วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ข่าวตำรวจ ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2559(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์...ถ่ายทอด).......

ข่าวตำรวจ ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2559

2 ตร.มือยิงอดีตปลัดเข้ามอบตัว ปฏิเสธทุกข้อ ผบก.ชลให้ออกไว้ก่อน
        ศูนย์ข่าวศรีราชา - สองตำรวจเมืองชลบุรี เข้ามอบตัว กับผู้บังคับบัญชาแล้ว รับ 2 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ยังไม่มอบอาวุธให้ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่เปิดปากพูดกับนักข่าว ขอไปให้การในชั้นศาล ส่วน ผกก.รับคำสั่ง ผู้การชลบุรี ให้ออกจากราชการตำรวจไว้ก่อนและไม่ให้ประกันตัว ให้ไปขอประกันในชั้นศาลต่อไป
       
       เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้ (22 มิ.ย.59) ที่ห้อง พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ร้อยตำรวจโท วุฒิโชติ จันทร์พลอย รองสารวัตรสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรเมืองชลบุรี พร้อมด้วย ดาบตำรวจ โชคชัย พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหมู่ สืบสวนสอบสวน กองกำกับการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เดินเข้ามามอบตัวสู้คดี โดย พ.ต.อ.สมโชค ตั้ง 2 ข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น
       
       เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ร.ต.อ.วุฒิโชติ ร่วมกับดาบตำรวจโชคชัย ได้เข้าไปดื่มสุราแล้ว เกิดมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนของตัวเอง จนกระทั่งใช้อาวุธทั้ง 2 นาย ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนขนาด 9 มมยิงฆ่านายฉลาด อนุรักษ์ อายุ 46 ปี เสียชีวิต และใช้อาวุธปืนยิง นายภูมิชาย อิสระวิระยะกุล อายุ 50 ปี เป็นปลัดอำเภอเกาะสีชัง ได้รับบาดเจ็บสาหัส อยู่ในห้องไอซียู ของ รพ.ชลบุรี ขณะนี้ ยังไม่พ้นขีดอันตราย
       
       โดยตำรวจทั้ง 2 นาย ยังไม่นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุมาให้ และยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอให้การในชั้นศาลอีกด้วย โดยตำรวจทั้ง 2 นาย มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา
       
       ส่วน พ.ต.อ.สมโชค ตาผล ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายติดต่อขอเข้ามอบตัวสู้คดี ใน 2 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอไปให้การในชั้นศาล ตนได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ให้ตำรวจทั้ง 2 นายออกจากราชการไว้ก่อน แล้วไม่ให้ประกันตัว ให้ไปขอประกันตัวในชั้นศาล ส่วนเรื่องคดี ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทั้งสิ้น 


http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000062538(เครดิต)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

