ดีโพลมานิวส์สายกลางข่าว.....การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ (ขอชมเชยตำรวจน้ำดีทุกท่าน)
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์(เครดิต)
ปทุมวัน * พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตั้งแต่ระดับสารวัตร (สว.)-รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2559 ว่า เรื่องการแต่งตั้งทุกตำแหน่งตั้งแต่ สว.-รอง ผบก.สิ้นเดือนนี้จบ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา กองทะเบียนพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีบันทึกข้อความให้ข้าราชการตำรวจ 41 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านทะเบียนพลของทุกกองบัญชาการมาปฏิบัติราชการที่กองทะเบียนพล ตร. ระหว่างวันที่ 8-31 พ.ค. เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายธุรการในการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2559 ที่เป็นอำนาจการพิจารณา และออกคำสั่งโดย ผบ.ตร.ทั้งหมด.
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2646401 (เครดิต)
ปทุมวัน * พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตั้งแต่ระดับสารวัตร (สว.)-รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2559 ว่า เรื่องการแต่งตั้งทุกตำแหน่งตั้งแต่ สว.-รอง ผบก.สิ้นเดือนนี้จบ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา กองทะเบียนพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีบันทึกข้อความให้ข้าราชการตำรวจ 41 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านทะเบียนพลของทุกกองบัญชาการมาปฏิบัติราชการที่กองทะเบียนพล ตร. ระหว่างวันที่ 8-31 พ.ค. เพื่อทำหน้าที่ฝ่ายธุรการในการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย สว.-รอง ผบก.วาระประจำปี 2559 ที่เป็นอำนาจการพิจารณา และออกคำสั่งโดย ผบ.ตร.ทั้งหมด.
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2646401 (เครดิต)
(ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง(ถ่ายทอด)
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์(เครดิต) -- ศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2560 00:00:13 น.
ไทยโพสต์ * "รองโฆษก สตช." แจงหมายเรียก "ส.ต.ต." ที่ชุมพร กดไลค์ข้อความในเฟซบุ๊กพบพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน ไม่ใช่หมายจับ เหตุไปถูกใจข้อความคดีหมิ่นประมาท "ผู้พิพากษา" ชี้กดไลค์แค่ชอบไม่ใช่สนับสนุน แต่แชร์ข้อความหมิ่นฯ ผิดด้วย
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวตำรวจยศ ส.ต.อ.พื้นที่ จ.ชุมพร ได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากโรงพักแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เพราะไปกด Like (ถูกใจ) ใน Facebook (เฟซบุ๊ก) ของตำรวจ 2 นาย ที่มีคดีหมิ่นประมาทกันว่า ขอชี้แจงความสับสนที่เกิดขึ้นว่าหมายเรียกที่ออกมาเป็นหมายเรียกในฐานะพยานไปพบ เพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในสำนวน แต่กลายเป็นประ เด็นลือกันว่าการกดไลค์จะเป็นความผิดนั้นไม่ใช่ ไม่เป็นความจริง แต่เป็นการเรียกไปพบเพื่อให้ข้อมูลในฐานะพยานเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการกดไลค์แล้วถูกหมายเรียก
ไทยโพสต์ * "รองโฆษก สตช." แจงหมายเรียก "ส.ต.ต." ที่ชุมพร กดไลค์ข้อความในเฟซบุ๊กพบพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน ไม่ใช่หมายจับ เหตุไปถูกใจข้อความคดีหมิ่นประมาท "ผู้พิพากษา" ชี้กดไลค์แค่ชอบไม่ใช่สนับสนุน แต่แชร์ข้อความหมิ่นฯ ผิดด้วย
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวตำรวจยศ ส.ต.อ.พื้นที่ จ.ชุมพร ได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากโรงพักแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เพราะไปกด Like (ถูกใจ) ใน Facebook (เฟซบุ๊ก) ของตำรวจ 2 นาย ที่มีคดีหมิ่นประมาทกันว่า ขอชี้แจงความสับสนที่เกิดขึ้นว่าหมายเรียกที่ออกมาเป็นหมายเรียกในฐานะพยานไปพบ เพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในสำนวน แต่กลายเป็นประ เด็นลือกันว่าการกดไลค์จะเป็นความผิดนั้นไม่ใช่ ไม่เป็นความจริง แต่เป็นการเรียกไปพบเพื่อให้ข้อมูลในฐานะพยานเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการกดไลค์แล้วถูกหมายเรียก
"ยกตัวอย่างเช่น คดีนี้เกิดขึ้นระหว่าง นาย
ก. กับ ข. และมีหมายเรียกให้ ค. ไปให้ถ้อยคำในสำนวนคดีของ นาย ก. และ ข.
