 ปีข้างหน้าจะยิ่งมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้โอกาสนี้หาช่องให้การท่องเที่ยวไทยเพิ่มรายได้ (Value Added Tourism) ให้กับสินค้า การบริการท้องถิ่นของไทยไปด้วยกันได้ด้วย" นางกอบกาญจน์กล่าว
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในช่วงเวลานับจากปีนี้ ไทยจะเน้นเรื่องการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวใน 6 ด้านที่สำคัญคือ ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลาง (Hubs) การเดินทางท่องเที่ยวในอาเซียน 5 ด้าน ได้แก่ 1.การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) 2.การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness) 3.การเป็นศูนย์กลางการจัดงานแต่งงาน (Wedding & Romance) 4.การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) 5.การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ASEAN Connect) 6. การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)
******************************



ศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยว ททท. ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
พร้อมเสวนา “ความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม”


บ่ายวันนี้ (30 มิถุนายน 2560) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และศาสตราจารย์นายแพทย์สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ลงนามบันทึกข้อ

ตกลงความร่วมมือทางด้านวิชาการการวิจัยเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการไทย ระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยในอนาคตท่ามกลางวิกฤตการณ์ และกระแสการท่องเที่ยวใหม่ๆ ณ ห้อง Sapphire Suite โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ กรุงเทพฯ

        นายยุทธศักดิ์  สุภสร  ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยว หรือศูนย์ TATIC (TAT Intelligence Center) ของ ททท. ที่มีเครือข่ายหน่วยงาน

พันธมิตรเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลงานวิจัยให้สามารถนำมาต่อยอดแนวความคิดและวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าผลต่อเนื่องจากการลงนามในครั้งนี้จะเสริมความเข้มแข็งให้ศูนย์ TATIC สร้างประโยชน์ให้แก่

ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนได้นำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจวางแผนด้านการตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันในเวทีโลก

        สำหรับการเสวนา ในหัวข้อ “ความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม”                                 ถือเป็นก้าวแรกของความร่วมมือกับ สกว. โดยมุ่งหวังที่จะขับเคลื่อนและสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และฉายภาพแนวโน้มของการท่องเที่ยวไทยในอนาคตสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมตามมุมมอง                   ของแต่ละหน่วยงานที่มีบทบาทเกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้เห็นสถานการณ์แนวโน้มและเหตุปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดจนกลยุทธ์การเตรียมความพร้อมที่จะสร้างความแตกต่างของไทยในเวทีโลก
        ททท. ในฐานะองค์กรที่มีบทบาทในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยตระหนักถึงศักยภาพขององค์กรในการแข่งขันในระดับโลก จึงได้วางรากฐานและความมั่นคงด้านการท่องเที่ยวของไทยเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะสามารถเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ศูนย์ TATIC เป็นเสมือนเข็มทิศชี้นำทิศทางแนวโน้มในอนาคตของการท่องเที่ยวไทย และเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีข้อมูลในการต่อยอดองค์ความรู้ด้านการตลาด ตลอดจนจะได้ร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวให้เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปให้ทันต่อสถานการณ์ท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มปรับตัวในทางที่ดีขึ้น

ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 2 ปี 2560 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 40 ล้านคน-ครั้ง รายได้ประมาณ  2.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 8.02 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ทั้งนี้ ประมาณการว่าเมื่อสิ้นปี 2560 จะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 156.37 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 9.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.98 ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 35 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.59 ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ ได้ที่ www.tourismthailand.org/TATIC หรือ TATIC Mobile Application             


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

youtu.be/5dSyb9ftlCw


(โปรดคลิกที่ภาษา
อังกฤษเพื่อดูคลิปเพิ่ม)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
(เครดิต)ขอให้เครดิตชื่อด้านล่างนี้ทุกชื่อ


(เครดิต)
ขอให้เครดิตชื่อด้านบนนี้ทุกๆชื่อ
คลิปหรือข่าวของเราต้องมีชื่อ
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง
หรือชื่อตามที่ระบุใน(เครดิต)
และมีชื่อทีมงานทุกตอนเท่านั้น
ถ้าไม่มีแสดงว่าไม่ใช่ของเรา
---------------------------

ถ้าจะดูข่าวเพิ่มเติมให้คลิกที่
ภาษาอังกฤษถัดลงมาใต้จอ
เป็นสีน้ำเงินอยู่บนคำว่า

(โปรดคลิกที่ภาษา
อังกฤษเพื่อดูคลิปเพิ่ม)

***************
ต้องการอ่านรายละเอียด)
หรือดูภาพนิ่งที่)คมชัดกว่านี้ให้
เปิดดูที่ชื่อแว๊บนี้)
***************
diplomanews.
blogspot.com
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ขอขอบคุณและให้เคร
ดิตเจ้าของภาพ/ข่าว/)
โลโก้/รายชื่อ/ตามที่ปรากฏอยู่)
เหนือ/ใต้/ซ้ายขวา/ภายในคลิปและ
ภาพ/ข่าวทั้งหมดนี้”)
โปรดระวัง คลิปอื่น)ต่อเนื่องที่ไม่พึง)
ประสงค์แทรกเข้า)มาขออย่าได้เปิดดู)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ทีมงานน.ส.พ.
ดีโพลมานิวส์สายกลาง)
มีผู้บริหารดังนี้)
บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ)
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและ)
หัวหน้ากองบรรณาธิการ)
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และ)
ห.น.ศูนย์วิทยุ)น.ส.พ.ดาวสยาม)
ปัจจุบันผู้อำนวยการ)
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง)
ผู้ทำข่าวส่งยูทูบในฐานะ
Partner  youtube
เสริมศิริ  เพ็ญเขตกร )
บรรณาธิการบริหาร)
EIAM  SAETANG)
(ฝ่ายเท็คนิคและทำข่าวส่งยูทูบ)
รองฯ กรรณชัย
 (นามปากกาผู้กองแอ๊ด”)
ปฐมภพ หิรัญสัจจาเลิศ)
(นามปากกา “คนสายกลาง”)
....ที่ปรึกษา ผ.อ.)
สมชัย บริเวณไพศาล)
ที่ปรึกษา ผ.อ)
จตุพล (นามปากกาอัพเดท)
สุพรรณษา แซ่อั๊ง
(นามปากกา"ผักบุ้ง)
สุนันทา ธัญญะพัฒนา)
(ที่ปรึกษา ผ.อ.)นามปากกา
(ดอกคูณเมืองขอนแก่น)
ที่ปรึกษาผ.อ.)
บรรทิศ คนเมืองคอน)
(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์)
บุญรุ่ง พวงทอง )
นามปากกา(คนเดลิมิเร่อร์)
ชมรมสื่อมวลชน
และเพื่อนทนายความ)
....ที่ปรึกษา)
เรามีทนายความ)
ช่วยเหลือคนจน)
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม)
(ที่ปรึกษา).....สื่อในเครือ)
เสริมสุข ขวัญปัญญา)
(ฝ่ายข่าวกฎหมาย)
ทนายความ)
นงลักษณ์ สุขจิรัง)
(ฝ่ายข่าวกฎหมาย)
ทนายความ)
099-2612588(ไลน์)
086 – 7928056)
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามี
ผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน)
dpm2554@gmail.com)
(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก)
นามปากกาคนพิเศษ”)
(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.)
ตรวจสอบชื่อผู้สื่อข่าว
โทร.086-7928056
(ดีโพลมานิวส์สายกลางแนะนำข่าว)

********************



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น