สาวโร่แจ้งความอ้างถูกตำรวจรีดทรัพย์ พาออกจากห้องขังไปข่มขืน

สาวโร่แจ้งความอ้างถูกตำรวจรีดทรัพย์ พาออกจากห้องขังไปข่มขืน

สาวโร่แจ้งความถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ บุกจับคดีเสพยาไอซ์แล้วรีดทรัพย์แลกอิสรภาพ ซ้ำร้ายยังพาออกจากห้องขังไปข่มขืนในที่เปลี่ยว
(22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี อ้างว่าตัวเองถูกกลุ่มตำรวจนอกรีตโรงพักแห่งหนึ่ง ทำการจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด แล้วทำการลักทรัพย์ , ข่มขู่รีดไถเงินเพื่อแลกอิสรภาพ และพาไปข่มขืนกระทำชำเรา
จากการสอบสวน น.ส.แอน (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ชาว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเป็นหมอนวดแผนไทยอยู่ที่เกาหลีใต้ แต่ภายหลังถูกทางการเกาหลีใต้จับกุมในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก็ถูกเนรเทศกลับไทย และเพิ่งมาขอพักอาศัยอยู่กับเพื่อนชื่อ น.ส.บิว (นามสมมุติ) ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในซอยเฉลิมพระเกียรติ 9 ย่านพัทยาเหนือ และเพื่อรอเวลาหางานใหม่
กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนั่งกินข้าวอยู่กับ น.ส.บิว และ น.ส.ฟาง ซึ่งรู้จักกันแค่เพียงผิวเผิน จู่ๆ มีชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน และเด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบ 1 คน ใช้กุญแจไขประตูเปิดเข้ามาในห้อง พร้อมกับอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาจอมเทียน
จากนั้นทั้งหมดได้ทำการค้นห้องพัก ก่อนฉวยเอาพระเครื่องของตนรวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ไปเป็นของตัวเองโดยอ้างว่าจะเก็บไว้ให้ ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวน 40 กรัม อยู่ในตัว น.ส.บิว ส่วนตนเองก็ยอมรับว่าเสพยาจริง ทางตำรวจจึงนำตัวไปที่ สภ.นาจอมเทียน ก่อนพาไปกักตัวที่ห้องทำงาน และยังไม่ถูกนำตัวเข้าห้องควบคุม
ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. น.ส.บิว มาบอกว่า ตำรวจให้หาเงินมาจำนวน 5,000 บาท เพื่อจะใช้ล่อซื้อยาเสพติด ถ้าหามาไม่ได้ตำรวจก็จะไม่ปล่อยตัว ตนจึงโทรศัพท์ไปยืมพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจที่กรุงเทพฯ และได้เงินมาจำนวน 2,000 บาท รวมกับเงินสดในบัญชีธนาคารของตนอีก 1,500 บาท เป็นเงินทั้งหมด 3,500 บาท เลยต่อรองว่ามีเงินเพียงเท่านี้ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้ตนโอนเข้าบัญชีของ น.ส.บิว และไม่ทราบว่าเพื่อนสาวเอาเงินไปล่อซื้อยาเสพติดตามที่บอกหรือไม่
กระทั่งกลางดึกวันที่ 10 มิ.ย. ชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจชื่อต้น (ไม่ทราบยศ) และเข้าเวรห้องควบคุมอยู่ในขณะนั้น ได้เรียกตนออกมาจากห้องขัง ซึ่งในขณะนั้นมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันถูกคุมขังอยู่รวม 7 คน ก่อนพาไปนอนยังห้องๆ หนึ่งบนสถานีตำรวจ พร้อมกับบอกว่าจะทำเครื่องหมายฝากไว้เพื่อไม่ให้ใครมายุ่ง จากนั้นจึงใช้ปากดูดลำคอของตนจนเป็นรอยจ้ำ และพยายามจะปลุกปล้ำขืนใจ แต่ตนอ้างว่ามีประจำเดือน นายต้นจึงผละออกไปและนำตนกลับไปยังห้องควบคุมเหมือนเดิม
ถัดไปเพียงวันเดียว น.ส.บิว มาบอกให้ตนหาเงินมาอีก 15,000 บาท เพื่อใช้ล่อซื้อยาอีกครั้ง และครั้งนี้หากหาเงินมาได้ตำรวจก็จะปล่อยตัว ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงโทรศัพท์ไปหาพี่สาวที่ต่างจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือ พี่สาวจึงเอาสร้อยคอทองคำไปจำนำแล้วส่งเงินมาให้ ก่อนที่ตนโอนเข้าบัญชี น.ส.บิว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการปล่อยตัว
และในคืนวันเดียวกันนั้นนายต้น ที่เข้าเวรหน้าห้องควบคุม ได้เรียกตนออกมาจากห้องขังอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าจะพาไปขับรถเที่ยวเพื่อให้หายเครียด แต่ภายหลังกลับพาตนขับรถเข้าไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่กำลังก่อสร้าง ตั้งอยู่หลังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนจอมเทียนสาย 2 ย่านชายหาดจอมเทียน ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว ก่อนพยายามปลุกปล้ำขืนใจ แต่ตนมีประจำเดือน ประกอบกับอวัยวะเพศของนายต้นไม่แข็งตัว ทำให้ไม่สำเร็จความใคร่ ก่อนที่จะพาตนกลับไปคุมขังตามเดิม
จนเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 10.00 น. พี่ชายซึ่งเป็นตำรวจอยู่โรงพักแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้เดินทางมาเยี่ยมตนพร้อมกับสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะไปเจรจากับนายอึ่งที่อ้างตัวเป็นหัวหน้าชุดจับกุม นายอึ่งจึงยื่นข้อเสนอให้หาเงินมาจำนวน 100,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ แต่พี่ชายหาเงินมาได้เพียง 60,000 บาท เลยทำการต่อรองจนนายอึ่งยินยอม
จากนั้นมีชายไทยชื่อนายหวัง มารับเงินจำนวนดังกล่าว แต่ภายหลังนายอึ่งกลับบอกว่าตนเองจะต้องถูกดำเนินคดีพนันฟุตบอล หากไม่อยากถูกดำเนินคดีก็ต้องจ่ายเงินอีก ตนเลยบอกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวเหลืออยู่แค่ 3,000 บาท ทางนายอึ่ง ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนยึดเงินจำนวนดังกล่าวของตนไป แล้วปล่อยตัวออกมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ภายหลังตนได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาญาติๆ และคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้อง จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับไปตรวจร่างกายที่ รพ.บางละมุง และ รพ.เมืองพัทยา ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่าถูกข่มขืนกระทำชำเรา จากนั้นจึงเดินทางเข้าร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี , กระทรวงยุติธรรม และจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความช่วยเหลือและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
ด้าน ร.ต.อ.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ รองสารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี เผยว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยังตำรวจชุดสืบสวนเพื่อให้ตรวจสอบกล้องจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พร้อมกับรวบรวมพยาน-หลักฐานส่งสำนวนการสอบสวน ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
http://news.sanook.com/2016830(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า การประชุมวันนี้มีวาระเรื่องการพิจารณาปรับเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร-รองผู้บังคับการ ซึ่งจะแตกต่างจากกฎ ก.ตร. ปี 2549 โดยการปรับเกณฑ์ใหม่นี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้บุคคลที่มีความสามารถ ให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากขึ้น
       
