ประวัติพุ่มพวง 2 (นำ้ผึ้งจุฬมภา)(ดีโพลมา2258)
Last Updated On: 23 กรกฎาคม 2557 - 19:15:00
มีแฟนคลับถามกันมามากมาย ว่าผึ้งพุ่มพวง 2 เป็นใคร มาจากใหน ถึงใด้มาเป็นพุ่มพวง 2 ขอเชิญ มิตรที่รัก แฟนคลับทุกๆท่าน อ่านใด้ในนิตยาสาร ชีวิตจริง ผึ้งเลยย่อมาให้ท่านใด้อ่านกันนะคะ..........หนังสือชีวิตจริง เปิดชีวิต"พุ่มพวง 2........สู่ตั้งแต่วัยเด็กจนกลายเป็น...นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ชีวิตต้องสู้ไม่ต่างจาก"พุ่มพวง' ตัวจริงนอกจากจะมีใบหน้าท่าทางและเป็นเงาเสียงของอดีตราชินีลูกทุ่งชื่อดังผู้ล่วงลับไปแล้ว พุ่มพวง ดวงจันทร์ เธอคนนี้ คุณจุฬัมภา สอนสติ ยังเป็นสาวยอดนักสู้ที่ไม่แตกต่างจากพุ่มพวง ดวงจันทร์ตัวจริงอีกด้วย เธอมีฉายาว่า พุ่มพวง 2 แต่กว่าเธอจะก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ในวันนี้ เธอต้องต่อสู้กับอุปสรรคมากมายหลายอย่าง ไม่ต่างกับ พุ่มพวง ตัวจริงเลย ดิฉันชื่อปราณี สอนสติ หรือชื่อเล่นว่าแหม่ม ปัจจุบันนี้ ชื่อจุฬัมภา สอนสติ ดิฉันเกิดที่โคราช อำเภอโนนไทย มีพี่น้องทั้งหมด 4คน ดิฉันเป็นคนที่ 3 ครอบครัวของดิฉันเป็นครอบครัวลิเก คุณพ่อ คุณแม่และพี่สาว รวมทั้งตัวดิฉันเป็นลิเกกันหมดทุกคน คุณพ่อชื่อ สนั่น สอนสติ คุณแม่ ชื่อเสวย ศรีวันทา คณะลิเกชื่อ ส.ศรกายสืทธื คุณพ่อท่านเสียตั้งแต่ดิฉันยังเด็กๆ หลังจากที่คุณพ่อเสียทางครอบครัวเราก็ได้ล้มคณะลิเก ทางคุณแม่และพี่สาวก็ไปเป็นศิลปินรับเชิญเล่นลิเกให้กับคณะต่างๆ ดิฉันเริ่มจำความได้นั้น พี่สาวจะพาดิฉันและน้องสาวไปเเสดงลิเกตั้งแต่เด็กๆด้วย เมื่อตอนเด็กๆ ดิฉันจะเป็นเด็กที่ขี้เหร่มากๆ ตัวอวบๆ ดำๆ ดังนั้น ทุกครั้งก่อนที่จะเเสดงลิเก พี่สาวจะเป็นคนแต่งหน้าให้ดิฉันแต่งไปก็โมโหไปด้วย เพราะหน้าดิฉันจะแต่งยากมากในเวลานั้น ดิฉันเรียนที่โรงเรียนวัดโคกพรมตั้งจงจิตรจบชั้นประถมปีที่ 6 ครอบครัวของดิฉันลำบากมากๆ ตั้งแต่คุณพ่อท่านเสีย คุณแม่ก็ทำหน้าที่เป็นทั้งคุณพ่อและคุณแม่ในเวลาเดียวกัน คุณแม่ท่านเป็นผู้หญิงที่สู้มากๆ คุณแม่จะเป็นคนทำมาหาเลี้ยงลูกๆทั้ง 4 คน บางครั้งคุณแม่และพี่สาวต้องแยกคณะกันไปเล่น จนกระทั่งวันหนึ่งมีการประกวดลิเกของคุณพ่อประจวบ จำปาทอง ทางพี่สาวและดิฉันก็แยกคณะกันประกวด