ข่าวตำรวจ ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2559(น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์...ถ่ายทอด).......

ข่าวตำรวจ ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2559

โฆษก ตร.ระบุ รอ “ผบ.ตร.”สั่งการกรณีนายกฯย้ายตำรวจจันทน์นี้

 
     
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 สั่งย้าย 23 ข้าราชการที่ถูกร้องเรียนทุจริต - ประพฤติมิชอบ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายใน 30 วัน โดยในส่วนของตำรวจที่ถูกสั่งย้ายมีทั้งหมด 16 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.จว.สมุทรสาคร, พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1, พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผบก.น.1, พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.สะเดา, พ.ต.อ.กิตติพงศ์ วิเศษสงวน ผกก.ห้วยขวาง, พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สส.บก.น.1, พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ ผกก.1บก.ปคม., พ.ต.อ.อัมรินทร์ อัมพรมหา ผกก.2 บก.ส.2, พ.ต.อ.กิตติภณ แก้วอัมพร ผกก.3บก.ส.2, พ.ต.อ.ทิฆัมพร ศรีสังข์ ผกก.2บก.สส.สตม., พ.ต.อ.อโนทัย แสงเฟือง ผกก.2บก.ตม.1, พ.ต.ท.ศาสตร์ศักดิ์ ชัยประเสริฐ รองผกก.ป.สน.ห้วยขวาง,พ.ต.ท.ศุภภัทร สวัสดี สวป.ห้วยขวาง, พ.ต.ต.ทิพากร แก้วเปล่ง สว.สส.บก.น.1,พ.ต.ต. นันทพล ทองน่วม สว.งานสายตรวจ1กก.สายตรวจบก.สปพ. โดยให้ไปปฏิบัติราชการในศูนย์ปฏิบัติการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
      
ความคืบหน้าล่าสุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 มิถนายน 2559 พล.ต.อ.เดชณรงค์ สิทธิชาญบัญชาโฆษก ตร. กล่าวว่า หลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำเนินการตามคำสั่งของหนังสือที่ประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้ปรากฏผลแล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการกับเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยส่วนตัวยังไม่เห็นคำสั่งที่ออกมา คาดว่าวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายนนี้ คงจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) จะมีข้อสั่งการกับเรื่องนี้อย่างไร ส่วนในคำสั่งมีการย้าย พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.จว.สมุทรสาคร เกี่ยวข้องกับปัญหาค้ามนุษย์ในพื้นที่จ.สมุทรสาคร หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบต้องการตรวจสอบให้ความจริงกระจ่างก่อน
    
แหล่งข่าวภายในระบุว่า สาเหตุของการย้าย 23 ข้าราชการ โดยใช้มาตรา44 ในครั้งนี้ เกิดจากปัญหา 3 เรื่อง คือ1.ปัญหาแรงงานต่างด้าวในพื้นที่สมุทรสาคร ที่อาจจะยังไม่มีระบบบริหารจัดการที่ดีพอ จนเป็นเหตุต้องย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 2.ปัญหาค้าประเวณี,ค้ามนุษย์ หลังจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกทลายนาตารี อาบอบนวด ในท้องที่ สน.ห้วงขวาง จนเป็นเหตุให้มีการย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งระดับ ผกก. , รองผกก. อย่างต่อเนื่อง และ 3.ปัญหาลักลอบเล่นการพนัน หลังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังทหารเข้าจับกุมบ่อนพนัน บริเวณอาคารไม่มีเลขที่ ซอยไทยจังโหลน อ.สะเดา จ.สงขลา และสามารถจับกุมนักพนันชายหญิงได้ จำนวน 224 คน พร้อมอุปกรณ์การเล่นการพนันและเงินสกุลริงกิต คิดเป็นเงินไทยกว่า 2,300,000 บาท เป็นเหตุให้มีการย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 

http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=788198(เครดิต)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

        Mgr Online - โฆษก ตร. เผย เร่งตั้งกรรมการสอบ 17 นายตำรวจ ถูกคำสั่ง หน.คสช. ที่ 33/2559 แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ขณะที่ ผบ.ตร. มีคำสั่งตั้ง “จิตติ รอดบางยาง” รักษาการ ผบช.ภ.9 
       
       วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่ง หน.คสช. ที่ 33/2559 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น ซึ่งในจำนวนนี้มีข้าราชการตำรวจ 17 นาย ว่า หลังจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดย ตร. มีระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการกับเรื่องนี้อยู่แล้ว คาดว่า วันที่ 27 มิ.ย. นี้ คงจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะมีข้อสั่งการกับเรื่องนี้อย่างไร ส่วนในคำสั่งที่มีการย้าย พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผบก.จว.สมุทรสาคร เกี่ยวข้องกับปัญหาค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องขอตรวจสอบก่อน
       
       ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการผ่านวิทยุราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุด เลขที่ 0001 (ศปก.ตร.) /35 ลงวันที่ 24 มิถุนายน ถึงผู้บัญชาการ - ผู้บังคับการทุกหน่วย ใจความอ้างถึงคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 33/2559 ลงวันที่ 24 มิถุนายน เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่นนั้น ในข้อ 3 ที่ว่าให้ผู้บังคับบัญชาในทุกหน่วยงานของรัฐ สอดส่องพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดในด้านประสิทธิภาพ สมรรถนะในการปฏิบัติราชการ การอํานวยความสะดวกแก่ประชาชน และการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ ในกรณีเห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไข ให้ตักเตือน แนะนํา ย้ายออกนอกพื้นที่สับเปลี่ยนตําแหน่งหน้าที่การงาน หรือหากมีมูลความผิด ให้ดําเนินการทางวินัย โดยคํานึงถึงการให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ผู้นั้น การดูแลรักษาวินัยและกฎหมายตามอํานาจหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา และการรักษาประโยชน์สาธารณะ ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาละเว้นหรือบกพร่องในการปฏิบัติตามข้อนี้ให้ผู้บังคับบัญชาเหนือชั้นขึ้นไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ
       
       “ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการของ ตร. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามนัยคำสั่งหัวหน้า คสช. กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ มาตรการ และสั่งการ ตร. ที่เกี่ยวข้อง จึงให้ทุกหน่วยจัดประชุมชี้แจงข้าราชการตำรวจในสังกัด ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร. ที่ 234/2558 เรื่อง การพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข รวมทั้งคำสั่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และให้มีการประชุมกำชับการปฏิบัติประจำทุกเดือน และจัดทำรายงานการประชุมไว้เป็นหลักฐาน ให้ตรวจสอบและปรับปรุงการมอบหมายหน้าที่ และความรับผิดชอบในการปกครอง บังคับบัญชาตามนัยคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 เรื่อง มาตรการการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจให้สอดคล้องกับผู้รับผิดชอบในปัจจุบัน และให้จเรตำรวจ ผบช. ผบก. และผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบกำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่ง ตร. โดยเคร่งครัด” ผบ.ตร. สั่งการ
       
       มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มีคำสั่ง ตร. ที่ 422/2559 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2559 ให้ พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย) รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แทน พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ที่ถูกสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
       
       ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ 0015,112/1361 ลงวันที่ 25 มิ.ย. 59 ส่งตัวข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 8 นาย ที่มีรายชื่ออยู่ในคำสั่งหน.คสช. ที่ 33/255 ไปปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. ได้แก่ 1. พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.กิตติพงศ์ วิเศษสงวน ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สส. บก.น.1 พ.ต.ท.ศาสตร์ศักดิ์ ชัยประเสริฐ รอง ผกก.ป. สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.ศุภภัทร สวัสดี สว.ป. สน.ห้วยขวาง พ.ต.ต.ทิพากร แก้วเปล่ง สว.กก.สส. บก.น.1 และ พ.ต.ต.นันทพล ทองน่วม สว.งานสายตรวจ 1 กก. สายตรวจ บก.สปพ.