       อย่างไรก็ตาม กฎ ก.ตร.ใหม่นี้จะสามารถบังคับใช้ได้ในวาระแต่งตั้งเดือนตุลาคมปีนี้ ส่วนตัวเชื่อว่ากฎ ก.ตร.ใหม่ จะช่วยแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ล่าช้าให้หมดไป
       
       ส่วนการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ขณะนี้มี พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่า จะมีการแต่งตั้งในเร็วๆ นี้ คาดว่าน่าจะเป็นวาระที่จะถึงนี้แน่นอน 
http://www.manager.co.th/UpToDate/ViewNews.aspx?NewsID=9590000062353(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ป.หมายเรียกจตุพรและพวก12คนศูนย์ปราบโกง

ป.หมายเรียกจตุพรและพวก12คนศูนย์ปราบโกง

INN News
สนับสนุนเนื้อหา
(เครดิต)
ตำรวจกองปราบ ออกหมายเรียก จตุพร และพวกอีก 12 คน ฐานความผิดฝ่าฝืนประกาศ คสช.ที่ 3 กรณีเปิดศูนย์ปราบโกง
พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองปราบปราม ได้ออกหมายเรียก นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ,นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายแพทย์เหวง โตจิราการ, นายยงยุทธ ติยะไพรัช, นายประมวล ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก, นายก่อแก้ว พิกุลทอง และพวกอีก 12 คน มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฉบับที่ 3/2558 เรื่องการชุมนุมหรือมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยให้มาพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม วันที่ 30 มิถุนายน นี้
ทั้งนี้ การออกหมายเรียกครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ในฐานะฝ่ายกฎหมายของ คสช. เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 ให้ดำเนินคดีกับแกนนำ นปช. ทั้ง 19 คน กรณีชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ในการเปิดแถลงการณ์จัดตั้งศูนย์ปราบโกง ที่ชั้น 5 สถานีโทรทัศน์พีชทีวี ภายในห้างอิมพิเรียล ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา
http://news.sanook.com/2016594(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
(21 มิ.ย.) จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความโดยอ้างว่า พี่สาวโดนป้ายยาสลบ เหตุเกิดที่ตลาดนัด เตีย กุ่ย ฮวด หมู่ 1 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.เวลา 20.30 น.
จากการสอบถาม น.ส.กัญญาพัชร อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ให้การว่า สังเกตเห็นชายอายุประมาณ 40 ปี และหญิงอายุประมาณ 35-40 ปี เดินตามผู้เสียหายซึ่งสวมกระเป๋าแบบคาดเอว ภายในมีเงินสดประมาณ 68,000 บาท และบัตรเอทีเอ็ม
โดยขณะที่ผู้เสียหายเดินซื้อของอยู่บริเวณท้ายตลาด ชายคนดังกล่าวได้เดินสวนกับผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายมารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็พบว่านอนหมดสติอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของตลาดนัด และมีพลเมืองดีมาพบเห็น และแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่ง รพ.บางบ่อ ซึ่งพบว่าเงินจำนวน 68,000 บาท หายไป
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ พบว่าเป็นการ จึงได้แจ้งข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานฯ ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ จึงได้นำตัว น.ส.กัญญาพัชร ส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อดัง Drama-addict ได้แชร์ข้อความดังกล่าว พร้อมยืนยันว่ายาป้ายไม่มีจริง และเตือนให้ระวังเพราะหากเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้ว พบว่าเป็นเรื่องกุขึ้นมาก็อาจโดนแจ้งความเท็จ
http://news.sanook.com/2016602(เครดิต)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
//////////////////////////////////////////////////////////////
ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย).....
ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้(เครดิต)และ.....
ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ.....
นี่คือตัวอย่างบางส่วนอ่านเพิ่มเติมได้ตามแว๊บที่อยู่ด้านบน.....
/////////////////////////////////////////////////////////////
/////////////////////////////////////////////////////////////
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์.....ถ่ายทอด.....
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....
สุพัฒน์กฤต(ป้อม) เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......
ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกาคนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกาผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
……………………………………………………………….



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น