ซึ่งเด็กๆดิฉันยังไม่รู้จักนักร้องที้ชื่อพุ่มพวง ดวงจันทร์ ในงานประกวดลิเกวันนั้น ในห้องแต่งตัว ขณะที่พี่สาวกำลังแต่งหน้าให้ดิฉันอยู่ด้วยความโมโห พี่ผึ้งมานั่งอยู่ข้างหลังดิฉัน เตรียมตัวที่จะขึ้นร้องเพลงอยู่นั้น พี่สาวก็แต่งหน้าดิฉันไปด่าไปบอกดิฉันหน้าคล้ายกับคนที่นั่งข้างหลัง ดิฉันก็หันไปมอง..ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร หลังจากที่ดิฉันถูกพี่สาวด่าว่าขี้เหร่อยู่บ่อยๆ เข้า ดิฉันจึงรู้สึกน้อยใจ เลยไม่อยากเเสดงลิเก เลิกตามพี่สาวดิฉันเลยไปทำงานกับพี่ชายเป็นกระเป๋ารถเมล์ เก็บตั๋วหนังและเก็บขยะขายประเภทพวกทองแดงชั่งกิโล พอมีรายได้ก็นำมาให้คุณแม่ ช่วงชีวิตตอนนั้นดิฉันลำบากมากๆ แต่ก็ต้องสู้อดทนจนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งเพื่อนที่ชื่อเดือนกับดาวที่เคยเป็นนักร้องอยู่ร้านอาหารฟ่ร์มปลาทูทองที่โคราชเขาบอกว่าหน้าเหมือนแล้วเสียงแกเหมือนพุ่มพวงดีลองมาสมัครเป็นนักร้องที่นี่ไหม พอดิฉันไปถึงที่ร้านเจ้าของเขาก็บอกว้าไม่เอา เขามีนักร้องประจำร้านที่เสียงเหมือนกับพุ่มพวงอยู่คนนึงแล้ว ฃือไหม หลังจากวันนั้น ดิฉันก็ได้ข่าวว่า นักร้องชื่อไหมเสียชีวิต เนื่องจากถูกฆาตกรรม ทางเจ้าของร้านเลยมาตามให้ดิฉันไปร้องเพลง และเตรียมชุดนักร้องมาให้ ในตอนนั้นดิฉันก็เริ่มเห็นพี่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เริ่มสวยขึ้นมาก ดิฉันเลยมีแรงบันดารใจ อยากสวยเหมือนพี่พุ่มพวง ดวงจันทร์ ดิฉันเริ่มร้องเพลงที่ร้านอาหาร ปลาทูทอง คืนแรกที่ดิฉันร้อง แขกชอบที่ดิฉันร้องเพลงพี่ผึ้ง พุ่มพวง เวลาแขกถูกใจก็ให้รางวัลดิฉัน หลังจากนั้นก็มีทั้งผับ บาร์ และร้านอาหารต่างๆ ติดต่อให้ดิฉันไปร้องเพลงขอพี่ผึ้ง พุ่มพวง จนดิฉันใด้รับฉายาในตอนนั้นว่า พุ่มพวงโคราชและพุ่มพวงน้อยหลังจากเป็นนักร้อง..อยู่หลายปี ดิฉันเริ่มสวยขึ้นดิฉันก็มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น จึงกลับมาเเสดงลิเกอีกครั้ง ไม่นานก็มีวงดนตรีของพี่เป้า สายันห์สัญญามาเล่นแถวบ้าน เพื่อนดิฉันก็พาดิฉันไปด้านหลังเวทีและไปบอกกับพี่เป้าว่าอยากจะให้ดิฉันร้องเพลง พี่เป้าก็เลยลองให้ดิฉันร้องเพลงให้ฟัง