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000063563(เครดิต)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

2 ดาบตำรวจเอี่ยวปล้น-ข่มขืนสาว โร่มอบตัว-ปฏิเสธทุกข้อหา

คืบหน้าคดีสาวโร่แจ้งถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจบุกจับแล้วรีดทรัพย์-ข่มขืน ล่าสุด 2 ดาบตำรวจโรงพักนาจอมเทียน ดอดเข้าพบพนักงานสอบสวนกลางดึกพร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

จากกรณีที่ นางสาวอ้อ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สิระภูเดชน์ ชำนาญกิจ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ทำการจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติด ก่อนข่มขู่ลักทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งพบว่ามี 2 นายดาบตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาจอมเทียน เข้าไปเกี่ยวข้อง ตามที่รายงานไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: รวบแก๊งอ้างเป็นตำรวจพาสาวจากห้องขังไปข่มขืน พบมี 'ด.ต.' พัวพัน

ความคืบหน้าของคดีนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 มิถุนายน ได้ออกหมายเรียกตัว 4 ตำรวจอาสาที่พัวพันคดีดังกล่าว มาเข้าพบที่ สภ.เมืองพัทยา แต่ปรากฏว่ามีเพียง นายไพโรจน์ บุญมี อายุ 46 ปี กับนายคณึง เกษา อายุ 29 ปี เดินทางมาพบตำรวจเท่านั้น

เบื้องต้นจึงนำตัวทั้งคู่ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา และคัดค้านการประกันตัว ส่วน นายชำนาญ คงเปลี่ยน หรือ อึ่ง อายุ 43 ปี ที่อ้างตัวเป็นหัวหน้าชุด กับ นายอภิชาติ ฟันกัมเปิ่น หรือ เอ อายุ 34 ปี ที่ไม่ได้มาตามนัด ภายหลังจะได้ขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป

ขณะที่ ด.ต.ธัญเกียรติ เสริฐดิลก หรือ ดาบหวัง กับ ด.ต.บันดล ทองมา หรือ ดาบดล ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.นาจอมเทียน ที่ผู้เสียหายยืนยันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ , กักขังหน่วงเหนี่ยว และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดยตำรวจทั้ง 2 นายได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว พร้อมกับได้ให้การปฏิเสธ ทางพนักงานสอบสวนจึงบันทึกคำให้การไว้ก่อนปล่อยตัวไปชั่วคราว หลังจากนี้จะได้รวบรวมพยานหลักฐานและสำนวนคดีทั้งหมด ส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งทางตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ยืนยันว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

http://news.sanook.com/2018290(เครดิต)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ชาวบ้านสงสาร! ตาถูกจับฐานฆ่าหลานชาย บ่นขรมตายเสียได้ก็ดี

หลานชายถูกตาด่า "กินแต่เหล้า"ไม่ยอมทำงาน ใช้ปืนบีบีกันตีตาศีรษะแตก ตาหยิบมีดเหลาตอกแทงเข้าลิ้นปี่ตายคาที่ รอมอบตัวตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. สภ.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ได้ควบคุม นายหลิน อายุ 74 ปี ชาวบ้านหมู่ 14 บ้านลาดนาเพียง ต.สาวัตถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น คณะกรรมการวัดประจำหมู่บ้าน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพฆ่า นายวสันต์ อายุ 32 ปี หลานชายแท้ๆ ของนายหลิน ที่ชอบทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ ตายคาที่อยู่ตรงหน้าบ้านด้วยอาวุธมีดเหลาตอก

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายหลินมาที่เกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากที่เสียใจ และมาดูการทำแผนทุกคนเสียใจที่นายหลินถูกจับ พร้อมกับสมน้ำหน้าที่นายวสันต์ตายเสียได้ก็ดี แต่ไม่น่ามาถูกตาแท้ๆ เลี้ยงนายวสันต์ที่เป็นหลานชายมาตั้งแต่เกิดฆ่าตาย

การทำแผนเริ่มต้นจากนายหลินนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ในบ้านของนายหลิน แล้วนายวสันต์เมาเหล้ามาจากไหนไม่ทราบเข้ามาเอะอะโวยวายในบ้าน ทำให้นายหลินตื่นขึ้นมาได้ว่ากล่าวนายวสันต์งานการไม่ยอมทำกินแต่เหล้า นายวสันต์โกรธมากจึงได้หยิบปืนบีบีกันที่ถือติดมือมาด้วยตีเข้าที่ศีรษะจนแตก ก่อนวิ่งหลบหนีไปท้านายหลินมาชกต่อยกันที่หน้าบ้าน

