รมว.ท่องเที่ยวฯ
คุมเข้มกิจกรรมอันส่อให้เกิดภาพลักษณ์ด้านลบ
ย้ำ ! หากพบให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ย้ำ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าของที่พัก โรงแรม
คุมเข้มการจัดกิจกรรมอันส่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อการท่องเที่ยว
เช่นกรณีนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติ ประมาณ 20 คน
เปลือยกายเล่นน้ำบริเวณชายหาดหัวหิน เมื่อวันเสาร์ที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้รับทราบข่าวดังกล่าวและได้ประสานไปยังกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
ให้เน้นย้ำสถานประกอบการทุกแห่งให้มีการคุมเข้ม กวดขันการทำกิจกรรมต่างๆ ของผู้เข้าพัก
หากมีกิจกรรมใดที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวและของประเทศ ให้ทางโรงแรมแจ้งเตือนให้งดกิจกรรมดังกล่าว
และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐผู้รับผิดชอบทราบโดยเร็ว
เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบ ทั้งนี้ หากพบการกระทำที่เข้าข่าย
ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว
หรือนักท่องเที่ยว ให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที...
พ.ต.ต.พันธุ์ล้าน ปฐมพรวิวัฒน์สว.ส.ทท.7
กก.2 บก.ทท. กล่าวว่า ได้มีการดำเนินคดีกับบริษัททัวร์ ตาม
พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มาตรา 24 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องไม่กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยว ซึ่งทางกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
ได้มีการประสานงานไปยังโรงแรมทุกโรงแรมที่มีหาดส่วนตัว
หากว่ามีกิจกรรมที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้อีก
ให้แจ้งประสานมายังตำรวจท้องที่หรือตำรวจท่องเที่ยวเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์เนื่องจากโรงแรมส่วนมากเป็นหาดส่วนตัว
รมว.ท่องเที่ยวฯ
ได้กำชับแก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่พัก โรงแรม
บริษัททัวร์ หรือมัคคุเทศก์ ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลการประพฤติปฏิบัติของนักท่องเที่ยวให้อยู่ในกฎกติกาของสังคมบ้านเราด้วย
แม้จะเป็นชาวต่างชาติแต่เมื่อมาอยู่ในประเทศไทยก็ต้องเคารพและปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีของไทย
ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติเจ้าของบ้าน นอกจากนี้การเมาสุราจนไม่สามารถควบคุมสติและพากันลงเล่นน้ำลักษณะเช่นนี้นับเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย
อาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมตามมาได้
*************************
จับปรับรถทัวร์นำเที่ยว– ถกปัญหานอมินี
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา(รมว.กก.) ได้สั่งการไปยังกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวให้เข้มงวดดูแลเรื่องร้องเรียนจากกรณีที่มีการโพสต์คลิปลงในสื่อออนไลน์ในกรณีที่ผู้ขับขี่รถทัวร์นำเที่ยวไม่ยินยอมให้นักท่องเที่ยวซึ่งโดยสารมากับรถคันดังกล่าวนำสินค้าที่ซื้อมาจากร้านอื่นขึ้นรถในพื้นที่เมืองพัทยา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาลผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวรายงานว่าได้เรียกตัวพนักงานขับรถมาพบ
ซึ่งทราบชื่อในภายหลังคือ นายสวย พลจันทร์จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา
ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ
ในข้อหากระทำการใดๆอันเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา
106 แห่ง พรบ.การขนส่งทางบก ในอัตราสูงสุดเป็นเงิน 5,000
บาท
นอกจากนี้ ยังได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามนโยบายรัฐบาลในการป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและบุคคลต่างชาติที่เข้ามาลักลอบประกอบธุรกิจในประเทศไทยในลักษณะแอบแฝง โดยกระจายกำลังกันออกกวดขันจับกุมการกระทำผิด
ในพื้นที่เมืองพัทยารวม 15 จุดพร้อมกับตรวจสอบสถานประกอบการที่มีลักษณะ
“นอร์มินี” ผลปรากฏว่าพบการกระทำความผิดตามพรบ.จราจร
และ พรบ. ขนส่งทางบก จำนวน 11 ราย ความผิดตาม พรบ. ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
จำนวน 2 ราย
และเช้าวานนี้ (7มี.ค.) รมว.กก. ได้ลงพื้นที่ติดตามการตรวจจับนอมินีที่
จ. ภูเก็ต โดยประชุมร่วมกับคณะกรรมการกลั่นกรองการจดทะเบียนธุรกิจเพื่อป้องกันการประกอบธุรกิจนอมินี
โดยมีนายจำเริญ ทิพยพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายประเจียด
อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคเอกชน
ได้แก่สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวอันดามัน
หอการค้าจังหวัดภูเก็ตสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวและสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมประชุมและให้ข้อมูลซึ่งจากการประชุมหารือทำให้ได้ทราบวิธีการของนอมินีว่ากว่า