แค่นั้นเอง โดยไม่ได้ไปกล่าวว่านาย ค.ไปกดไลค์เป็นความผิดไม่ใช่แบบนั้น
ถ้าดูในหมายเรียกเป็นหมายเรียกคือพยาน
เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อเอกสารหลุดไปเป็นเรื่องปกติ
เป็นการเรียกมาให้ถ้อยคำเท่านั้นเอง" รองโฆษก สตช.กล่าว
อย่างไรก็ดี ส.ต.อ.รายนี้ที่กดไลค์เฟซบุ๊กจนถูกหมายเรียกระบุว่า ไม่ชอบเล่นเฟซบุ๊ก แต่สมัครไว้เพื่อรับทราบข่าวสารต่างๆ ให้ทันต่อเหตุการณ์ โดยจะเปิดคอมพิวเตอร์ที่บ้านพัก และเข้ารหัสเอาไว้กับเครื่อง ดังนั้นช่วงที่ตนไม่อยู่บ้านจะมีลูกอายุประมาณ 10 ขวบ เข้าไปเล่นคอมพ์ เด็กอาจไปกดไลค์เล่นตามประสา ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อ่านข้อความแต่อย่างใดเหมือนกับไปสนับสนุนข้อความดังกล่าว
ขณะที่ นายเสาวภักดิ์ สกุล โรมวิลาส อุปนายกสภาทนายความ ฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กล่าวว่า กรณีมีตำรวจถูกออกหมายเรียกจากการกด ไลค์ข้อความหมิ่นประมาทในเฟซ บุ๊ก หากพิจารณาดูว่าถ้าเป็นข้อ ความหมิ่นประมาทอาจเป็นการสนับสนุนก็ได้ จึงเป็นเหตุให้พนัก งานสอบสวนเรียกตัวมาสอบสวนได้ว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ การจะไปหรือไม่ไปตามหมายเรียกเป็นสิทธิ ส่วนการออกหมายจับก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
"การเรียกไปสอบสวนนี้เปรียบเสมือนกับการล่อซื้อสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกในฐานะพยานหรือผู้ต้องหาก็ได้ในเรื่องการหมิ่นประมาท หาก เป็นเรื่องจริงก็ไม่มีปัญหา และต้องดูเรื่องเจตนาประกอบด้วย" อุปนายกสภาทนายความกล่าว
แหล่งข่าวระดับผู้พิพากษาให้ความเห็นว่า การกดไลค์คือการที่เราดูแล้วชอบหรือเชื่อ ไม่ใช่เป็นการสนับสนุน กรณีที่เจ้าหน้า ที่ตำรวจเชิญไปเป็นพยานตามที่เป็นข่าวนั้นอาจเพื่อดูว่าเชื่อและเป็นผู้สนับสนุนให้มีการโพสต์ดังกล่าวหรือไม่ ไม่ใช่ว่าใครกดไลค์แล้วจะกลายเป็นจำเลยร่วมไปหมด สำคัญคือต้องดูว่าเรียกเป็นพยานหรือผู้ต้องหา ถ้าแค่ชอบแต่ไม่ได้สนับสนุนให้มีการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทดังกล่าวก่อนหน้านั้นก็ไม่เป็นความผิด แต่ถ้าแชร์หรือส่งต่อข้อความหมิ่นประมาทจะมีความผิดด้วยที่ไม่ได้ไตร่ตรองก่อน ส่วนในขณะนี้มีคำพิพากษาที่เกี่ยวกับการกดไลค์หรือไม่นั้น ยังไม่พบว่ามีแต่อย่างใด.
