วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข่าวตำรวจ ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2559 (น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์...ถ่ายทอด).......

ข่าวตำรวจ ประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2559

ผบ.ตร.สั่งกองวินัย-จเรตำรวจเร่งสอบเอาผิดตร.รับส่วย“นาตารี”

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลาย “นาตารี อาบอบนวด” ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ห้วยขวาง จับกุมหญิงต่างด้าวอายุต่ำกว่า 18 ปี ลักลอบค้าประเวณีจำนวนหลายคน และยังพบบัญชีจ่ายส่วยหลายหน่วยงานโดยเฉพาะตำรวจ ว่าทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้สั่งไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ให้เร่งสืบสวนสอบสวน ใครมีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ได้มอบให้ พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผู้บังคับการกองวินัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมตรวจสอบด้วย “เชื่อว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถรายงานความคืบหน้าและมีความชัดเจนมากขึ้น ต้องขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ไม่ต้องกังวล เรามีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้ว 


 ในส่วนของคดีอาญา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.)ได้ดำเนินการอยู่ ส่วนคดีทางวินัย ทางปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะดำเนินการคู่ขนาดไปกัน ส่วนบัญชีรายชื่อตำรวจและหน่วยงานที่รับส่วยนั้นอยู่ระหว่างการสืบสวน เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่ากี่นาย อย่างไรก็ตามผบ.ตร.และ รองผบ.ตร. ที่รับผิดชอบ ได้เข้มงวดกวดขันทุกสถานบริหาร มีการลงพื้นที่จับกุมอย่างต่อเนื่อง” รองโฆษกตร. กล่าว 


ด้านพล.ต.ต.เจษฎา กล่าวเสริมว่า กองวินัยมีหน้าที่ประมวลเรื่อง รวบรวมข้อมูล และส่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้จเรกองตรวจราชการ10 เป็นผู้ดำเนินการ ยืนยันจะเร่งให้เร็วที่สุด เบื้องต้นตนยังไม่เห็นรายชื่อและยังไม่ทราบว่ามีทั้งหมดกี่นาย การตรวจสอบครั้งนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ตรวจสอบ โดยส่วนตัวไม่กังวลว่าตำรวจจะมีการช่วยเหลือกัน ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดอยู่แล้ว
http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=787095(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ตำรวจฝากขังผลัดแรกหญิง 121 รายใน “นาตารี” แจ้งข้อหาหนักผู้จัดการร้านกับพวก
        MGR Online - ตำรวจฝากขังหญิงสาวต่างด้าวทำงานในสถานบริการอาบอบนวด “นาตารี” 121 ราย พบ 9 รายถูกหลอกมาค้าประเวณี แจ้งข้อหาผู้จัดการร้านกับพวกฐานค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าว
       


        จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และทหาร นำกำลังกว่า 100 นาย บุกเข้าตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวด “นาตารี” หลังได้รับการร้องเรียนจากองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศด้านต่อต้านการค้ามนุษย์ (NVADER) ว่ามีการลักลอบแอบแฝงค้าประเวณี ภายใต้ยุทธการ “สิงขร” และคุมตัวหญิงสาวค้าบริการ 121 คน และผู้ดูแลอีก 5 คนดำเนินคดีตามกฎหมาย
       
       วันนี้ (10 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้นำตัวหญิงสาวสัญชาติพม่า และสัญชาติลาวที่พบในสถานบริการอาบอบนวด นาตารี ย่านรัชดาภิเษก จำนวน 57 คนมาขออำนาจศาลอาญาและฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 10-21 มิ.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีกจำนวนมาก และรอผลการตรวจลายนิ้วมือรวมถึงอื่นๆ โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
       
       วันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ยังได้นำตัวหญิงสาวชาวไทยและต่างด้าวที่ส่วนใหญ่สัญชาติพม่า รวม 20 ราย พร้อมสำนวนการสอบสวนซึ่งผู้ต้องทั้ง 20 รายให้การรับสารภาพฐานทำงานไม่ตรงตามใบอนุญาต และมั่วสุมในสถานค้าประเวณี ให้พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงฯ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ
       
