ประเทศไทยต้อนรับนักธุรกิจวงการแต่งงานกว่า
450 ราย ร่วมงาน Destination Wedding Planners
Congress พร้อมโชว์ศักยภาพการเป็นสวรรค์ของคู่สมรสทั่วโลก
|
เช้าวันนี้
(3
พฤษภาคม 2560) นางกอบกาญจน์
วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Destination
Wedding Planners Congress 2017” หรือ DWP Congress
ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางชั้นเยี่ยม
สำหรับกลุ่มผู้จัดงานแต่งงานและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้บริหาร ททท. ร่วมงาน ณ ลากูน่า ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เปิดเผยว่า การที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดประชุม Destination
Wedding Planners Congress 2017 ครั้งนี้
ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรองรับการจัดงาน
แต่งงาน
เส้นทางท่องเที่ยวเพื่อดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์
ที่พักระดับหรูหรา การคมนาคมที่พร้อมสรรพ รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ
ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชุดแต่งงาน ของชำร่วย การจัดดอกไม้ เรือยอร์ช เป็นต้น
นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังมีความพร้อมด้านแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่จัดงานที่มีความหลากหลาย
สามารถจัดงานแต่งงานในแนวคิด (theme)ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท.
กล่าวเพิ่มเติมว่า ททท.
ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มตลาดคู่แต่งงานซึ่งสามารถสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยได้ในระดับสูง
คู่แต่งงานจะมีการใช้จ่ายอย่างน้อยประมาณ 5 - 20 ล้านบาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ร่วมงาน
โดยเฉพาะในปัจจุบันกลุ่มคู่แต่งงานอินเดียและฮ่องกง
มีความนิยมเดินทางมาจัดงานแต่งงานที่ประเทศไทยจำนวนมาก
ที่ผ่านมามีจำนวนคู่แต่งงานจากอินเดียเดินทางมาไม่น้อยกว่า 400 คู่ต่อปี
สำหรับตลาดยุโรป และอเมริกา ได้มีขยายตัวสำหรับกลุ่มคู่แต่งงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการเป็น Wedding Destination ของไทย
ททท.จึงได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการการจัดงานดังกล่าวในปีนี้
สำหรับการงาน “Destination
Wedding Planners Congress (DWP Congress) 2017” จัดขึ้นในวันที่ 2 – 4 พฤษภาคม 2560 ณ จังหวัดภูเก็ต
โดยงานดังกล่าวเป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับตลาดเฉพาะด้าน
Wedding ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นโอกาสที่ไทยจะประกาศความพร้อมในการเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดงานแต่งงาน
เป็นการปรับโครงสร้างการทำการตลาดของ ททท. ไปสู่การเป็น Quality Leisure
Destinations โดยในแต่ละปีจะมีทั้งผู้ซื้อ
(Buyer) และผู้ขาย (Seller) ที่อยู่ในกลุ่ม
Wedding Planner / Organizer โรงแรม
รีสอร์ทระดับ 5 ดาว และบริษัทผู้ให้บริการด้านการจัดการการท่องเที่ยว (DMC : Destination Management Company) จากประเทศต่างๆ
ทั่วโลกไม่น้อยกว่า 450 ราย เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ ททท.
ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวมาแล้ว 3 ครั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2557เป็นต้นมา ณ สาธารณรัฐเฮเลนิก(กรีซ)
สาธารณรัฐมอริเชียส และสาธารณรัฐอิตาลี ตามลำดับ
ผู้จัดงานจะคัดเลือกประเทศที่มีภาพลักษณ์โดดเด่นด้าน Wedding
Destination เป็นเจ้าภาพในแต่ละปี
ในปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน ฯ
นายยุทธศักดิ์
กล่าวถึงกิจกรรมในการจัดงานว่ามีหลายส่วนด้วยกัน ได้แก่ การจัด Trade-to-Trade
Exhibition
โดยกำหนดให้มีการนัดหมายล่วงหน้า (Pre-scheduled appointments) ผ่านระบบ on-line จัดระบบ Appointment Setting โดยผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเลือกนัดหมายได้ตามความต้องการ
โดยผู้ซื้อ (Influential
Decision-Making Buyers) มาจากกว่า 65 ประเทศทั่วโลก เช่น สหราชอาณาจักร
สหรัฐอเมริกา บราซิล อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย โครเอเชีย
เลบานอน แอฟริกา กัวเตมาลา สหรัฐอาหรับ -เอมิเรตส์ อินเดีย
สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นต้น
ซึ่งผู้ซื้อที่เข้าร่วมงานเป็นผู้ซื้อที่มีคุณภาพโดยได้รับการกลั่นกรองจากคณะผู้จัดงานมาแล้วเป็นอย่างดี ส่วนผู้ขาย (Seller)
แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มWedding Planner ระดับโลก เครือโรงแรมระดับ 5 ดาว บริษัทนำเที่ยว DMC และองค์การส่งเสริมทางการท่องเที่ยวประเทศต่างๆ
การจัดสัมมนา (Seminar) และการสร้างเครือข่าย (Networking)
ซึ่งผู้จัดงานได้เชิญ Wedding Planner, Wedding
designer, Event organizer ที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมแต่งงานทั่วโลกมาเป็นวิทยากรและแขกรับเชิญ
เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การสร้างกลยุทธ์ และเครือข่ายในการทำงาน
ในหัวข้อต่างๆ ได้แก่ COMMECTING THE WORLD, STRICTLY
BUSINESS, LUXURY UNLEASHED!, THE POWER OF COLLABOATIONS, LET’S GET LEGAL!,
EMERGING MARKETS – UNLIMITED OPPORTUNITIES, BIG FAT WEDDINGS และ “YOUR”
DESTINATION OF CHOICE ซึ่งผู้ว่าการ ททท. เป็นผู้บรรยาย นอกจากนี้
ยังมีการจัด Networking Lunch / Dinner เพื่อพบปะหารือแนวทางส่งเสริมการตลาดร่วมกัน
พร้อมทั้งอัพเดทสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวและสินค้าบริการด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยจะได้นำเสนอความพร้อมและความเป็นมืออาชีพในการเป็น
Wedding Destination ระดับโลก
โดยการนำเสนอความงดงามหรูหราของการจัดงานในทุกด้าน ทั้งการตกแต่งสถานที่
การจัดงานเลี้ยง อาหารและของว่าง ของที่ระลึก ระบบแสงเสียง ดนตรีและการแสดง เป็นต้น นอกจากนี้ ททท.ยังได้จัดรายการนำเที่ยว 3 เส้นทาง คือ
ภูเก็ต สมุย และเชียงใหม่
เพื่อให้เห็นความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่จัดงานแต่งงานในไทย อีกด้วย
ปัจจุบัน
อุตสาหกรรมการแต่งงานเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมการแต่งงานของโลกในปัจจุบันอยู่ที่
298 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่ารวมของการจัดงานแต่งงานในต่างประเทศคือ 80
พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็น Wedding
Destination ที่น่าสนใจสำหรับภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ อันดับ 1 ใน Top
Destination สำหรับเอเชีย อันดับ 3 ใน Top Destination สำหรับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นอันดับ 6 ใน Top Destinationสำหรับยุโรป อันดับ 3 ใน Emerging Destination สำหรับตะวันออกกลาง
และเป็นอันดับ 1 ใน Emerging Destinationสำหรับแอฟริกา
(ข้อมูลจากการสัมมนาในงาน Destination Wedding Planners Congress 2017)
............................................................................
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำผลสำเร็จประชุม WTTC Global Summit
ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น
Quality Leisure Destination และ
Sports Hub เด่นชัดในเวทีระดับโลก
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงผลสำเร็จของการประชุม WTTC Global Summit ครั้งนี้ว่า มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 1,200
คน จาก 57 ประเทศ มีรัฐมนตรีจาก 8 ประเทศเข้าร่วมงาน พร้อมด้วย CEO บริษัทชั้นนำ เจ้าของธุรกิจ ด้านการโรงแรม สายการบิน
สนามบิน รถเช่า เรือสำราญ
และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและท่องเที่ยว มีสื่อต่างชาติติดตามทำข่าวกว่า 150 ราย รวมทั้งสื่อออนไลน์ มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกซึ่งมีผู้ชมเกินกว่า 10 ล้านคน แสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยในการจัดประชุมระดับโลก
ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น สามารถสร้างศักยภาพด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวของประเทศไทยทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพให้เติบโตอย่างมั่นคง
มั่งคั่ง และยั่งยืน และอ้างถึงรายงานประจำปี
ของ WTTC ในปี 2016 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.5 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับ 4
ของโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น
4.1 ล้านล้านบาท ขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก ในอีก 10 ปี
ข้างหน้า
นางกอบกาญจน์ กล่าวด้วยว่า ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายไว้
คือ สร้างประเทศไทยเป็น Thailand Plus One เพื่อดึงดูดการลงทุนใหม่จากต่างประเทศ ให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานสำคัญ
ในการเข้าสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ซึ่งมีผู้บริโภคกว่า 620 ล้านคน พัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างกันให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว
เพื่อยกระดับให้ภูมิภาคนี้เป็น Single Tourist Destination จุดหมายปลายทางเดียวกัน โดยกำหนดให้ปี 2560 นี้
เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวภูมิภาคอาเซียนภายใต้ชื่อ “Visit
ASEAN@50” เฉลิมฉลองครบรอบ 50
ปีการก่อตั้งอาเซียน โดยคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูมิภาคได้กว่า 121
ล้านคน และสร้างรายได้กว่า 29 ล้านล้านบาท
ในการประชุม WTTC Global
Summit 2017 ครั้งนี้ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ
Freedom
to Travel - Can ASEAN Countries Lead the Way?