อย่างไรก็ดี ส.ต.อ.รายนี้ที่กดไลค์เฟซบุ๊กจนถูกหมายเรียกระบุว่า ไม่ชอบเล่นเฟซบุ๊ก แต่สมัครไว้เพื่อรับทราบข่าวสารต่างๆ ให้ทันต่อเหตุการณ์ โดยจะเปิดคอมพิวเตอร์ที่บ้านพัก และเข้ารหัสเอาไว้กับเครื่อง ดังนั้นช่วงที่ตนไม่อยู่บ้านจะมีลูกอายุประมาณ 10 ขวบ เข้าไปเล่นคอมพ์ เด็กอาจไปกดไลค์เล่นตามประสา ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อ่านข้อความแต่อย่างใดเหมือนกับไปสนับสนุนข้อความดังกล่าว
ขณะที่ นายเสาวภักดิ์ สกุล โรมวิลาส อุปนายกสภาทนายความ ฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กล่าวว่า กรณีมีตำรวจถูกออกหมายเรียกจากการกด ไลค์ข้อความหมิ่นประมาทในเฟซ บุ๊ก หากพิจารณาดูว่าถ้าเป็นข้อ ความหมิ่นประมาทอาจเป็นการสนับสนุนก็ได้ จึงเป็นเหตุให้พนัก งานสอบสวนเรียกตัวมาสอบสวนได้ว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ การจะไปหรือไม่ไปตามหมายเรียกเป็นสิทธิ ส่วนการออกหมายจับก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
"การเรียกไปสอบสวนนี้เปรียบเสมือนกับการล่อซื้อสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกในฐานะพยานหรือผู้ต้องหาก็ได้ในเรื่องการหมิ่นประมาท หาก เป็นเรื่องจริงก็ไม่มีปัญหา และต้องดูเรื่องเจตนาประกอบด้วย" อุปนายกสภาทนายความกล่าว
แหล่งข่าวระดับผู้พิพากษาให้ความเห็นว่า การกดไลค์คือการที่เราดูแล้วชอบหรือเชื่อ ไม่ใช่เป็นการสนับสนุน กรณีที่เจ้าหน้า ที่ตำรวจเชิญไปเป็นพยานตามที่เป็นข่าวนั้นอาจเพื่อดูว่าเชื่อและเป็นผู้สนับสนุนให้มีการโพสต์ดังกล่าวหรือไม่ ไม่ใช่ว่าใครกดไลค์แล้วจะกลายเป็นจำเลยร่วมไปหมด สำคัญคือต้องดูว่าเรียกเป็นพยานหรือผู้ต้องหา ถ้าแค่ชอบแต่ไม่ได้สนับสนุนให้มีการโพสต์ข้อความหมิ่นประมาทดังกล่าวก่อนหน้านั้นก็ไม่เป็นความผิด แต่ถ้าแชร์หรือส่งต่อข้อความหมิ่นประมาทจะมีความผิดด้วยที่ไม่ได้ไตร่ตรองก่อน ส่วนในขณะนี้มีคำพิพากษาที่เกี่ยวกับการกดไลค์หรือไม่นั้น ยังไม่พบว่ามีแต่อย่างใด.
อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2646373(เครดิต)
(ทีมงานน.ส.พ.ดีโพลมานิวส์สายกลาง(ถ่ายทอด)
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
-----------------------------------------------------------------
ข่าวนี้และทุกๆข่าวจะนำลงในยูทูบด้วยนะครับ
ดังตัวอย่างที่อยู่ด้านบนนี้คลิกดูคลิปได้เลยครับ
ข่าวของเราและของท่านจะส่งไปทั่วโลกครับ
ถ้าจะดูข่าวในยูทูบให้คลิกคำว่า(ดีโพลมานิวส์
สายกลางข่าว)ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของคลิป
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
ขอแนะนำเฉพาะคลิปดีๆคลิปแรกที่มีชื่อด้านล่างและด้านบนนี้เท่านั้น…..
คลิปอื่นที่ต่อเนื่องติดมาไม่เกี่ยวข้องกับเรา
เป็นเรื่องของคนอื่น…..
(เครดิต) (credit)......
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น