       ต่อมาพนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงฯ ได้นำตัวหญิงสาวชาวไทยและต่างด้าวที่ส่วนใหญ่สัญชาติพม่า รวม 20 ราย ยื่นฟ้องด้วยวาจา เป็นจำเลยต่อศาล รวม 2 ข้อหาในความผิดฐานทำงานไม่ตรงตามใบอนุญาต และมั่วสุมในสถานค้าประเวณี โดยจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
       
       ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์ตามฟ้อง ประกอบคำรับสารภาพจำเลยแล้ว พิพากษาให้ปรับจำเลยทั้ง 20 คน ฐานทำงานไม่ตรงตามใบอนุญาตฯ คนละ 4,000 บาท และมั่วสุมในสถานค้าประเวณี ให้ปรับคนละ 500 บาท รวมปรับจำเลยทั้ง 20 คน คนละ 4,500 บาท 

        พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ ช่วยราชการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า หญิงสาวที่พบ 121 คน พบว่าเป็นผู้เสียหาย 9 คนที่ถูกหลอกมาค้าประเวณีซึ่งอยู่ในความคุ้มครองของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์หญิงสาวอีก 12 คนที่ไม่สามารถระบุอายุได้ เพื่อรอคัดแยกว่าเป็นเยาวชนที่เป็นผู้เสียหายหรือไม่ โดยคาดว่าจะทราบผลภายในสัปดาห์หน้า 

        ส่วนการดำเนินคดีอาญา แบ่งเป็นหญิงชาวไทยที่มีอายุเกิน 18 ปี จำนวน 23 คน ได้เปรียบเทียบปรับในข้อหามั่วสุม และปล่อยตัวไปแล้ว และหญิงอีก 77 คนซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว ได้แยกดำเนินคดีฝากขังที่ศาลอาญา จำนวน 57 คน เป็นบุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักร ส่วนอีก 20 คนถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ฐานทำงานไม่ตรงกับประเภทที่ได้รับอนุญาต พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวและไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจึงเกรงว่าจะหลบหนี
       
       ขณะที่นายพงษ์อนัน คณะเขตต์ ผู้ดูแลร้านกับพวกรวม 5 คนยังอยู่ระหว่างสอบปากคำ โดยเบื้องต้นแจ้งข้อหาฐานร่วมกันค้ามนุษย์ และร่วมกันเป็นธุระจัดหาให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าว ก่อนนำตัวมาฝากขังในช่วงเย็นวันนี้ และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อออกหมายจับเจ้าของร้านต่อไป

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000058314(เครดิต)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
        
บก.น.2 ปล่อยแถวไม่หลับไม่นอน พร้อมแถลงผลงานปราบยาเสพติด
        ปล่อยแถวตำรวจ 300 นาย “ตรวจเข้ม ไม่หลับไม่นอน” เขตจตุจักร กทม. พร้อมแถลงจับยา 8,000 เม็ด ยาไอซ์ 6 กิโลกรัม ควบคุมตัวส่ง สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
       
       วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น. ที่ลานหน้าห้างศูนย์การค้าเจเจมอลล์ ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เป็นประธานปล่อยแถวโครงการ “ตำรวจ บก.น.2 ตรวจเข้ม ไม่หลับไม่นอนพร้อมกัน” ครั้งที่ 6 โดยใช้กำลังจาก บก.น.2 เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยเน้นจุดล่อแหลมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปรากฏกายในทุกจุดตั้งแต่เวลา 00.01-06.00 น. ปฏิบัติการอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 300 นาย
       
       ในเวลาต่อมา พล.ต.ต.เจริญได้ร่วมแถลงข่าวพร้อมกับ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.อำนาจ หาญชนะ รอง ผกก.ป. พร้อมชุดจู่โจม บก.น.2 จับกุมนายเอกลักษณ์ หรือแชมป์ อาจพงษ์ษา อายุ 27 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 8,000 เม็ด ยาไอซ์ 91.13 กรัม จับกุมตัวได้ที่บริเวณชุมชนรุ่นใหม่พัฒนา ซอยพหลโยธิน 51 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เมื่อช่วงดึกของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
       