ร่วมกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวอินโดนีเซีย
รัฐมนตรีท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ และผู้อำนวยการภูมิภาค จาก ICAO
Asia & Pacific Office โดยกล่าวถึงการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย
และอาเซียน เพื่อส่งเสริม และอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยว นอกจากนี้
ยังมีการประชุมหารือระดับรัฐมนตรี (WTTC/UNWTO Ministerial Dialogue) ในวาระหัวข้อ "Investments and Partnerships for Sustainable
Tourism Development" และประชุมร่วมสองฝ่ายกับ 6 ประเทศ ได้แก่ เม็กซิโก
อินโดนีเซีย เกาหลี เซเชลล์ เคนย่า กัมพูชา และ องค์กรการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) บริษัทเอกชนรายใหญ่
ซึ่งประเทศไทยได้แนะนำการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC เพื่อรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
และได้ย้ำถึงความพร้อมของเราที่จะก้าวไปพร้อมชาติอาเซียน อีกทั้งการสร้างความร่วมมือของชาติสมาชิก สร้างความแข็งแกร่งของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกัน
นอกจากกลยุทธ์
ในการสร้างไทยเป็นแหล่งจัดประชุมที่สำคัญของโลกแล้ว อีกมิติหนึ่งของการท่องเที่ยวคือ ภารกิจสร้างประเทศไทยเป็น Wedding Hub หรือสถานที่จัดงานแต่งงานและฮันนีมูน จากข้อมูลจากการสัมมนาในงาน
DWP
2017 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเป็น Wedding Destination ที่สำคัญ ได้แก่ อันดับ
1 ใน Top Destination สำหรับเอเชีย อันดับ 3 สำหรับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
อันดับ 6 สำหรับยุโรป อันดับ 3 ใน Emerging Destination สำหรับตะวันออกกลาง และอันดับ 1 ในEmerging Destination
สำหรับแอฟริกา จากสถิติปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมาแต่งงานและฮันนีมูน
ประมาณ 1.1 ล้านคน สร้างรายได้ ประมาณ 50,000 ล้านบาท
มีค่าใช้จ่ายต่อการแต่งงานประมาณ 5-20 ล้านบาท
โดยขึ้นอยู่กับจำนวนญาติพี่น้องและแขกที่ตามมาร่วมงาน
เพราะสามารถกระจายรายได้สู่ชุมชน เช่น ของที่ระลึกที่มาจากท้องถิ่นและมีเอกลักษณ์ความเป็นไทย
รวมทั้งอาหารไทยที่นำมาจัดเลี้ยงในงานซึ่งเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก
นายพงษ์ภาณุ
เศวตรุนทร์
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด จากการประชุม
ครม. เมื่อวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2560 ได้มีการอนุมัติให้
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้าลงนามความตกลงว่าด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดงาน UNWTO World Forum on Gastronomy ครั้งที่ 4 ระหว่างรัฐบาลไทยและองค์การท่องเที่ยวโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 2561
โดยตนจะเป็นผู้แทนจากประเทศไทยร่วมลงนามความตกลงดังกล่าว ในวันที่ 8
พฤษภาคม 2560 และ ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 จะขึ้นเป็นวิทยากรร่วมกับวิทยากรจาก UNWTO ในเรื่องที่เกี่ยวกับ Sustainable Urban Tourism ณ ประเทศสเปน
นางกอบกาญจน์
กล่าวว่า ได้เตรียมการตั้งคณะทำงาน สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาสหพันธ์กีฬานานาชาติ
Sport
Accord Convention 2018 งานสัมนาด้านกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะมีประธานสหพันธ์กีฬาต่าง ๆ กว่า 100 สหพันธ์
และผู้บริหารสหพันธ์กีฬาจากทั่วโลก พร้อมครอบครัว กว่า 5,000
คน เข้าร่วมประชุม
นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในหลายด้านสามารถกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น
ทำให้เกิดการจ้างงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและกีฬาได้อีกมากมาย
รวมถึงได้เปิดเผยถึง รายงานสถานการณ์ท่องเที่ยว ว่าสถิติจนถึงปัจจุบัน
(3 พ.ค. 60)
มีนักท่องเที่ยวสะสมรวมกว่า 12 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่วันที่
1 มกราคม ถึง 30 เมษายน มีนักท่องเที่ยว จำนวน 11,881,434 คน ก่อให้เกิดรายได้ 614,086.04 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.71 และ 3.43
จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตามลำดับ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ขอแนะนำเฉพาะคลิปดีๆคลิปแรกที่มีชื่อด้านล่างและด้านบนนี้เท่านั้น…..
คลิปอื่นที่ต่อเนื่องติดมาไม่เกี่ยวข้องกับเรา
เป็นเรื่องของคนอื่น…..
(เครดิต) (credit)......
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น