รุ่งเช้าอีกวันพี่เป้าขับรถมารับดิฉันที่บ้านพร้อมขออนุญาตคุณแม่ของดิฉันไปเป็นนักร้องอยู่วงดนตรีของพี่เป้า คุณแม่ก็อนุญาตจากนั้นพี่เป้าก็ตั้งฉายาดิฉันว่า น้ำผึ้ง ภุมรินทร์ พุ่มพวง 2 ดิฉันเดินสายกับวงของพี่เป้าอยู่หลายปี ร้องเพลงของพุ่มพวงตลอด จนกระที่งวงของพี่เป้าได้ล้มเลิกไป ดิฉันก็ต้องกลับมาที่โคราชอีกครั้ง แล้วก็ไปเป็นนักร้องอยู่ที่ร้านอาหาร และช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่พี่ผึ้ง พุ่มพวงเสีย ดิฉันเสียใจมากๆ เพราะรักพี่เค้าเหมือนพี่สาว เหมือนญาติดิฉัน และใด้ติดตามประวัติของพี่พุ่มพวงมาตลอด พี่พุ่มพวงจะรักแม่ รักพี่น้อง รักแฟนเพลง รักสามีรักลูก ฉันก็เป็นคนแบบพี่พุ่มพวง คิดเหมือนกัน และโดยเฉพาะ พี่พุ่มพวง รักน้องๆ ฉันเลยอยากใด้พี่สาวแบบพี่พุ่มพวงมากๆ เลยแอบรักพี่พุ่มพวงฝังจิตใจ และดิฉันก็อยากจะไปงานศพมากแต่ไม่มีเงิน ดิฉันฝันว่าไปงานศพ และด้วยคนเยอะมาก ดิฉันเห็นคนกำลังย้ายศพพี่พุ่มพวง จากศาลาเก่า มาที่ศาลาใหม่ และกำลังจัดแต่งโรงศพ ดิฉันก็ไปนั่งอยู่ตรงบันใด นั่งร้องให้อยู่ และก็ใด้ยินเสียงผู้คนแตกตื่น วิ่งหนีกันชุลมุน ร้องบอกว่าผีๆๆ พุ่มพวงหลอก และพากันวิ่งเหยียบดิฉันล้มลุกคลุกคลาน และพอดิฉันใด้ยินแบบนั้น ดิฉันก็กลัวเหมือนกัน เลยจะวิ่งหนี แต่ก็ใด้ยินเสียงพี่พุ่มพวง เรียกชื่อฉันว่า ใครจะไปช่างเขา แกอย่าไป ฉันฟื้น ฉันลุกไม่ขึ้น มาช่วยฉันด้วย พอดิฉันใด้ยินแบบนั้น เลยฉุกคิดไปว่า เออนะ ในเมื่อเรามาเพราะว่ารักพี่พุ่มพวง และถ้า พี่พุ่มพวงเขาจะมาหลอกคนที่รักเขามากแบบดิฉันก็ให้มันรู้ไป ดิฉันเลยหันหน้ามาปะทะ เห็นที่โรงศพ มีมือพี่พุ่มพวงเกาะขอบโลง ดิฉันเลยถามไปด้วยความกล้ว บวกกับความรักมาก ว่า นี่พี่ผึ้ง ตกลงแกฟื้นหรือว่าแกมาหรอกหนูกันแน่ ถ้าฟื้นจริง จะให้หนูช่วยอะไร ยังไงบอกมา แต่ถ้าแกมาหลอกหนู แกหลอกหนูให้ตายนะ ถ้าหนูไม่ตายหนูเอาแกตายอีกรอบนะจะบอกให้ เท่านั้นแหล่ะ พี่พุ่มพวง ก็บอกกลับมานํ้าเสียงของคนขำๆว่า ใอ้เด็กบ้าฉันฟื้น ฉันลุกไม่ขึ้น ไม่ใด้มาหลอกแก มาแกเดินมานี่ มาประคองฉันหน่อย แล้วดิฉันก็จับมือพี่พุ่มพวงดึงขึ้น พร้อมอีกมือปิดตา เพราะในใจคิดว่า หน้าตาคงน่ากลัวเหมือนในหนังสือพิมพ์ เละๆแน่ พี่พุ่มพวงก็ชำอีก และบอกว่าใอ้เด็กบ้าแกไม่ต้องปิดตาเพราะฉันไม่ใด้เน่าขนาดนั้นหรอกน่า