       ด้าน พ.ต.อ.อำนาจกล่าวว่า เมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบยาไอซ์ 6 กิโลกรัม ภายในซอยดังกล่าวถูกนำมาทิ้งไว้ ไม่พบตัวผู้ต้องหา จึงมีการวางแผนเฝ้าสังเกตการณ์ ก่อนเกิดเหตุพบผู้ต้องหาเดินถือถุงท่าทางพิรุธจึงขอตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดที่ สน.บางเขนในปี 2552 เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท เคยทำมาแล้ว 5-6 ครั้ง โดยเจ้าของยาชื่อนายกอล์ฟ อยู่ย่านห้วยขวาง หน้าที่คือจะไปรับยามาเก็บไว้ที่ห้องพักในซอยดังกล่าว และรับคำสั่งต่อจากนายกอล์ฟให้ไปส่งยาตามจุดต่างๆ อีกครั้ง โดยการจับกุมครั้งนี้ตนได้รับคำสั่งให้นำยามาไว้ที่ปากซอยแล้วจะมีคนมารับยาไปส่งต่ออีกครั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายควบคุมตัวส่ง สน.บางเขน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000058069(เครดิต)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
แว๊นปทุมฯซิ่งย้อนศรถูกกระบะชนเสียชีวิต2

แว๊นปทุมฯซิ่งย้อนศรถูกกระบะชนเสียชีวิต2

INN News
สนับสนุนเนื้อหา
(เครดิต)
เด็กแว๊นซิ่งย้อนศรหนีตำรวจตั้งด่านจับ ถูกรถกระบะทางตรงชนเสียชีวิต 2 ศพ ที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ร.ต.ท.นพพร หิรัญรักษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ย้อนศรถูกรถกระบะเฉี่ยวชนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพ ฯ ช่องทางคู่ขนาน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นายวันชัย อายุ 18 ปี เป็นคนขับ ใกล้กับเสาไฟฟ้าข้างทางพบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อ นายจตุพร อายุ 16 ปี ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ สภาพด้านหน้าพังยับเยินห่าง 

จากการตรวจสอบพบรอยเฉี่ยวชน ด้านหน้าซ้าย ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อ นายชัชวาลย์ อายุ 28 ปี ให้การว่าตนเองเดินทางออกจากตลาดสี่มุมเมืองเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านย่านลำลูกกา ขณะกำลังเลี้ยวรถเข้าไปเติมน้ำมัน ก็เห็นรถจักรยานยนต์ย้อนศรมา และเฉี่ยวชน จึงลงไปดู เห็นว่ามีผู้บาดเจ็บพร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและประกันทราบ 

ด้าน ร.ต.ท.สุรกิจ มั่นประสิทธิ์ รองสารวัตรจราจร สภ.ลำลูกกา ระบุว่า ระหว่างที่ตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจจับรถจักรยานยนต์ซิ่ง บริเวณถนนพหลโยธินขาออก ปากทางเข้าหมู่บ้านเมืองเอก ได้มีรถจักรยานยนต์ตั้งขบวนแข่งรถกันอยู่หน้าสนามกีฬาธูปเตมีย์ จึงขับรถไล่กวดแต่มีรถจักรยานยนต์บางส่วนขับย้อนศร เพื่อหลบหนีก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว ทางตำรวจจึงควบคุมตัว นายชัชวาลย์ คนขับรถกระบะไปสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ 
http://news.sanook.com/2009542(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ผบ.ตร.สั่งเข้มพนันฟุตบอลขู่ฟันตำรวจเอี่ยว