95% ของการจดทะเบียน จะมีการจดผ่านทางสำนักงานบัญชีหรือสำนักงานทนายความซึ่งพบว่ามีรายชื่อของผู้ก่อตั้งหรือผู้ถือหุ้นซ้ำๆกันอยู่ในหลายบริษัทโดยธุรกิจนอมินีที่ตรวจจับแล้วขณะนี้อยู่ในกระบวนการดำเนินการอย่างเข้มงวด
พร้อมกันนี้ได้เพิ่มมาตรการเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนโดยขอความร่วมมือผ่านทางสำนักงานตรวจสอบบัญชีให้ติดตามตรวจสอบเรื่องการจดทะเบียนตรวจสอบการจ่ายภาษีของผู้ถือหุ้นและปปง.จะเข้ามาตรวจสอบกระบวนการเส้นทางการเงินกรณีเปิดใหม่ก็จะให้เอกชนและท้องถิ่นเข้ามาร่วมเป็นคณะตรวจสอบซึ่งรูปแบบการดำเนินการดังกล่าวนี้เริ่มใช้แล้วที่จังหวัดภูเก็ตโดยปัญหาที่พบคือมีจำนวนบริษัทที่เปิดดำเนินการอยู่เป็นจำนวนมากเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวก็มีมากกว่า7,000 บริษัทจึงได้ขอความร่วมมือให้กรมสรรพากรพิจารณาเรื่องการเพิ่มเจ้าหน้าที่พนักงานเพื่อให้สามารถเร่งติดตามงานได้รวดเร็วมากขึ้น
รมว กอบกาญจน์
กล่าวเพิ่มเติมว่าในระยะกลางและระยะยาว
จะต้องมีการปรับกฎหมายซึ่งได้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์โดยทั้งหมดจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงว่าประเทศเรายังต้องการการลงทุนประเภทใดอยู่บ้างเราจะต้องเข้มงวดสำหรับนักลงทุนต่างประเทศโดยเฉพาะในธุรกิจบางประเภทที่มีผลต่อขีดการแข่งขันไทยกับประเทศเพื่อนบ้านส่วนระยะเวลาและวิธีการที่ใช้ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเติบโตทางธุรกิจของไทยต่อไป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
พัฒนาบุคลากรด้านบริหารจัดการการท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ร่วมกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จัดฝึกอบรมบุคลากรการท่องเที่ยว
เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
วันนี้ (8 มี.ค)
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ครอบคลุมทุกกลุ่มทั้งในระดับผู้บริหาร
นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติการให้มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
และองค์ความรู้อื่นให้เหมาะสมสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่โดยพัฒนาบุคลากรภาครัฐและเอกชนใน
ได้แก่ 1. กลุ่มนักบริหาร นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานภาครัฐและท้องถิ่น 2.
กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์
3.กลุ่มผู้ให้บริการภาคการท่องเที่ยวและกลุ่มเครือข่ายท่องเที่ยวโดยชุมชน
หลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว ประกอบด้วย 4
หมวดวิชา ได้แก่ หมวดวิชาที่ 1
การบริหารจัดการอุสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Tourism
Management
for
Sustainability)
หมวดวิชาที่ 2 สัมมนาการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
(Tourism Industry Competitiveness Enhancement Seminar)
หมวดวิชาที่ 3 สัมมนาการบูรณาการจัดการการท่องเที่ยว
(Tourism Integration Seminar)
หมวดวิชาที่ 4 การศึกษาดูงานในประเทศ
(Domestic Site Visit)
โครงการนี้
มีการจัดอบรมขึ้นใน 4 ภูมิภาคและกรุงเทพมหานคร รวม 5 รุ่น รุ่นละ 150 คน ได้แก่ บุรีรัมย์
ระหว่างวันที่ 1-4 มี.ค. 59 ณ โรงแรมเทพนคร, กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 8-11 มี.ค.59
ณ โรงแรมตะวันนา, เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 21-24 มี.ค.59 ณ โรงแรมเมอร์เคียว,
กระบี่ ระหว่างวันที่ 26-29 เม.ย.59 โรงแรมดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง
และชลบุรี ระหว่างวันที่ 10-13 พ.ค.59 ณ โรงแรม A-ONE
..............................
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์ (ดีโพลมา 8359 )ถ่ายทอด.....
น.ส.พ.ดีโพลมานิวส์เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร.....
ไม่รับโฆษณา ลงข่าวฟรี! ประกาศข่าวฟรี! ฟรีทุกอย่าง.....
ดังมีรายนามผู้บริหารดังนี้…. บ.ก.เกรียงไกร พรเทพ.....
(พี่เทพ) (บรรณาธิการและหัวหน้ากองบรรณาธิการ).....
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
อดีตห.น.ข่าวร้องทุกข์และห.น.ศูนย์วิทยุน.ส.พ.ดาวสยาม...
จตุพล (บ.ก.บริหาร 3 สื่อ) บุญรุ่ง พวงทอง.....
(อดีตคนเดลิมิเร่อร์) ผู้ช่วย บ.ก......
บรรทิศ คนเมืองคอน(ผู้ช่วย บ.ก.ดีโพลมานิวส์).....
สุจิตรา(นามปากกา “หญิงเหล็ก”).....
ปฐมภพ(นามปากกา “คนสายกลาง”).....
สมชัย(นามปากกา"พฤกษ์ภิรมย์")ที่ปรึกษาบ.ก......
ชมรมสื่อมวลชนและเพื่อนทนายความ.....
(รับปรึกษาปัญหากฎหมายฟรี!).....
เสริมสุข ขวัญปัญญา(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
นงลักษณ์ สุขจิรัง(ฝ่ายข่าวกฎหมาย-ทนายความ).....
โทร.099-2612588 หรือ 086 – 7928056).....
ข่าวที่เห็นอยู่นี้เป็นตัวอย่างเพียงบางส่วนเท่านั้น.....
ข่าวนี้จะนำไปลงสื่อฯต่างๆในเครืออีกครั้ง(หลายสื่อ).....
รวมสื่อต่างๆแล้วเรามีผู้อ่านข่าวร่วมหลายแสนคน.....
dpm2554@gmail.com(เรามีพันธมิตรสื่อจำนวนมาก).....
คอลัมนิสต์นามปากกา“คนพิเศษ”(ผู้ตรวจข่าวคนที่1.).....
รองฯ กรรณชัย (นามปากกา”ผู้กองแอ๊ด”).....
รอง บ.ก. ดูแลข่าวตำรวจ.....(ผู้ตรวจข่าวคนสุดท้าย).....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น