แล้วดิฉันก็ใช้สองมือดึงร่างพี่พุ่มพวงขึ้นมานั่ง พอดิฉันเห็นเท่านั้นแหละ นํ้าตาใหลเลย เพราะว่า พี่พุ่มพวง สวยงามมากๆ ที่ร่างกายมีประกายมีแสง สวยงาม มีกลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิ พี่พุ่มพวงยิ้มให้ และเอามือมาปาดที่แก้มของดิฉัน และเขย่าที่หัว เหมือนว่าเอ็นดูดิฉัน และพี่พุ่มพวงก็บอกดิฉันว่า แกประคองฉันนะ และพาฉันไปที่ศาลาเก่าโน่นนะ ไปเอาของรักของหวง ของฉันกลับมา และในขณะที่ดิฉัน ประคองพี่พุ่มพวงเดินไป ระหว่างทาง ก็มีคนมากมายร้องเสียงดังว่า พุ่มพวงฟื้นๆ และคนกลุ่มที่วิ่งหนีไปในตอนแรก ก็มากอดมาหอมที่ตัวฉันกันใหญ่เลย ฉันเลยบอกคนพวกนั้นไปว่า ดิฉันไม่ใช่พุ่มพวงค่ะ พี่พุ่มพวงคนนี้ค่ะ บอกยังไงก็ไม่มีใครฟัง ดิฉันเลยหันไปถองที่แขนพี่พุ่มพวง และพูดว่า พี่ผึ้งแกก็บอก คนพวกนี้สิ ว่าแกน่ะพุ่มพวง หนูไม่ใช่ พี่พุ่มพวงก็เอามือปิดที่ปาก และขำ หัวเราะเบาๆ และใด้ ชี้ไปที่ศาลาเก่านั้น และพูดว่า แกช่สยไปเอาของๆฉันกลับมาทีนะ และพี่พุ่มพวง บอกว่าให้ร้องเพลงแทนพี่ด้วยนะ และพี่พุ่มพวงก็หาย ไป และหลังจากนั้นดิฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับฝัน เรียกว่าทิ้งไปเลย..ดิฉันก็กลับไปใช้ชีวิตเป็นนักร้องและร้องเพลงของคนอื่นๆ ก็พยายามแล้ว ร้องยังงัยก็ไม่มีความสุขเลย ทำไม่ได้เลย และคิดไปว่า เราไม่มีต้นแบบแล้ว ไม่มีเพลงใหม่ของพี่พุ่มพวงแล้ว ดิฉันเลยตัดสินใจเลิกร้องเพลง และในที่สุดดิฉันก็ฝันอีก ฝันเห็นพี่พุ่มพวง มาบอกกับดิฉันว่ายิ่งไม่มีฉัน แกก็ต้วยิ่งทำ แกต้องยิ่งร้องนะ แกต้องทำแทนฉัน หลังจากตื่นมาดิฉันไม่สนใจกับความฝันอีก ดิฉันก็ไปเล่นลิเก ไปขายของ จนวันหนึ่งดิฉันรู้สึก เหมือนคนไม่สบาย นอนเปิดวิทยุ เพลงพี่พุ่มพวงฟังอญู่ดีๆ เหมือนคนจะหลับ ใด้ยินเสียงนกหน้าบ้านร้อง เสียงเย็นๆยายๆ และเสียงเพลง เหมือนเทปยืด ตัวเริ่มชาตัวชา มารู้ตัวอีกทีคนเต็มบ้าน และตัวเปียกด้วย คุณแม่ และป้า ลูกหลาน และคนที่เห็นเหตุการณ์ก็บอกดิฉันว่า พี่พุ่มพวงมาบอกดิฉันให้เข้ากรุงเทพด่วน ถ้าไม่ไปเค้าจะเอาให้ตาย และถ้าไป จะให้เขาไปเป็นตัวแทนเลยนะ ให้เขาร้องเพลงแทน แม่ดิฉันกลัวว่าดิฉันจะเป็นอะไร จึงให้ดิฉันเข้ากรุงเทพ ตอนนั้นก็ไม่มีตังค์เลย