ผบ.ตร.สั่งเข้มพนันฟุตบอลขู่ฟันตำรวจเอี่ยว

INN News
สนับสนุนเนื้อหา
(เครดิต)
'พลตำรวจตรีปิยะพันธ์' เผย ผบ.ตร. กำชับเฝ้าระวังการลักลอบเล่นบอลช่วงยูโร จ่อดำเนินคดี พ.ร.บ.การฟอกเงินด้วย ยัน การข่าวไม่พบก่อการร้ายเคลื่อนไหวในไทย หลังมีเหตุกราดยิงศูนย์การค้าอิสราเอล ย้ำ เฝ้าระวังเต็มที่
พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ ผบ.ตร. กำชับไปยังทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ระหว่างวันที่ 10 มิ.ย. - 10 ก.ค. 59 โดยเฉพาะสถานศึกษา สถานบันเทิง ชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจให้ลงพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดที่เป็นเป้าหมายในการเฝ้าระวังแล้ว โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจสามารถจับกุมเจ้ามือ และนักพนันได้แล้วจำนวนหนึ่ง
สำหรับชุดเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาปราบปรามผู้ลักลอบเล่นการพนัน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ ไม่ต้องกังวลว่า จะเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่นำไปแอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการและประชาชน ตำรวจมีขั้นตอนและการดำเนินการที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่หากพบว่ามีผู้แอบอ้างเรียกรับผลประโยชน์ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที และหากเป็นตำรวจ ก็มีมาตรการลงโทษตามขั้นตอนอยู่แล้ว
พร้อมย้ำว่า หากมีการจับกุม โดยมีเครือข่ายมากกว่า 100 คน หรือเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน พร้อมยอมรับว่า ถึงแม้ว่าปัจจุบันบทลงโทษกับนักพนันจะไม่รุนแรง แต่ตำรวจก็มีมาตรการลงโทษสำหรับผู้ที่กระทำผิดซ้ำ ส่วนในอนาคตจะมีการเพิ่มโทษให้รุนแรงมากกว่าเดิมหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำมาพิจารณา
ส่วนการจับกุมนักพนัน ทางโซเชียลมีเดีย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานกระทรวงไอซีที และประเทศเพื่อนบ้านในการปิดเว็บไซต์ และการจับกุมผู้กระทำผิด โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่อยู่ในต่างประเทศ ยืนยันตำรวจไม่หนักใจ เพราะสามารถหาหลักฐานและย้อนรอยสืบสวนเข้าจับกุมได้
พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์  ยังกล่าวยืนยันการข่าวด้านความมั่นคง ไม่พบข้อมูลหรือความพยายามก่อเหตุในประเทศไทย หลังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ออกคำเตือนกรณีเหตุกราดยิงผู้คนบริเวณศูนย์การค้า ใจกลางกรุงเทลอาวีฟ ใกล้กับที่ทำการกองทัพ และกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คนและบาดเจ็บ 6 คน
พร้อมยืนยัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการเข้มงวดดูแลสถานทูต สถานกงสุล และพื้นที่เฝ้าระวัง รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวกับหน่วยงานด้านความมั่งคงอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก ฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้กำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ ถึงขณะนี้จึงยังไม่มีสถานการณ์ใดที่น่าเป็นห่วง และเชื่อว่า คนไทยที่จะเดินทางไปประเทศอิสราเอล จะมีการติดตามข่าวสารและประเมินสถานการณ์ได้
พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ยังเปิดเผยกรณี พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ 2 คัน มีหมายเลขทะเบียนเหมือนกัน ขณะใช้บริการภายในปั๊มน้ำมันพื้นที่กรุงเทพมหานคร และมีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ยืนยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการให้ตำรวจพื้นที่ทำการตรวจสอบแล้ว ว่ารถคันใดเป็นทะเบียนจริงตามที่กรมขนส่งออกให้ และคันใดที่เป็นผู้ใช้ทะเบียนปลอม

โดยหากพบว่ามีคันใดที่ใช้ทะเบียนปลอม ทางตำรวจพื้นที่ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยืนยันที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการโจรกรรมรถ ที่มี พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ควบคุมดูแลนั้น ได้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แต่หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการนำทะเบียนรถของผู้อื่นมาใช้จริง ก็จะเข้าข่ายการปลอมแปลงเอกสาร ทางศูนย์โจรกรรมรถก็จะลงไปร่วมทำการตรวจสอบทันที
http://news.sanook.com/2009678(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
//////////////////////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย).....
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้(เครดิต)และ.....
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ.....
นี่คือตัวอย่างบางส่วนอ่านเพิ่มเติมได้ตามแว๊บที่อยู่ด้านบน.....
/////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์.....ถ่ายทอด.....
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....
สุพัฒน์กฤต(ป้อม) เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกาคนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกาผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
……………………………………………………………….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น