นายหลินจึงได้หยิบมีดเหลาตอกใต้แคร่ออกไปหา แล้วตากับหลานชายโต้เถียงกันอีกหลายคำ นายวสันต์ทำท่าจะเข้ามาชกต่อยผู้เป็นตา จึงถูกมีดเหลาตอกเสียบเข้าที่ลิ้นปี่ แล้วนายวสันต์ก็วิ่งเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งอยู่ติดกับบ้านของนายหลิน ไปล้มตายตรงหน้าบ้านหลังนั้น จากนั้นนายหลินให้ญาติแจ้งตำรวจเพื่อมาจับกุมตัว

พ.ต.อ.ชุมพล หันชะนา ผกก.สภ.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 19.15 น.วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายด้วยอาวุธมีดที่บ้านลาดนาเพียง ภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 14 เมื่อตรวจสอบบริเวณข้างบ้าน พบศพนายวสันต์เสียชีวิตจมกองเลือดท้ายกระบะพ่วงรถไถเดินตามในบ้านหลังดังกล่าว โดยมีสภาพศพถูกแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายด้วยอาวุธมีดเหลาตอก

ซึ่งผู้ที่ลงมือก่อเหตุแทงนายวสันต์เสียชีวิต คือ นายหลินตาแท้ๆ ของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้รอมอบตัวกับทางตำรวจ สภ.บ้านเป็ด มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย

"ทั้งสองคนเป็นญาติกันโดยนายหลินผู้ต้องหา มีศักดิ์เป็นตาแท้ๆ ของนายวสันต์ซึ่งเป็นหลานชาย ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางวันในหมู่บ้านได้มีการฆ่าวัว เพื่อเตรียมจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟประจำปีของบ้านลาดนาเพียง โดยนายหลินไปช่วยงานวัดในหมู่บ้านลาดนาเพียง เพราะตนเองเป็นกรรมการวัดด้วย

ส่วนนายวสันต์กินเหล้าขาวตามบ้านที่รู้จัก และชอบระรานเพื่อนบ้านอีก ช่วงเกิดเหตุผู้เป็นตาเดินมาจากวัดเพื่อกลับมาพักผ่อนที่บ้านของตนเอง ก็ได้มีหลานชายถือปืนบีบีกันมาทำร้ายตาถึงในบ้านของตาเอง ตาหลินไม่พอใจได้หยิบมีดเหลาตอกตามไปแทงนายวสันต์หลานชายแท้ๆ ตายที่บ้านติดกัน และรอมอบตัว

อย่างไรก็ตาม ตาหลินและนายวสันต์หลานชายจะทะเลาะกันอยู่เสมอ และตาหลินจะเป็นผู้ยอมนายวสันต์หลานชายมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้นายวสันต์ได้มาตีศีรษะนายหลินผู้เป็นตาก่อน จึงต้องถูกตาใช้อาวุธมีดฆ่าตายดังกล่าว" พ.ต.อ.ชุมพล กล่าว

http://news.sanook.com/2018554(เครดิต)

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

//////////////////////////////////////////////////////////////

ขอแนะนำคอลัมน์ดี/คลิปดี (เว๊บไซ้ท์ดีที่เราขอชมเชย).....

ซึ่งมีชื่ออยู่ในคลิปหรือข่าวที่อยู่ด้านบนนี้(เครดิต)และ.....

ขอชมเชยและขอให้เครดิตเว๊บไซ้ท์ดีที่มาของข่าว/ภาพ.....

นี่คือตัวอย่างบางส่วนอ่านเพิ่มเติมได้ตามแว๊บที่อยู่ด้านบน.....

/////////////////////////////////////////////////////////////

/////////////////////////////////////////////////////////////

ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์.....ถ่ายทอด.....

น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....

ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....

(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...

จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....

(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) สุพรรณษา แซ่อั๊ง(นามปากกา"ผักบุ้ง).....

สุพัฒน์กฤต(ป้อม) เจ้าของสื่อหลายฉบับ ที่ปรึกษา บ.ก......

บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....

สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”).....

ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”)....ผู้ช่วยบ.ก….

สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์').....ที่ปรึกษาบ.ก......

ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....ที่ปรึกษา......

ชมรมนักข่าวช่วยสังคม......(ที่ปรึกษา).....

เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....

นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....

โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056).....

ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....

ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลักสิบสื่อ).....

รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....

dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....

คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....

รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....

รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....

……………………………………………………………….