จึงไปยืมคนอื่นมาให้ 500 บาท แม่บอกว่าไปก่อนเถอะ ไปแค่เอาเคล็ด ว่าแม่รับปากพี่พุ่มพวงเขาแล้ว ไปแล้วกลับมาเลยนะ พอไปถึงกรุงเทพ ก็บังเอิญเจอเพื่อนที่เป็นเซลล์แมน กำลังหิ้วกระเป๋าลงจากรถอีกคัน มาเห็นดิฉัน เลย เพื่อนจึงชวนดิฉัน ไปงานวันเกิด ดิฉันก็ไปงานวันเกิด จัดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บังเอิญว่าในวันนั้นโต๊ะข้างๆมีนายห้าง อาสรรเสริญ รุ่งเสรีชัย เจ้าของค่ายเพลง บ๊อกซิ่งซาสด์ เขาก็พากับนักร้องหลายท่าน มาโชว์ และพอนักร้องรับเชิญโชว์จบ นักดนตรีก็ประกาศเชิญให้แขกโต๊ะวันเกิดขึ้นร้องเพลง ดิฉันก็ขึ้นร้องเพลงของพุ่มพวง มีแขกชอบกันมากจึงให้รางวัลดิฉัน หลังจากลงจากเวที ทางนายห้าง สรรญเสริญ รุ่งเสรีชัย ก็เลยชวนดิฉันให้ดิฉันเข้าไปที่บริษัทเพื่ออัดเพลง ดิฉันก็เล่าความฝันให้นายห้างฟัง นายห้างจึตั้วชื่ออัลบั้มว่าพุ่มพวงสั่งลุย ชีวิตของดิฉันเปลี่ยนไปทันที จากที่ไม่มีรายได้...ดิฉันก็มีงานร้องเพลงหลายที่ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ดิฉันมีรายได้ถึงขนาดมีเงินส่งให้คุณแม่และพาครอบครัว แม่พี่น้อง ลุกหลาน ทุกคนในครอบครัว มาอยู่ที่กรุงเทพ แต่ความสุขก็อยู่กับเราได้เพียงไม่นาน ดิฉันก็เจอมรสุมชีวิต ย่างมาก จนทำให้ดิฉันรู้สึกท้อแท้กับขีวิตมาก จึงตัดสินใจกลีบมาใช้ชีวิตอยู่ที่โคราชเหมือนเดิม ดิฉันกลับไปตั้งหลักที่โราช กลับไปใช้ชีวิตเป็นแม่ค้า และขายของได้ไม่นาน หลังจากนั้นดิฉันก็ฝันอีก ดิฉันฝันเห็นพี่พุ่มพวงอีกครั้ง พี่พุ่มพวง บอกให้หมั่นทำบุญเยอะๆ ตอนนี้เธอมีกรรมมาก ฉันไม่สามารถช่วยได้ ดิฉันก็หมั่นทำบุญโดยเฉพาะไปที่วัดทับกระดาน หลังจากนั้นดิฉันก็ฝันเห็นพี่พุ่มพวงอีกครั้ง คราวนี้พี่พุ่มพวงบอกกับดิฉันว่า เริ่มมีบารมีแล้วนะ ในฝันพี่พุ่มพวง แต่งขุดไทย พี่พุ่มพวงบอกกับดิฉันว่า อย่าท้อนะ ให้อดทน และสู้ต่อไปพี่จะมาอยู่เคียงข้างแก และคอยช่วยแกนะ และจากนั้นมาชีวิตก็เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ใด้มาเป็นครูสอนร้องเพลงอยู่ที่กรมพละศึกษา และอยู่ในสังกัดของท่านรองปลัด กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ท่านด.ร.เสกสรรค นาควงค์โดยการชักนำ ของพี่ติ๊ก ชิโร่ และใด้ลิขสิทธ์ อนุญาติ ให้ใช้ชื่อ พุ่มพวง2 แต่เพียงผู้เดียว ในการร้องเพลง และผลิตสินค้าหลายประเภท ในแบลนนี้ จากอดีตสามีของพี่พุ่มพวง คือคุณป๊าไกรสร แสงอนันต์ ซึ่งท่านเป็นผู้จัดการมรดก และท่านก็เมตตา รับเป็นผู้จัดการส่วนตัว ดูแล ในรายระเอียดการทำธุระกิจ และร้องเพลง และอื่นๆ ท่านเป็นที่ปรึกษาให้ และในขณะนี้ป๊าไกรสร แสงอนันต์ ท่านก็ใด้เปิดค่ายเพลง น้องใหม่ขึ้นมา ชื่อ บ.นางพญามิวสิค แอนด์มูฟวี่ เป็นเพราะว่าท่านคิดถึง ภรรยาสุดที่รักของท่าน และท่านสงสารในความที่ดิฉัน ต้องล้มลุกคลุกคลายอย่างแสนสาหัส..สรุปว่าในขณะนี้ ความฝันของดิฉันเป็นความจริงแล้วค่ะ นํ้าผึ้ง จุฬัมภา พุ่มพวง 2
ขอขอบคุณที่มาของข่าว/ภาพจากผู้ที่มีชื่ออยู่ด้านล่างนี้ทุกๆท่าน
http://www.clipmass.com/movie/1026085543416272
ถ่ายทอดโดย.....
ทีมงาน น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา2258) มีรายนามดังนี้....
บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ ( บรรณาธิการ )
ผช.กรรณชัย(นามปากกา “ผู้กองแอ๊ด”) ผู้ช่วยบ.ก.ดูแลข่าวตำรวจ
และ รักษาการ หัวหน้าข่าวการเมือง
อภินันทร์(นามปากกา “อัจฉริยะ”)ปฐมภพ(นามว่า "คนสายกลาง")
จตุพล (นามปากกา “อัพเดท”) สุจิตรา (นามปากกา “หญิงเหล็ก”)
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ (ฝ่ายกฎหมาย)
(รับปรึกษาปัญหากฎหมายฟรีโทร.095 – 9970577)
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้งหนึ่งดังมีรายนามต่อไปนี้
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ และ dpmnews - dmnnews - diplomanews
และข่าวชมรมนักข่าว2000, และ ข่าวศูนย์วิทยุ (ทาง)ช้างเผือก และ
ข่าวชมรมนักข่าวช่วยสังคม..อีเมล์...diplomanews@gmail.com
ติดตามผลงาน“ชมรมนั่งสมาธิปกป้องสถาบันได้ใน FACEBOOK
เรามีแว๊บไซ้ท์ในเครือนับสิบๆแว๊บไซ้ท์และพันธมิตรสื่อฯอีกนับร้อย
เรายังมีคอลัมน์ในสื่อดังๆต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก โดยพิมพ์หาคำว่า
“น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์” หรือคำว่า “diplomanews”ในสื่อนั้นๆ
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวของเราร่วมหลายแสนคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น